ผลการค้นหา "{{keyword}}" ไม่ปรากฎแต่อย่างใด
การใช้และการจัดการคุกกี้
ธนาคารมีการใช้เทคโนโลยี เช่น คุกกี้ (cookies) และเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกันบนเว็บไซต์ของธนาคาร เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น โปรดอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ นโยบายการใช้คุกกี้ของธนาคาร
08-12-2568
ภาพรวมเศรษฐกิจเวียดนามที่เติบโตอย่างต่อเนื่องตลอดทศวรรษที่ผ่านมา “ตลาดสินค้าแฟชั่น” อาจไม่ใช่อุตสาหกรรมที่ถูกกล่าวถึงบ่อยเท่าอุตสาหกรรมการผลิตหรือเทคโนโลยี แต่ในทางกลับกันเทรนด์การบริโภคของคนรุ่นใหม่ยุคดิจิทัลและโครงสร้างประชากรเวียดนามกำลังส่งสัญญาณให้เห็นว่า “ตลาดแฟชั่นเวียดนาม” เป็นคลื่นลูกใหม่ของเศรษฐกิจที่พร้อมจะเติบโตแบบก้าวกระโดด
ปัจจัยสำคัญที่อยู่เบื้องหลังการเติบโตของตลาดนี้ คือ โครงสร้างประชากรที่อุดมไปด้วยคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะกลุ่ม Millennials และ Gen Z ซึ่งเป็นผู้บริโภคที่เติบโตมาพร้อมกับโลกยุคดิจิทัล และกำลังกลายเป็นกลุ่มที่มีอิทธิพลต่อทิศทางตลาดในหลายมิติ โดยพบว่าร้อยละ 73 ของผู้ใช้งานแพลตฟอร์ม E-Commerce อย่าง Tiktok, Shopee, Lazada และ Tiki อยู่ในกลุ่มอายุ 15–34 ปี อีกทั้งยังมีความถี่ในการซื้อสินค้าแฟชั่นออนไลน์สูงถึงร้อยละ 28.5 ต่อเดือน
จากข้อมูลสถิติปี 2566 พบว่า ตลาดแฟชั่นเวียดนามมีมูลค่าอยู่ประมาณ 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และคาดว่าจะเติบโตในอัตราเฉลี่ย 10% ต่อปี ซึ่งจะทำให้มูลค่าตลาดแตะระดับ 6.5 พันล้านดอลลาร์ ภายในปี 2571
เวียดนามมีแบรนด์แฟชั่นมากกว่า 2,000 ราย ในขณะที่แบรนด์ต่างชาติอย่าง Zara, H&M, Uniqlo ยังคงครองตลาดสินค้าแฟชั่นด้วยกลยุทธ์ Fast Fashion ที่เน้นความหลากหลายและราคาที่เข้าถึงได้ อย่างไรก็ตาม แบรนด์ท้องถิ่นเวียดนามได้เริ่มสร้างพื้นที่ของตนเองอย่างโดดเด่น โดยเฉพาะแบรนด์กลุ่ม Niche Market ที่เน้นเอกลักษณ์เฉพาะตัว แสดงให้เห็นถึงตัวตนของผู้สวมใส่ จุดแข็งของแบรนด์ท้องถิ่น คือ รู้จักตลาดและกลุ่มลูกค้าของตนเองอย่างลึกซึ้ง ทำให้สามารถปรับภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้ตอบโจทย์กับรสนิยมของผู้บริโภคยุคดิจิทัลได้อย่างรวดเร็ว
5 เทรนด์หลักในตลาดแฟชั่นเวียดนาม ที่นักลงทุนไม่ควรมองข้าม
ผู้บริโภคเริ่มหันมาให้ความสำคัญกับเสื้อผ้าที่ผลิตด้วยวิธีที่ยั่งยืน คำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม ตั้งแต่วัตถุดิบจนถึงการกำจัดสินค้าส่วนเกิน ซึ่งส่งผลให้แบรนด์ที่มีความโปร่งใสและมีจุดยืนด้านสิ่งแวดล้อม ได้เปรียบทางการแข่งขันและเอื้อต่อการขยายแบรนด์ไปยังตลาดโลก
ในยุคที่ผู้บริโภคโดยเฉพาะกลุ่มคนเมืองและวัยรุ่นเปรียบเทียบราคาและสไตล์ของเสื้อผ้าผ่านแพลตฟอร์มอย่าง Shopee, Lazada, Tiki รวมถึง TikTok Shop ทำให้การตลาดออนไลน์กลายเป็นสิ่งจำเป็น กลยุทธ์ SEO การทำ Social Commerce และการรีวิวโดยใช้ Influencer จึงกลายเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังที่สุดในการสร้างยอดขาย
การใช้เทคโนโลยีเพื่อช่วยสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ อย่าง Virtual Clothing หรือเสื้อผ้าเสมือนจริง เริ่มเข้ามามีบทบาทในเวียดนาม โดยแบรนด์บางแห่งเริ่มให้ลูกค้าลองเสื้อผ้าผ่านแอปพลิเคชันแบบเสมือนจริง ซึ่งนอกจากจะช่วยเพิ่มความสะดวกในการซื้อขายแล้ว ยังช่วยเพิ่มประสบการณ์ชอปปิงให้แตกต่างและทันสมัย
ปัจจุบันผู้บริโภคต้องการแฟชั่นที่แตกต่าง แสดงความเป็นตัวตนมากขึ้น เสื้อผ้าที่สามารถออกแบบเฉพาะบุคคล จึงเริ่มได้รับความนิยม ขณะเดียวกันแบรนด์ท้องถิ่นก็เริ่มหยิบวัฒนธรรมเวียดนามมาผสมผสานและตีความใหม่ให้ร่วมสมัย เพื่อดึงดูดลูกค้าและสร้างความแตกต่างให้กับแบรนด์
ผู้บริโภคกว่า 90% เชื่อคำแนะนำของอินฟลูเอนเซอร์มากกว่าการโฆษณาแบบเดิม ทำให้อินฟลูเอนเซอร์สายแฟชั่นของเวียดนามมีบทบาทสำคัญในการสร้างยอดขายในกลุ่มคนรุ่นใหม่ แบรนด์แฟชั่นในปัจจุบันจึงให้ความสำคัญต่อ Brand Identity หรือ ใบหน้าของแบรนด์ เพื่อช่วยสร้างความเชื่อมโยงกับกลุ่มลูกค้าให้มากยิ่งขึ้น
ตลาดแฟชั่นเวียดนามกำลังก้าวผ่านช่วงเปลี่ยนสำคัญ มุ่งสู่การเป็นผู้นำเทรนด์แฟชั่น แทนบทบาทเดิมในฐานะแหล่งผลิต นับเป็นตลาดที่มีศักยภาพเติบโตสูง ทั้งด้านยอดขายภายในประเทศ และการส่งออกระดับภูมิภาค สำหรับนักลงทุนที่มองหาโอกาสในตลาดที่พร้อมขยายตัว ตลาดแฟชั่นเวียดนาม คือ หนึ่งในโอกาสที่ไม่ควรปล่อยให้หลุดมือ
ลูกค้าที่สนใจประกอบธุรกิจใน CLMV หรือประเทศเขตอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (Great Mekong Subregion: GMS) ได้แก่ กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม ธนาคารไทยพาณิชย์มีสาขาต่างประเทศที่พร้อมจะดูแลและให้บริการ สนใจติดต่อ https://www.scb.co.th/en/corporate-banking/international-network
ขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก: ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาโฮจิมินท์ซิตี้เวียดนาม https://www.scb.co.th/vn/corporate-banking
ข้อมูลอ้างอิง