ความร้อนแรงของ TikTok ทำให้แบรนด์หรือนักการตลาดต่างจับตามองแพลตฟอร์มตัวนี้กันอย่างไม่กระพริบตา ด้วยเสียงต้อนรับที่ล้นหลามจากผู้ใช้งานทั่วโลก พร้อมหมัดเด็ดที่มัดใจผู้บริโภคยุคนี้ให้แสดงตัวตนและครีเอทคอนเทนต์บนโซเซียลได้อย่างอิสระ ทำให้เกิดกระแสการเปลี่ยนแปลงการทำโฆษณาให้กลายเป็นการเล่าเรื่องอย่างสร้างสรรค์บน TikTok คุณสิรินิธิ์ วิรยศิริ Head of Business Marketing Tiktok Thailand มาเล่าถึง TikTok ที่สามารถใช้เป็นเครื่องมือทางการตลาดผ่านคลิปวิดีโอสั้นที่พุ่งตรงจับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงช่วยสร้าง Engagement ระหว่างแบรนด์กับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

รู้จัก TikTok โซเซียลมีเดียขวัญใจเจน Z

คุณสิรินิธิ์เล่าพฤติกรรมของผู้บริโภคในการใช้มือถือและอินเทอร์เน็ตในปัจจุบันพบว่าคนไทยมีการใช้อินเทอร์เน็ตต่อวันสูงขึ้นถึง 10.22 ชั่วโมงซึ่งสูงขึ้นมากกว่าปี 2562 โดยใช้เวลาไปกับการเล่นโซเซียลมีเดีย 91.2%  ดูวีดีโอและฟังเพลง 71.2 % จากพฤติกรรมดังกล่าวทำให้  TikTok เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มที่กำลังได้รับความนิยมอย่างสูงในปัจจุบัน ทั้งนี้ TikTok เกิดขึ้นเมื่อปลายปี 2016 แล้วเข้ามาในประเทศไทยประมาณปลายปี 2017 โดยเป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยจุดประกายความคิดสร้างสรรค์แล้วส่งมอบความสุขให้กับทุกคนในรูปแบบวีดีโอ ซึ่งมีกลุ่มผู้ใช้หลักมากกว่า 50% เป็นคนอายุ16-34 ปี  และมากกว่า 80% เป็นกลุ่มนักเรียนและกลุ่มคนเริ่มทำงานซึ่งเป็นกลุ่มคนที่มีกำลังซื้อค่อนข้างสูงแล้วเป็นที่จับตามองของนักการตลาด

จากสถิติคอนเทนต์  5 หมวดยอดนิยมของคนไทยได้แก่ 1.ไลฟ์สไตล์  เช่น  ท่องเที่ยว ทำอาหาร ครอบครัว สัตว์เลี้ยง  2.Talent หรือ Performance การแสดงความสามารถพิเศษที่ทำให้คนสนใจอยากทำตาม 3. Entertainment ความบันเทิงการร้องเต้นที่สร้างความสนุกสนานให้คนดู 4. Beauty & Fashion เนื่องจากผู้ใช้งานส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้หญิงจึงมีคอนเทนต์พวกความสวยงามและแฟชั่นที่หลากหลาย 5. Education การสอนให้ความรู้ในเรื่องต่างๆ ตั้งแต่เทคโนโลยี ภาษา การตลาดการศึกษาและปัจจุบันมีข้อสังเกตว่าเริ่มมีกลุ่มนักวิชาการเข้ามาสร้างสรรค์คอนเทนต์เพื่อให้ความรู้ใน TikTok เพิ่มมากขึ้น

Don’t make ads. Make TikToks. อย่าทำโฆษณาแค่เล่าเรื่องของแบรนด์

สำหรับคนทำธุรกิจ หากยังมองไม่ออกว่าจะสร้างคอนเทนต์อะไรบน TikTok  คุณสิรินิธิ์บอกว่าในความเป็นจริงธุรกิจไม่จำเป็นต้องสร้างคอนเทนต์ให้เหมือนกับหมวดหมู่ยอดนิยมที่กล่าวไปแล้วข้างต้น แต่อยากให้คำนึงว่าควรทำคอนเทนต์ที่ตามกระแสหรือเทรนด์ความนิยมของคนไทย   คุณสิรินิธิ์ยังบอกอีกว่ามักมีคนถามว่าควรสร้างคอนเทนต์ประเภทไหนบน TikTok  ขอใช้คำว่า “Don’t make ads. Make TikToks” หมายความว่าให้เล่าเรื่องราวของธุรกิจมากกว่าที่จะทำขึ้นมาในรูปแบบโฆษณา ซึ่งมีเทคนิคในการสร้างคลิปด้วยหลัก A B C D E คือ

• A: Activate ให้มีปุ่มแชร์หรือ CTA (Call to action) เพื่อทำให้เกิดปฏิสัมพันธ์ระหว่างธุรกิจกับลูกค้า
  
  
• B: Bridge สร้างคอนเทนต์ที่ผสมกลมกลืนไปกับคอนเทนต์อื่นใน TikTok เพื่อให้คนดูรู้สึกเพลิดเพลินไม่เหมือนดูโฆษณา
  
  
• C: Collaborate ใช้ครีเอเตอร์หรือ Influence เพื่อสร้างกระแสเพิ่มขึ้นใน TikTok
  
  
• D: Draw สร้างคอนเทนต์ให้ดึงดูดความสนใจเป็นที่น่าจดจำแล้วก็ตรงใจผู้บริโภคผ่านการนำเสนอที่ตรงไปตรงมาเพราะต้องไม่ลืมว่า TikTok มีเวลาให้แค่ 10-15 วินาทีเท่านั้น
  
  
• E: Evolve พฤติกรรมคนไทยเปลี่ยนแปลงไปทุกวันมีความสนใจใหม่ตลอดเวลา ฉะนั้นต้องคอยจับตาดูเทรนด์ดูความสนใจแล้วทำคอนเทนต์ไปกับเทรนด์ที่กำลังเกิดขึ้น

นอกจากนี้ SMEs สามารถเข้าไปต่อยอดธุรกิจบน TikTok ผ่านทาง TikTok for Business เพื่อเป็นเครื่องมือช่วยคนทำธุรกิจหรือนักการตลาดสามารถจัดการและวัดผลแคมเปญการตลาดบนแพลตฟอร์มได้อย่างมีประสิทธิภาพและช่วยให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ดียิ่งขึ้น รวมถึงสร้าง Engagement ควบคุมโฆษณา และสามารถติดตามผลการดำเนินงานได้ ยกตัวอย่างสิ่งที่สามารถทำการตลาดหรือทำโฆษณาบน TikTok ได้มีดังนี้

• Brand Takeover จะเป็นโฆษณาแรกบน TikTok สามารถสร้าง Awareness ได้ถึง 100% บนคลิปความยาว 3-5 วินาที
  
  
• Top View เป็นโฆษณาตัวแรกในหน้า For You มีความยาวได้ถึง 60 วินาที
  
  
• In-Feed Video วิดิโอความยาว 60 วินาที เป็นโฆษณาที่อยู่ระหว่างคอนเทนต์ทำให้เกิดความรู้สึกกลมกลืนไปกับการดูคอนเทนต์ เกิดประสบการณ์ที่ดีกับผู้ใช้งานไม่ทำให้รู้สึกว่าถูกบังคับให้ดูโฆษณา
  
  
• # Challenge รูปแบบการโฆษณาที่ให้ผู้ใช้มีส่วนร่วมกับแบรนด์ แล้วก็เกิด UGC หรือ User generated Content
  
  
• แบรนด์ Effec t รูปแบบโฆษณาที่สามารถตกแต่งแสงสีเสียงแล้วสามารถให้ผู้ใช้นำ Effect เหล่านั้นมาประกอบคอนเทนต์ได้เป็นการช่วยสร้างการรับรู้
  
  
• Self-Serve Platform การทำโฆษณาแบบบริการตัวเองที่คนทำธุรกิจขนาดเล็กหรือ SMEs สามารถออกแบบโฆษณาหรือทำการตลาดได้ด้วยตนเอง

เหตุผลที่ SMEs ต้องเทใจมาทำการตลาดบน TikTok

แม้ว่าปัจจุบันจะมีโซเซียลมีเดียให้คนทำธุรกิจได้เลือกใช้ทำการตลาดอย่างหลากหลายแล้วทำไมควรหันมาใช้ TikTok คุณสิรินิธิ์บอกว่าจุดเด่นของ TikTok for Business อันดับแรกคือ ติดตั้งง่ายเพียงแค่ลงทะเบียนใน www.tiktok.com ก็สามารถเริ่มต้นทำการตลาดได้ทันที 2.Flexible Budget งบประมาณสามารถตั้งค่าได้อย่างยืดหยุ่นและเหมาะสมกับความต้องการของธุรกิจ 3.สามารถหากลุ่มเป้าหมายได้หลากหลายตามกลุ่มประชากรและความสนใจ มี Customization  สามารถเลือกกลุ่มเป้าหมายได้ตามความต้องการรวมทั้งมี  Look alike ให้เลือกลักษณะเหมือนของกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการ  4. Creative Tool มีเครื่องมือช่วยสร้างสรรค์วิดีโอแบบง่ายๆ ทั้ง Template ใส่แคปชั่นและเพลงประกอบได้ทันที รวมถึงมีระบบโหลดวิดีโอแบบอัตโนมัติได้ถึง 10 ตัวแล้วเลือกวิดีโอให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายได้ทันที และ5.สามารถตั้งค่าผลลัพธ์หลังบ้านได้ว่าอยากให้เกิด Awareness หรือ Conversion เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามที่ธุรกิจต้องการ

สุดท้ายคุณสิรินิธิ์ฝากว่า TikTok เป็นแพลตฟอร์มสำหรับทุกคนที่พร้อมเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการธุรกิจไม่ว่าขนาดเล็กหรือขนาดกลางที่อาจมีทีมงานไม่มากนักก็สามารถเข้ามาทำการตลาดผ่านการสร้างสรรค์แคมเปญบน  TikTok  ได้ด้วยตัวเองเพื่อค้นหาลูกค้ากลุ่มเป้าหมายบนแพลตฟอร์ม ที่สำคัญความคิดสร้างสรรค์คือหัวใจหลักในการทำแคมเปญบน TikTok ดังนั้นโอกาสแจ้งเกิดให้กับธุรกิจมีเท่ากันไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดไหนก็ตาม หากครีเอทคอนเทนต์ได้โดนใจโอกาสที่ธุรกิจจะโด่งดังไกลมียอดขายถล่มทลายเกิดขึ้นได้เพียงชั่วข้ามคืน

ที่มา : Digital SME Conference Thailand 2020 : How to use TikTok to Promote Your Business โดยคุณสิรินิธิ์  วิรยศิริ Head of Business Marketing Tiktok Thailand