ถ้าถามถึง "สวรรค์ของคนรักอาหารทะเล" ในโตเกียว เชื่อว่าชื่อของ ตลาดปลาซึกิจิ (Tsukiji Outer Market) ต้องยืนหนึ่งในลิสต์แน่นอน! แม้ว่าโซนประมูลปลาจะย้ายไปอยู่ที่โทโยสุแล้ว แต่เสน่ห์ของตลาดรอบนอกแห่งนี้กลับยิ่งทวีความฮอต ด้วยการผสมผสานระหว่างร้านระดับตำนานกับคาเฟ่สุดชิคที่เปิดใหม่แบบสับๆ จนกลายเป็นจุดหมายที่ต้องมาเช็กอินให้ได้สักครั้งในชีวิต!

ด้วยความที่เป็นสถานที่มีอาหารอร่อยๆ ราคาเข้าถึงได้ง่าย มีผู้คนแวะเวียนมามากมายตลอดวัน แนะนำใช้บัตร SCB PLANET ใช้จ่ายที่ตลาดปลาซึกิจิ เพื่อความสะดวก ปลอดภัย ไม่ต้องพกเงินสดในสถานที่คนเยอะๆ 

การเดินทางสู่ซึกิจิ สะดวกสบายกว่าที่เคย ด้วยระบบขนส่งสาธารณะที่แม่นยำและครอบคลุม:

• ทางเลือกที่ 1: ใช้รถไฟใต้ดิน Tokyo Metro สาย Hibiya (สีเทา) ลงที่สถานี Tsukiji (H10) เดินเพียงอึดใจผ่านวัด Tsukiji Hongwanji ที่สวยงาม คุณก็จะพบกับทางเข้าตลาด
• ทางเลือกที่ 2: สำหรับท่านที่พักย่านชินจูกุหรือรปปงงิ รถไฟใต้ดิน Toei Subway สาย Oedo (สีชมพู) ลงสถานี Tsukiji Shijo (E18) คือทางเลือกที่รวดเร็วที่สุด เพราะประตูทางออก A1 จะพาคุณเข้าสู่ตลาดได้เกือบจะทันที

อัปเดตลิสต์ 5 พิกัด ร้านเด็ดที่สายกินไม่ควรพลาด

ในรอบปีที่ผ่านมา ตลาดปลาซึกิจิมีการปรับตัวให้เข้ากับนักท่องเที่ยวรุ่นใหม่มากขึ้น แต่ยังคงรักษามาตรฐานวัตถุดิบที่สดและเป็นเลิศ ปักหมุดร้านเด็ดตามนี้เลย

1. Kitsuneya (คิตสึเนะยะ): กลิ่นหอมจากหม้อต้มเนื้อหน้าร้านคือแม่เหล็กชั้นดี! เมนู "Horumon Don" (ข้าวหน้าเครื่องในวัวตุ๋น) คือที่สุดของความเข้มข้นที่สืบทอดมาหลายทศวรรษ แม้คิวจะยาวแต่พอได้กินคำแรกเข้าไป    บอกเลยว่าคุ้มค่าที่รอคอย! ร้านนี้ใช้วัตถุดิบสดจากตลาด เป็นร้านยอดนิยมที่คนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวมักแวะชิม เพราะที่ตั้งร้านใกล้แหล่งวัตถุดิบ ทำให้เนื้อนุ่มกลมกล่อม แม้ร้านจะเล็กๆ และอาจต้องรอคิว แต่คุ้มค่ากับรสชาติแบบดั้งเดิม ตำแหน่งที่ตั้งร้านอยู่ในโซนตลาดรอบนอกสึกิจิ (Tsukiji Outer Market)
2. Tsukiji Yamacho: เป็นร้านไข่หวานญี่ปุ่น (Tamagoyaki) เสียบไม้ที่โด่งดังและเป็นที่นิยมอย่างมากในตลาดรอบนอกสึกิจิ (Tsukiji Outer Market) ในโตเกียว เป็นร้านเก่าแก่ที่เปิดมาตั้งแต่ปี 1955 และขึ้นชื่อเรื่องไข่หวานนุ่มฟูรสชาติหวานนิดๆ ผสมผสานกับน้ำสต็อกปลาคัตสึโอะแห้งคัดเกรดที่ให้รสชาติที่หวานกำลังดีและเนื้อสัมผัสที่นุ่มละมุนคือของว่างที่ห้ามพลาด ไฮไลท์คือการยืนดูเชฟทำไข่หวานสดๆ ที่หน้าร้าน 
3. ร้านปลาไหลย่าง Tsukiji Unagi Shokudo : กลิ่นปลาไหลย่างหอมๆ ชุ่มฉ่ำด้วยซอสสูตรลับเฉพาะ ใครเป็นสายปลาไหลต้องจัด! มีทั้งแบบเสียบไม้ทานนอกร้าน หรือจะนั่งกินเป็นข้าวหน้าปลาไหลร้อนๆ ก็ฟินจนหยุดไม่อยู่ เคล็ดลับความอร่อยคือการย่างบนถ่านไม้หอมๆ ทาซอสสูตรพิเศษที่ส่งต่อกันมารุ่นสู่รุ่น สำหรับร้าน Tsukiji Unagi Shokudo มีชื่อเสียงเรื่องเมนูปลาไหลย่าง มีทั้งแบบเสียบไม้ (เล็ก/ใหญ่) และข้าวหน้าปลาไหลย่างถ่านร้อนๆ ราดซอสเข้มข้น. 
4. Omakase Stand: เทรนด์ใหม่สายพรีเมียมแต่ประหยัดเวลา ในราคาเข้าถึงได้ง่าย ใครที่อยากกินซูชิวัตถุดิบสดๆ เกรดโอมากาเสะแต่ไม่อยากจองคิวนานๆ ปีนี้เทรนด์ "ซูชิยืนทาน" กำลังมา เหมาะสำหรับสายกินที่ต้องการลิ้มลองรสชาติปลาตามฤดูกาลอย่างรวดเร็วและมีคุณภาพ ร้านนี้เน้นอาหารทะเลสดๆ ทั้งซูชิ, ซาชิมิ และเมนูอื่นๆ อีกมากมาย
5. Matcha Stand Maruni: ร้านชาเขียวชื่อดังที่ควรไปลอง คาเฟ่สแตนด์ เดิมเป็นร้านขายสาหร่ายเก่าแก่ที่เปลี่ยนมาทำมัทฉะ ซึ่งเข้ากับกระแสมัทฉะ ฟีเวอร์มาก! เมนูแนะนำคือ Matcha Latte Double Shot รสชาติเข้มข้นสะใจ หรือจะลอง Soft Serve มัทฉะมาล้างปากหลังจัดของคาวก็เลิศ ร้านนี้ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1923 รูปแบบร้านเป็นคาเฟ่สแตนด์ที่ให้คุณชมการชงมัทฉะสดๆ พร้อมเสิร์ฟเมนูหลากหลายตามสไตล์คนรักมัทฉะ