ปั้นโรงแรมให้ดัง ด้วย Influencer Marketing

Influencer Marketing การทำการตลาดที่โรงแรมต้องไม่พลาดในยุค New Normal ถ้าย้อนอดีตกลับไปในสมัยก่อนที่ดิจิทัลจะเฟื่องฟูการโฆษณาโรงแรมมีการใช้สื่อหนังสือพิมพ์ ป้ายโฆษณาหรือใบปลิว แต่ในยุคดิจิทัลและโดยเฉพาะยุค New Normalที่พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปทุกคนอยู่กับโทรศัพท์มือถือ ทุกคนใช้ Social Media สื่อแบบ Traditional ที่เคยมีก็ เปลี่ยนตัวเองไปอบู่บนออนไลน์ แม้กระทั่งหนังสือก็กลายเป็น e-book ดารา เซเลบไม่จำเป็นต้องมาจากทีวีอีกต่อไปเพราะตอนนี้ใครๆ ก็สามารถสร้างกระแสความดังให้ตัวเองผ่าน Social Media ได้ เช่น ส้มหยุด หยาดพิรุณ วิบวับ หรือแพทตี้ การมีตัวตนบนโลกออนไลน์ต้องสร้างคอนเทนต์ หรือเนื้อหาที่จะสื่อออกไป Influencer ช่วยได้ดีเพราะเป็นทั้งคอนเทนต์และเป็นมีเดียในเวลาเดียวกัน สามารถสร้างคอนเทนต์ที่น่าสนใจและกระจายเนื้อหาไปยังแพลตฟอร์มต่างๆ โดยบริษัท Tellscore  ได้มาให้ความรู้ในการทำการตลาดด้วย Influencer เพื่อดันโรงแรมให้ปัง ให้เป็นที่รู้จัก เป็นที่ชื่นชอบและเพิ่มยอดขายให้กับโรงแรม

โดยเนื้อหาจะครอบคลุมใน 5 ประเด็นหลักคือ ทำไมธุรกิจต้องใช้ Influencer Marketing, Influencer มีแบบไหนบ้าง, New Normal ของ Influencer, ขั้นตอนการทำ Influencer Marketing และ การติดตามวัดผล
 

 1. ทำไมธุรกิจต้องใช้ Influencer Marketing

การตลาดเปลี่ยนแปลงไป การทำการตลาดโดยใช้ Influencer เป็นรูปแบบที่นิยมใช้กันมากที่สุด ซึ่งจริงๆ Influencer มีมานานแล้ว เช่น เพื่อนบอกต่อเพื่อน การบอกกันปากต่อปาก แต่ในยุคนี้ที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทมากขึ้นแทนที่เราจะพูดกันคนต่อคนเราสามารถโพสต์ลงบนโซเชียลมีเดียครั้งเดียวและเข้าถึงคนจำนวนมากได้เลยในการบอกเล่าประสบการณ์ต่างๆ ทำให้ตอนนี้ Influencer Marketing เติบโตอย่างรวดเร็วมาก 87% ของผู้ซื้อได้รับอิทธิพลในการตัดสินใจซื้อจาก Influencer คนส่วนใหญ่เชื่อเพื่อนหรือ Influencer แม้จะรู้ว่าเป็นโฆษณา แต่บางครั้งเมื่อเห็นเนื้อหาบางอย่างบ่อยเข้าๆ ทั้งๆ ที่รู้ว่าเป็นโฆษณาแต่สุดท้ายก็ทำให้อยากลองใช้เอง 

สุขภาพของแบรนด์ขึ้นอยู่กับความคิดเห็นของผู้บริโภคเป็นหลัก 75% ของนักการตลาดมีการเพิ่มงบของ Influencer ตั้งแต่ปี 2018 เป็นต้นมา โดยแนะนำว่าควรแบ่งงบประมาณในการใช้ Influencer ประมาณ 25-40% ของงบการโฆษณาบน Digital ทั้งหมด ซึ่ง Influencer คือการให้บุคคลที่ 3 บอกต่อเพราะเวลาเจ้าของแบรนด์พูดเองคนจะไม่เชื่อถือเพราะผู้บริโภคคิดว่าเป็นการขายของให้ตัวเอง ดังนั้นการให้บุคคลที่ 3 ซึ่งเป็นคนที่ผู้บริโภคชื่นชอบ พอเขาพูดว่าชอบอันนั้นใช้อันนี้ผู้บริโภคก็จะเชื่อว่าของนั้นต้องดีจริงๆ


2. Influencer มีแบบไหนบ้าง

วันนี้ทุกคนสามารถเป็น Influencer กันได้ทั้งนั้น ยิ่งในธุรกิจโรงแรมไม่มีใครจะรู้จักโรงแรมดีเท่ากับตัวเจ้าของเองว่าอะไรคือจุดเด่น ดังนั้นกระบอกเสียงแรกคือมาจากตัวเองก่อน เช่น การทำ live โพสต์รูป ข้อความเชิญชวนหรือแม้กระทั่งการ Inbox ชวนโดยตรง ดังนั้นสื่อหลักที่สามารถใช้ได้ก่อนคือตัวเอง หรือให้เพื่อนให้ญาติหรือพนักงานโพสต์ลงบนโซเชียลมีเดียต่างๆ ซึ่งเป็นกระบอกเสียงแรกที่ทำได้ ลองมองตัวเอง มองคนรอบตัวที่พร้อมจะเป็นกระบอกเสียงให้ก่อนที่จะจ้าง Influencer ราคาแพงๆ


ประเภทของ Influencer

  • Professional (Expert) คือเป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง เช่น ซี ฉัตรปวีณ์ จะนึกถึงเรื่อง IT หรือ เฟื่องลดา จะนึกถึงเรื่องดิจิทัล คือผู้เชี่ยวชาญในแต่ละสายนั้น ๆ มาให้ความรู้

  • Lifestyle ไม่ว่าจะสายกิน สายเที่ยว สายบิวตี้  รีวิว เช่น พิมฐา เมอา เน้นเรื่องราวสบายๆ

  • Public Figure ได้แก่ ดารา เซเลบ คนดังที่ใคร ๆ ก็รู้จัก

  • Creator คือคนที่ทำเพจโดยใช้ความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ ในการนำเสนอเนื้อหา เช่น เพจเทพลีลา

  • Publisher / Media การนำเรื่องราวในสังคม การสะท้อนสังคม เช่น The Standard, The Matter, Mission to the Moon

โรงแรมสามารถเลือกได้ว่าต้องการนำเสนอข้อมูลแบบไหนและเลือกแฟนเพจให้ตรงกับความต้องการของโรงแรม

ระดับของ Influencer

  • Consumer ทั่วไป ยอด Follower ตั้งแต่ 0-1000

  • Nano ก็ยังเป็นคนทั่วไปแต่มีความโดดเด่นขึ้นมาเป็นที่รู้จักเป็นที่ยอมรับในกลุ่มเพื่อนมากขึ้น ยอด Follower ตั้งแต่ 1000 – 10,000

  • Micro ทำเพจของตัวเอง มีแนวทางของตัวเองชัดเจน ค่อยๆ เติบโตไปกำลังปั้นเพจ เริ่มมีฐานแฟนเพจของตัวเองจำนวนหนึ่ง

  • Macro มีคุณสมบัติความเป็น Influencer ครบถ้วน มีแนวทางชัดเจน ทำเพจดี คนติดตามเยอะ

  • Celebrity เป็นคนดัง เป็นดารา พูดชื่อแล้วรู้จักทันที กลุ่มนี้ไม่จำเป็นต้องสนใจยอดผู้ติดตามด้วยซ้ำเพราะเป็นที่รู้จักอยู่แล้ว


แต่ละกลุ่มเหมาะสมในการทำการตลาดอย่างไร?

  • Macro จะเหมาะกับการสร้างการรับรู้ในวงกว้างเพราะเป็นที่รู้จักอยู่แล้ว แต่การเข้าถึงเพื่อพูดคุยจะยากกว่า

  • Micro ใช้สร้างปฏิสัมพันธ์และการมีส่วนร่วม เป็นเหมือนเพื่อนที่สามารถคุยกันได้ง่ายกว่า  

  • Consumer สร้างโอกาสในการขาย


มีการกล่าวว่าใช้ Micro Influencer แล้วคุ้ม คุ้มอย่างไร? Facebook ใจดีอย่างหนึ่งตรงที่ว่าถ้าเพจมีฐานคนติดตามยังไม่เยอะ Facebook จะทำให้มีการมองเห็นมากกว่าๆ เพื่อเป็นกำลังใจให้กับคนที่เพิ่งเริ่มต้น แต่พอเป็นเพจที่มียอดติดตามเยอะๆ เป็นหลักล้านการมองเห็นจะลดน้อยลงเพราะ Facebook อยากให้มีการยิงโฆษณาเพื่อเข้าถึงคนให้มากขึ้น มีตัวเลขที่น่าสนใจ เช่น ถ้ามีคนติดตาม 1 ล้านคน โอกาสในการมองเห็นจะมีแค่ 0.6% แต่ในขณะที่กลุ่ม Micro Influencer ที่อาจมีผู้ติดตามประมาณ 50,000 จะมีโอกาสในการมองเห็นถึง 15% ดังนั้นถ้าอยากลงทุนแล้วคุ้มใช้จ่ายเงินในจำนวนที่ไม่มากนัก แต่มีคนมองเห็นโพสต์ได้เยอะ ในการเริ่มต้นแนะนำให้ใช้กลุ่ม Micro Influencer จะเหมาะสม อนาคตของการตลาดจะมุ่งไปสู่การสื่อสารแบบหนึ่งต่อหนึ่ง โดยใช้ปริมาณคนมากๆ เช่นการเข้าถึงกลุ่มคนเยอะๆ อาจใช้ Micro Influencer ทีละ 10 คน 100 คน เพื่อเข้าถึงคนจำนวนมาก รวมทั้งมีสถาบันดังๆ พูดถึงการทำ Micro Influencer มากมาย เช่น Forbes บอกว่าปีนี้เป็นปีทองของ Micro Influencer และคนชอบสินค้าจากการทำคอนเทนต์มากกว่าการทำโฆษณา ดังนั้นโฆษณาอย่างเดียวไม่เพียงพอแล้ว ต้องใช้ Micro Influencerช่วย ซึ่งจากการศึกษาพบว่ายอดขายจะเพิ่มเป็น 2 เท่าเมื่อเทียบกับโฆษณาทั่วไป และการซื้อซ้ำจะมากกว่าช่องทางอื่นถึง 37%

3. New Normal ของ Influencer เปลี่ยนแปลงไปอย่างไร

ด้วยสถานการณ์ใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นทั้งการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคและการแพร่ระบาดของโควิด Influencer มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง เพื่อแบรนด์จะได้ปรับตัวและนำไปใช้ได้อย่างเหมาะสม

  • สาย Mass เชื่อมสองโลก เช่น มีโรงแรมจะทำออฟไลน์อย่างเดียวไม่ได้แล้วต้องมีออนไลน์เข้ามาช่วยเพื่อดึงคนมาที่ออฟไลน์

  • สายขายจริงจังต้องมา แน่นอนว่าสิ่งหนึ่งที่ช่วยโปรโมทโรงแรมคือภาพสวย พอคนเห็นภาพแล้วชอบ แต่ต้องมีสายที่ทั้งภาพสวยและคอนเทนต์สวยด้วย มีสายที่ต้องขายของ ขายวอชเชอร์ด้วย เช่น การ Live ขายของ


ย้ายสายได้เป้าหมายใหม่ๆ เช่น ไม่จำเป็นต้องใช้สายเที่ยวมารีวิวโรงแรมอย่างเดียว ดูว่ามีกลุ่มไหนที่จะมารีวิวเพิ่มเติมได้อีกบ้าง เช่น โรงแรมมีอาหารอร่อยอาจนำสาย Food มารีวิว หรือโรงแรมเหมาะกับครอบครัวก็ใช้สายแม่และเด็ก สายครอบครัวมารีวิว ต้องพยายามมองให้กว้างขึ้น ลองมองกลุ่มลูกค้าที่ใกล้เคียงว่าถ้าเขาไม่ได้รับบริการของเราจะมีผลกระทบเชิงลบอย่างไรบ้าง

  • ใช้จริง พูดจริง จริงใจ มีหลายคนสงสัยว่าถ้าใช้ Influencer มาโปรโมทต้องทำเป็นเนียนๆ ว่าไม่ได้ขายของหรือเปล่า ต้องทำเนียนเหมือนเป็นลูกค้าจริงหรือไม่ ซึ่งในความจริงพูดตรงๆ เลยได้ว่ามาขายของ บางเพจพูดเลยว่าขายของแต่เขาเลือกว่าของที่เขาขายเป็นของคุณภาพดี คัดกรองมาแล้วว่าเป็นของที่มีคุณภาพจริง ถ้าไม่ดีไม่โปรโมทให้แน่นอน คือมีความจริงใจว่าขายของจริงแต่ใช้แล้วก็ดีจริงๆ ถึงมาพูด คนฟังจะรู้สึกได้ว่าคนนี้จริงใจ

  • Data ต้องแน่น Stat ต้องดี เทคโนโลยีต้องมา ไม่ใช่ว่าโพสต์โปรโมทไปแล้วก็จบกัน ทำให้การทำงานในอนาคตมองไม่ออกว่าสิ่งที่ทำไปแล้วดีหรือไม่ ควรทำแบบเดิมหรือทำแบบใหม่ จึงต้องเก็บข้อมูลด้วยว่าโปรโมทไปแล้วมีคนติดตามเท่าไหร่ performance ดีหรือไม่ ใช้คนกลุ่มนี้ดีหรือไม่ ผลตอบรับดีหรือเปล่า หรือว่าควรจะเปลี่ยนเป็นสายใหม่ ต้องมีการเก็บข้อมูลแล้วนำมาวิเคราะห์เสมอ

ในธุรกิจท่องเที่ยวควรปรับตัวอย่างไร? ก่อนอื่นต้องเข้าใจพฤติกรรมของผู้บริโภคก่อน ยิ่งในช่วงนี้ที่ไม่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติต้องหันมาเข้าใจพฤติกรรมคนไทย บางทีเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆที่เรานึกไม่ถึงหรือถ้านึกถึงแล้วและสามารถปรับได้ลูกค้าจะอินกับเรา ยกตัวอย่างเช่น พอมาถึงโรงแรมผู้หญิงทุกคนชอบแต่งหน้าก่อนที่จะไปถ่ายรูปสวยๆ แต่โรงแรมมักใช้ไฟสีเหลืองที่ทำให้ผู้หญิงแต่งหน้าลำบาก แต่ถ้าโรงแรมมีโซนในห้องให้ผู้หญิงแต่งหน้า ผู้หญิงจะรู้สึกว่าเขาเข้าใจเราซึ่งเป็นเรื่องละเอียดอ่อน หรือปลั๊กไฟข้างเตียงมีหรือไม่เพราะคนชอบเล่นมือถือก่อนนอน ซึ่งเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้ถ้าเขาประทับใจก็จะบอกต่อ โพสต์เล่าเรื่องทั้งเขียนบรรยายและลงภาพสวยๆ ไม่ต้องมี Influencer ก็ยังได้ แต่ในทางกลับกันถ้าลูกค้าไม่ชอบก็จะรีวิวกลับไปเช่นกันว่าไม่ชอบ ไม่ดีอย่างไร เราต้องรู้ว่าจุดเด่นของโรงแรมเราคืออะไร ทำไมนักท่องเที่ยวต้องมาใช้บริการ ไม่ว่าจะทำ Influencer Marketing หรือไม่ก็ตามต้องเป็นคำตอบที่โรงแรมต้องตอบให้ได้ก่อนเสมอ และถ้าใช้ Influencer เขาก็จะเป็นกระบอกเสียงให้โรงแรมโปรโมทในจุดเด่นที่มี เช่น ลูกค้าชอบถ่ายรูปลงโซเชียลมีเดียก็ต้องมีมุมให้ถ่ายรูปเยอะ หรือถ้าเป็นลูกค้าที่เป็นครอบครัวมีลูกเล็กก็จะอยากไปโรงแรมที่มีโซนสำหรับเด็ก หรือกลุ่มคนรักแมวก็ต้องการโรงแรมที่มีที่ให้แมวได้นอนสบายและเที่ยวกับแมวได้อย่างมีความสุข

4. ขั้นตอนการทำ Influencer Marketing

ทั้งหมดมี 5 ขั้นตอนด้วยกันคือ

1. กำหนดกลุ่มเป้าหมาย
ต้องรู้จักลูกค้า ลูกค้าเป็นใคร อะไรคือสิ่งที่ลูกค้าต้องการ ทำไมเขาต้องใช้บริการของเรา วิธีการซื้อสินค้าและบริการเป็นอย่างไร เช่น ดูรีวิวของเพื่อนก่อนหรือเปล่า หรือเข้า OTA เลย สำหรับผู้ประกอบการบางท่านที่ยังไม่เข้าใจลูกค้าคนไทย มี 10 เทรนด์ของลูกค้าคนไทยที่ควรรู้ดังนี้

  • เที่ยวคนเดียวไม่ง้อใคร

  • กระแสรักษ์โลก ท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ดูแลสิ่งแวดล้อม Eco Resort, Green Hotel

  • ประสบการณ์ท้องถิ่น เช่น Farm Stay ไม่ได้เที่ยวอย่างเดียวแต่มีกิจกรรมให้ทำด้วย

  • การเที่ยวแบบกลุ่มเล็กๆ แบบคู่รัก หรือครอบครัวขนาดเล็ก

  • เที่ยวไปทำงานไป หลังจากโควิดมาทำให้หลายคนทำงานจากที่ไหนก็ได้

  • เที่ยวในกลุ่มผู้สูงวัย

  • ท่องเที่ยวเมืองรอง

  • ท่องเที่ยวกับสัตว์เลี้ยง

  • ท่องเที่ยวหลายเจน เช่นมีพ่อแม่ลูก คุณตา คุณยายและหลานๆ จะชอบทำกิจกรรมกับครอบครัว

  • Travel Tech วางแผนการเที่ยวและจองผ่านออนไลน์

ที่มา: ฐานเศรษฐกิจ hTps://www.thanseTakij.com/infographic/874

2. ตั้งเป้าที่อยากได้ 

SME ส่วนใหญ่มักจะอยากได้หลายอย่างแต่ควรเลือกมาทีละ 1 อย่างจะทำให้เป้าหมายชัดเจนกว่า
เป้าหมายในการทำ Influencer Marketing มี 3 เป้าหมายคือ

  • Awareness ทำให้โรงแรมมีตัวตน สร้างภาพลักษณ์ สร้างความน่าเชื่อถือ เหมาะกับโรงแรมที่เปิดใหม่หรือแนะนำบริการใหม่ๆ และโรงแรมที่ไม่เคยทำ Influencer Marketing มาก่อนควรเริ่มที่เป้าหมายนี้

  • Engagement สร้างการมีส่วนร่วม สร้างปฏิสัมพันธ์ เช่น การสร้างกิจกรรมให้ร่วมสนุกใน Facebook หรือทำอย่างไรให้โพสต์ไปแล้วมีคนมาคอมเมนท์มาคุยกัน มาแชร์

  • Conversion การสร้างโอกาสในการขาย หรือหา Lead ลูกค้า เช่น click, lead input, promo code (ไม่ใช่แค่การสร้างยอดขาย) ถ้าเพิ่งเริ่มต้นทำไม่ควรใจร้อนควรทำแบบค่อยเป็นค่อยไป step by step จะดีกว่าไม่ใช่เพิ่งเริ่มทำก็เน้นขายทันที
     

3. เลือกช่องทางในการสื่อสาร
สิ่งแรกที่ควรมีคือเว็บไซต์ที่เป็นหน้าบ้านของโรงแรมซึ่งเปรียบเสมือนเขื่อนที่รองรับน้ำฝน โดย Influencer หรือโซเชียลมีเดียต่างๆ เป็นเครื่องปั่นน้ำที่ทำหน้าที่เรียกฝน เรียกน้ำมาที่เขื่อน ดังนั้นต้องมีสามอย่างประกอบกัน ขั้นแรกต้องมีเว็บไซต์ก่อน ต่อมาคือช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ ซึ่งแต่ละแพลตฟอร์มก็มีจุดเด่นและวิธีการใช้ที่แตกต่างกันออกไป ได้แก่

  • Facebook เหมาะมากในช่วงเริ่มต้น เข้าถึงฐานคนไทยได้เยอะ ทำคอนเทนต์ง่าย ยิงโฆษณาง่ายและแม่นยำ

  • Twitter เน้นเรื่อง Real Time เรื่องไหนกำลังดัง แต่จำกัดเพราะต้องเป็นข้อความสั้นๆ และกลุ่มลูกค้าค่อนข้างจำกัด มีความเฉพาะกลุ่ม เช่น คอซีรีส์เกาหลี กลุ่มเด็กวัยรุ่น

  • Instagram เหมาะมากถ้าโรงแรมเน้นภาพสวยๆ สามารถ Tag สถานที่ แบรนด์หรือคนได้ด้วย

  • TikTok เป็นช่องทางที่กำลังมาแรง กลุ่มที่ใช้ส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่น ซึ่งแบรนด์สามารถทำชาเลนจ์ ทำแคมเปญแบบไวๆ ได้

  • YouTube เหมาะกับการทำวิดีโอยาวๆ เหมาะกับคอนเทนต์ที่จริงจังขึ้นมา

  • LINE เป็นสื่อที่อยู่ใกล้ชิดกับกลุ่มผู้บริโภคมาก ใช้สื่อสารแบบ one on one กับลูกค้าได้ดี เพราะปัจจุบันคนชอบแชท เป็นช่องทางสำคัญในการปิดการขายที่จำเป็นต้องมี

4. เลือก Influencer

มีวิธีการเลือกดังนี้

  • ดูประวัติ ผลงานของ Influencer คนนั้น สไตล์ตรงกับที่ต้องการหรือไม่ โพสต์คอนเทนต์อย่างไร

  • ดูทักษะการนำเสนอ แต่ละคนมีวิธีการไม่เหมือนกัน บางคนเป็นสายโพสต์รูปสวยแต่เขียนคอนเทนต์ไม่เก่ง บางคนทำคอนเทนต์เก่งแต่รูปไม่สวย บางคนเป็นสาย Live แบรนด์ต้องชัดก่อนว่าอยากได้แบบไหนแล้วก็ไปหาคนที่ถนัดในแนวนั้น

  • ดูกลุ่มผู้ติดตามว่าเป็นกลุ่มเป้าหมายหรือไม่ เพราะการทำการตลาดผ่าน Influencer ก็เพื่อให้ผู้ติดตามของเขามาเป็นลูกค้าของโรงแรมในอนาคต

  • ความรับผิดชอบ โพสต์ตรงเวลาหรือไม่ เข้าใจบรีฟหรือไม่

  • Reach, Engagement, View ลองดูว่า Performance ของเพจเขาดีหรือไม่

  • งบประมาณ ดูจากงบประมาณที่มีก่อนว่ามีเท่าไหร่แล้วค่อยกลับมาวางแผนอีกทีว่า Influencer แบบไหนตอบโจทย์กับงบประมาณที่มี

5. การติดตามวัดผล

การวัดผลมี  3 อย่างคือ การสร้างการรับรู้ การมีส่วนร่วมและการเพิ่มโอกาสในการขาย

  • Awareness การสร้างการรับรู้ KPI หลักคือดู reach ดู impression ดูการเข้าถึง โพสต์ไปแล้วมีคนเห็นมากน้อยแค่ไหน

  • Engagement การมีส่วนร่วม มีการกด like, comment, share มากแค่ไหน คลิกอ่านหรือไม่

  • การเพิ่มโอกาสในการขาย การเข้าเว็บไซต์ การสมัคร การจอง มียอดเข้ามาเท่าไหร่

การใช้ Influencer ในการทำการตลาดเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือในการตลาดที่มีประสิทธิภาพโดยเฉพาะกับธุรกิจโรงแรม สามารถสร้างทั้ง Awareness, Engagement และนำไปสู่การปิดการขายได้อีกด้วย อย่างไรก็ตามการทำ Influencer Marketing ให้ได้ผลต้องรู้จักลูกค้าเป็นอย่างดี มีเป้าหมายที่ชัดเจนและเลือก Influencer ที่เหมาะสมกับกลุ่มลูกค้า เป้าหมายที่ต้องการไปถึงและงบประมาณที่มี การปั้นโรงแรมให้ดังเพิ่มยอดขายให้ปังก็อยู่แค่เอื้อม


ที่มา โครงการอบรมหลักสูตร SCB IEP BOOTCAMP : THE HOSPITALITY SURVIVAL, Phuket