แพลตฟอร์มสังคมออนไลน์หลากหลายในปัจจุบัน เข้ามาช่วยตอบโจทย์ช่องทางทำเงินให้กับพ่อค้าแม่ค้าได้มาก แต่ใช่ว่าทุกรายจะสามารถจูงมือสู่เส้นชัย พายอดขายเข้าเป้าได้ทั้งหมด หากเลือกใช้เพียงแพลตฟอร์มเดียว หรือว่าเลือกรักทั้งหมด แต่ไร้กลยุทธ์เหมาะสมกับสินค้าที่มี

1. อย่ารักเดียวแพลตฟอร์มเดียว

ทุกคนไม่ได้เสพสังคมออนไลน์เพียงอย่างเดียว และแต่ละสื่อล้วนมีความเฉพาะตัวชัดเจน อาทิ Instagram จะกำชัยด้วยภาพสวยบาดตา ขณะที่ Facebook ทำให้เราเสนอลำดับภาพที่น่าดึงดูดพร้อมเนื้อหายาวๆ ที่ตรงใจได้ ส่วนน้องใหม่มาแรงอย่าง Tiktok เน้นรวบรัดแบบสั้นแต่ได้ใจความ โดยมีจุดชี้วัดที่ 2-3 วินาทีแรก ขณะที่ Youtube เหมาะกับภาพเคลื่อนไหวที่ต้องการอธิบายยาวๆ เจาะกลุ่มที่สนใจจริงจัง และได้ข้อมูลที่ตรงไปตรงมา และสุดท้ายคือ Twitter ที่เน้นการสื่อสารฉับไวและปลุกติดกระแสง่ายๆ ด้วยเครื่องมืออย่างแฮชแท็ก

2. เรียงลำดับแพลตฟอร์มที่ใช้

ลองเริ่มวางแผนเปิดตัวเนื้อหาแรกจาก Facebook หรือ Instagram ก่อนเพราะเข้าถึงฐานลูกค้าจำนวนมากได้ดี จากนั้นกระจายความสร้างสรรค์ใช้ Tiktok สื่อสารแบบเพื่อนเข้าหากลุ่มย่อย ก่อนจะไปอธิบายตัวสินค้าใน IGTV หรือ Youtube เพิ่มเติมไว้ดักทางคนที่เริ่มใจสินค้าของเรา หากดูจากตัวอย่างที่ประสบความสำเร็จของคนที่มีอิทธิพล จุดเด่นคือการสื่อสารให้ชัด เป็นตัวของตัวเอง เป็นธรรมชาติ ทำให้ผู้ติดตามเข้าถึงได้ง่าย

3. ไลฟ์สดเพื่อสานสัมพันธ์กับผู้ติดตาม

การ “ไลฟ์สด” สร้างความใกล้ชิดกับลูกค้าเพิ่มขึ้นอีกระดับ และยังได้สำรวจพฤติกรรมและความชอบของผู้ติดตามทางอ้อม สร้างความคุ้นเคยผ่านการโต้ตอบสนทนา การที่เข้าคลิกเข้ามาดูการถ่ายทอดสด นั่นแสดงว่า เขาสนใจในสินค้าของคุณอยู่ ดังนั้นการใส่ใจตอบคำถามในคอมเมนต์ จึงเป็นสิ่งสำคัญทีเดียว

4. ใช้ Story ยิงยาวในแพลตฟอร์มยอดนิยม

Facebook และ Instagram มาจากเจ้าของเดียวกัน และมีหมวดการใช้งานสตอรี่  (Story) ที่เอามาปรับใช้งานขาย เพื่อให้คนติดตามทราบช่วงเวลาในการปล่อยสินค้าหรือโปรโมชั่น สิ่งสำคัญอีกข้อคือ เป็นช่องทางช่วยเจาะฐานลูกค้าใหม่เติมเข้ามาเรื่อยๆ แถมยังสามารถเก็บข้อมูลจากการทำโพลล์ เก็บข้อมูลจากการเช็กอินสถานที่ และสามารถทำแคมเปญสินค้าได้เต็มที่ เพราะคนสามารถติดตามดูเองแบบสมัครใจโดยไม่รู้สึกถูกคุกคามเหมือนโฆษณา เพราะข้อมูลนั้นจะอันตรธานใน 24 ชั่วโมง

5. เจอคนรักจริง ควรกอดคนกลุ่มนี้ให้แน่น

การคลิก “ติดตาม” เป็นสิ่งสำคัญ เพราะเท่ากับผู้ใช้งานยอมให้ข้อความเสนอขายสินค้าอวดโฉมในหน้าฟีด โดยเฉพาะในเวลาที่บางแพลตฟอร์มปรับผู้ติดตามเห็นน้อยลง พ่อค้าแม่ค้าต้องยอมจ่ายค่าโฆษณาเพื่อให้อยู่ในสายตาผู้บริโภค ทว่ายังไม่อาจการันตีว่าจะแปรเปลี่ยนเป็นยอดขายได้จริง ดังนั้น หากหาเจอคนที่เขาเลือกติดตามคุณแล้วและพร้อมจะแชร์ให้ โปรดปฏิสัมพันธ์และรักษาฐานเสียงพวกเขาไว้ให้ดี

6. ทุกแพลตฟอร์มมักมีอารมณ์ร่วมต่างกัน

บางครั้งการใช้แพลตฟอร์มติดแฮชแท็กอาจปั้นเป็นไวรัลหรือกระแสโด่งดังแบบรวดเร็ว แต่หากไม่คิดให้รอบคอบก่อนอาจนำมาซึ่งปัญหาที่แก้ไขได้ยากกว่า เพราะกระแสนั้นสามารถพลิกเปลี่ยนจากบวกเป็นลบได้ฉับพลันเช่นกัน ดังนั้นจึงต้องระวังข้อความที่สุ่มเสี่ยงอันก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในสังคม ที่อาจกลายเป็นดาบสองคมฟาดกลับมายังผลิตภัณฑ์ได้

การสื่อสารด้วยแพลตฟอร์มสังคมออนไลน์หลายช่องทาง ช่วยบริหารความเสี่ยงและจับสไตล์ลูกค้าได้ครอบคลุมมากกว่า แต่สิ่งสำคัญเหนืออื่นใด อย่าลืมการเสนอขายในมุมที่ผู้ขายและผู้ซื้อต่างมีชัยทั้งสองฝ่าย ฝ่ายแรกได้ยอดรายรับ และฝ่ายหลังได้สินค้าและบริการประทับใจจนพร้อมอุดหนุนใหม่ หรือแนะนำบอกต่อเป็นวงกว้าง และตอนนี้มี แอปแม่มณีที่มาพร้อมฟีเจอร์ “มณี โซเชี่ยล คอมเมิร์ซ” เป็นที่ช่วยจัดการการขายออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพในทุกแพลตฟอร์ม สะดวกและง่ายกว่าเดิม ครอบคลุมทุกขั้นตอน ตั้งแต่สั่งยันส่ง ดูวิธีการใช้งานฟังก์ชั่นต่างๆ ของมณี โซเชียลคอมเมิร์ซ ได้ที่นี่ พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ที่สนใจดาวน์โหลดแอปแม่มณี พร้อมฟีเจอร์ใหม่ “ มณี โซเชียล คอมเมิร์ซ” คลิกดาวน์โหลดที่นี่

ที่มา
https://www.rainmaker.in.th/fake-news-in-twitter-is-much-faster/?fbclid=IwAR3tU4Aeso4n-U5v0e0RZ0C_LcAArOgMSMMwGmkALgFLAc6j8VjlgMY8sNk
https://www.digitalshortcut.me/2019/10/25/ สินค้าเราขายบนแพลตฟอร์มไหนดีกว่ากัน-เฟสบุ๊ค-ไอจี-ยูทูป-หรือ-อีคอมเมิร์ซ
https://stepstraining.co/social/10-technic-instagram-stories
https://www.rainmaker.in.th/7-tips-for-tiktoker
https://www.rainmaker.in.th/7-ig-tips-from-facebook/
https://www.rainmaker.in.th/why-podcast-might-not-work
https://blog.sogoodweb.com/Article/Detail/85748