เทคนิคจัดพอร์ตลงทุนขั้นเทพ

เดี๋ยวนี้ เวลาเปิดรับฟังคำแนะนำการลงทุนจากสื่อไหนๆ เราก็มักจะได้ยินคำว่า นักลงทุนควรทำ Asset Allocation กันบ่อยขึ้น


คำว่า Asset Allocation แปลว่า การจัดสรรสินทรัพย์ คือการที่นักลงทุนวางแผนว่าจะแบ่งเงินทั้งหมดที่เตรียมไว้ ไปลงทุนในสินทรัพย์หลากหลายประเภท


เหตุผลที่เราควรทำ Asset Allocation ก็เพราะว่า ไม่มีสินทรัพย์ประเภทไหน ที่ให้ผลตอบแทนได้ดีโดดเด่นไปตลอดกาล มีวันที่ดีได้ ก็มีวันที่แย่ได้เช่นกัน ฉะนั้นหากเรานำเงินไปลงทุนและฝากความหวังไว้กับสินทรัพย์ประเภทเดียว วันที่ดี พอร์ตเราก็ดูดีมีมูลค่าเพิ่มไปด้วย แต่วันที่สินทรัพย์นั้นราคาปรับลดลงมาก หรือมีปัญหา พอร์ตเราก็จะมีสภาพไม่แตกต่างกัน


หากเราแบ่งเงินไปลงทุนในสินทรัพย์หลากหลายประเภท ที่มีคุณลักษณะแตกต่างกัน เช่น หุ้น ตราสารหนี้ และสินทรัพย์ทางเลือก เป็นต้น เมื่อเกิดความผันผวนของราคาในสินทรัพย์ประเภทใดประเภทหนึ่ง แต่สินทรัพย์ประเภทอื่น ราคาไม่ได้ผันผวนไปด้วย หรืออาจจะมีราคาปรับเพิ่มขึ้น ก็จะทำให้พอร์ตลงทุนโดยรวมของเรา มีมูลค่าปรับลดลงไม่มาก หรืออาจจะยังเติบโตได้อยู่ 


ทั้งนี้ มีข้อควรรู้ สำหรับนักลงทุนที่สนใจทำ Asset Allocation คือ นักลงทุนแต่ละคนมีความสามารถยอมรับความเสี่ยงจากการลงทุนได้แตกต่างกัน มีข้อจำกัดด้านระยะเวลาการลงทุน และเป้าหมายการลงทุนที่แตกต่างกันไป ดังนั้น การทำ Asset Allocation ที่ดี แต่ละคนควรคำนึงถึงปัจจัยที่กล่าวมาด้วย

294692552

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนบางท่านอาจจะรู้สึกว่า การจัดพอร์ตลงทุนเองเป็นเรื่องยาก ไม่อยากนั่งวุ่นวายคิดเอง หรือ จำนวนเงินลงทุนไม่ได้มากมายอะไร หากจะต้องแบ่งเงินลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลาย ก็คงไปลงทุนในสินทรัพย์แต่ละประเภทได้ ด้วยจำนวนเงินไม่มากนัก ซึ่งปัจจุบันก็มีทางเลือกที่มาช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ให้นักลงทุน นั่นก็คือ การลงทุนผ่านกองทุนรวมที่มีการทำ Asset Allocation โดยผู้จัดการกองทุน ที่มีความเป็นมืออาชีพ  


สำหรับตัวอย่าง กองทุน Asset Allocation ได้แก่ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ Cross Asset Investment Opportunity (ชนิดสะสมมูลค่า) หรือ SCBCIO (A) ซึ่งเป็นกองทุน Asset Allocation สำเร็จรูป ที่จัดพอร์ตลงทุนสไตล์มืออาชีพ


รูปแบบของพอร์ตลงทุนมืออาชีพของ SCBCIO (A) นั้น จะวางกลยุทธ์การลงทุน โดยแบ่งเป็น 2 ส่วน


ส่วนแรก - มีการวางแผนระยะยาว เพื่อกำหนดสัดส่วนการลงทุน (Strategic Asset Allocation หรือ SAA) เอาไว้


ส่วนที่ 2 – การปรับสัดส่วนลงทุนตามสภาวะตลาดในแต่ละช่วงเวลา ระหว่างที่ลงทุน (Tactical Asset Allocation หรือ TAA)


เปรียบง่ายๆ ก็เหมือน เราวางแผนเดินทางไปเที่ยวเชียงใหม่ โดยขึ้นเครื่องบิน แล้วไปเช่ารถยนต์ต่อในจังหวัด แต่เมื่อระหว่างทางมีเหตุลมฟ้าอากาศแปรปรวน ก็อาจจะเปลี่ยนเที่ยวบิน เปลี่ยนรุ่นรถยนต์ที่เช่าขับ เปลี่ยนจุดหมายท่องเที่ยวในจังหวัดที่จะไป เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพอากาศได้


ทั้งนี้ กองทุน SCBCIO(A) เป็นกองทุนรวมผสม มีความเสี่ยงระดับที่ 5 คือ เสี่ยงปานกลางค่อนข้างสูง จัดตั้งและบริหารโดย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม ไทยพาณิชย์ จำกัด (SCBAM) โดยมีการจ้าง SCB Chief Investment Office (SCB CIO) เป็นที่ปรึกษาการลงทุน ร่วมทำงานกับผู้จัดการกองทุนอย่างใกล้ชิด


กองทุนนี้ ลงทุนในสินทรัพย์หลากหลายประเภท ทั้งในไทยและต่างประเทศ มีความยืดหยุ่นในการปรับพอร์ตลงทุนค่อนข้างสูง เนื่องจากระหว่างที่ลงทุน สามารถปรับสัดส่วนมาถือเงินสดได้ 0-100% ซึ่งระยะเวลาที่เหมาะสม นอกจากนี้ ยังเป็นกองทุนจัดสรรสินทรัพย์ครบวงจรจบในกองทุนเดียว (One Stop Fund) โดยในการคัดเลือกลงทุน ผู้จัดการกองทุนจะไปคัดเลือกกองทุนรวม ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อลงทุน ภายใต้เงื่อนไขในการดูแลให้พอร์ตลงทุน มีความเสี่ยงโดยรวมในระดับปานกลาง (Moderate) และมีความเหมาะสมกับสภาวะตลาด  


สำหรับการลงทุนผ่านกองทุนที่มีการทำ Asset Allocation อย่าง SCBCIO(A) เพื่อให้มีโอกาสได้รับผลตอบแทนตามเป้าหมาย คือ 3 ปีขึ้นไป


โดยรวมแล้ว หากใครต้องการทำ Asset Allocation จัดพอร์ตลงทุน ให้มีสินทรัพย์ที่หลากหลาย แบบไม่ต้องปวดหัว จัดสรรเองให้ยุ่งยาก แต่ได้พอร์ตขั้นเทพ แบบมืออาชีพ กองทุน SCBCIO(A) ก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ


แต่อย่าลืมด้วยว่า ก่อนลงทุนก็ต้องคำนึงถึงระยะเวลาที่เราลงทุนได้ โดยไม่ต้องนำเงินลงทุนออกมาด้วย หากต้องการใช้เงินลงทุนในช่วงเวลาอีกไม่นาน อาจจะไม่เหมาะกับการนำมาลงทุนในกองทุนนี้ แต่หากเป็นการลงทุน เพื่อเป้าหมายระยะยาวกว่า 3 ปี ก็สามารถลงทุนผ่านกองทุนนี้ได้ 

คำเตือน

·  กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ Cross Asset Investment Opportunity หรือ SCBCIO(A) มีความเสี่ยงระดับ 5 คือ เสี่ยงปานกลางค่อนข้างสูง

·   กองทุน SCBCIO ได้ให้ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาการลงทุน ซึ่งธนาคารฯ เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่และเป็นตัวแทนสนับสนุนการซื้อขายกองทุนรวมกับบลจ. ไทยพาณิชย์ จึงอาจมีธุรกรรมที่อาจก่อให้เกิดความขัดแย้งทางผลประโยชน์

·  การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน

·   ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต

·   ศึกษาข้อมูลกองทุนหลักและหนังสือชี้ชวนกองทุนรวมเพิ่มเติมได้จาก website ของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม ไทยพาณิชย์ จำกัด


บทความโดย SCB CIO  [คุณจารุพันธ์ จิระรัชนิรมย์ (IC Complex1)/ผู้วางแผนการลงทุน (IP) license no. 114051]


จัดทำขึ้นวันที่ 14 มีนาคม 2566