ผลการค้นหา "{{keyword}}" ไม่ปรากฎแต่อย่างใด
การใช้และการจัดการคุกกี้
ธนาคารมีการใช้เทคโนโลยี เช่น คุกกี้ (cookies) และเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกันบนเว็บไซต์ของธนาคาร เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น โปรดอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ นโยบายการใช้คุกกี้ของธนาคาร
30-07-2562
อโรคยา ปรมา ลาภา’ การไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐฉันใด การไม่มีหนี้ก็เป็นลาภอันประเสริฐฉันนั้น
‘หนี้’ คำเล็กๆ สั้นๆ แต่ออกฤทธิ์เขย่าขวัญขั้นรุนแรง จนกลายเป็นสาเหตุอันดับต้นๆ ของโรคนอนไม่หลับ ตลอดจนเป็นสาเหตุหลักของการฆ่าตัวตายในปัจจุบัน ซึ่งทำให้สำนวน ‘การไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ’ ออกจะเชยไปแล้วสำหรับคนยุคนี้ หลายคนคงเห็นพ้องต้องกันว่า ‘การไม่มีหนี้เป็นลาภอันประเสริฐ’ ท่าจะจริงมากกว่า
อย่างไรก็ตาม สำหรับคนที่หลวมตัวสร้างหนี้ไปแล้ว และอยากสะสาง เพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ แต่ยังมึนๆ ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร บทความนี้มีคำตอบ สำหรับคนที่อยากปิดหนี้นอกระบบอย่างจริงจัง
เงินกู้นอกระบบคืออะไร?
เงินกู้นอกระบบ หมายถึง เงินกู้ที่ไม่ได้อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสถาบันการเงินหรือกฎหมาย เช่น ธนาคารพาณิชย์ สหกรณ์ออมทรัพย์ หรือบริษัทสินเชื่อที่ได้รับใบอนุญาตจากกระทรวงการคลัง ผู้ปล่อยเงินกู้นอกระบบมักเป็นบุคคลทั่วไปหรือกลุ่มบุคคลที่เปิดรับปล่อยกู้โดยไม่มีสัญญาถูกต้องตามกฎหมาย ทำให้ผู้กู้เสี่ยงถูกเอาเปรียบ ทั้งอัตราดอกเบี้ยที่สูงเกินจริง และวิธีทวงหนี้ที่ไม่เหมาะสม
ความแตกต่างของเงินกู้ในระบบ และนอกระบบ มีอะไรบ้าง?
1. ความถูกต้องตามกฎหมาย
2. อัตราดอกเบี้ย
3. ความปลอดภัย
ตัวอย่างการคำนวณดอกเบี้ย
สมมติกู้เงิน 10,000 บาท
เห็นได้ชัดว่าการกู้เงินแบบเงินกู้นอกระบบ มีภาระดอกเบี้ยสูงและอันตรายต่อการเงินในระยะยาว หากไม่วางแผนแก้หนี้นอกระบบอย่างจริงจัง อาจทำให้ชีวิตการเงินพังทลายได้
ขั้นตอนการปลดหนี้ พร้อมปรับนิสัยเพื่อไม่ให้เป็นหนี้ในอนาคต
1. รวบรวมหนี้
ต้องรู้ก่อนว่าเรามีหนี้อะไรบ้าง ยอดเท่าไหร่ ด้วยการทำลิสต์รายการหนี้สินที่มีทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นหนี้ในระบบ นอกระบบ หนี้มาก หนี้น้อย ต้องรวบรวมออกมาให้หมด
2. จัดระเบียบหนี้
โดยหนี้แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ดังนี้
2.1 หนี้ดี คือ หนี้ที่ทำให้เรามีความมั่งคั่งมากยิ่งขึ้น มีรายได้มากยิ่งขึ้น เช่น หนี้จากการทำธุรกิจ หนี้จากการกู้ซื้อบ้าน ซึ่งทำให้เรามีรายได้จากการทำธุรกิจมากขึ้น มีสินทรัพย์เพิ่มมากยิ่งขึ้น ไม่ต้องเสียค่าเช่าบ้าน แต่การเป็นหนี้ที่ดีนั้น จะต้องไม่กระทบต่อเงินที่เอาไว้ใช้จ่ายประจำวัน หรือที่เรียกว่า “สภาพคล่อง” และจะต้องพิจารณาว่าเรามีความสามารถในการชำระหนี้ได้จนหมด โดยไม่กระทบต่อเงินในกระเป๋าที่ใช้ในการดำรงชีวิตประจำวัน
2.2 หนี้เลว (ต้องตั้งชื่อให้ฟังดูแย่ไว้ก่อน เพื่อเป็นการเตือนสติว่าไม่ควรก่อหนี้กลุ่มนี้ขึ้นมา หรือถ้าก่อมาแล้วก็ต้องรีบกำจัดให้เร็วที่สุด) เกิดจากพฤติกรรมการใช้ หมายถึง หนี้เพื่อการอุปโภคและบริโภค เป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ ใช้แล้วหมดไป เช่น เอาไปซื้อเสื้อผ้า โทรศัพท์ ทีวี หนี้พวกนี้มักเป็นหนี้จากสินเชื่อบุคคล บัตรกดเงินสด บัตรเครดิต หรือเป็นหนี้นอกระบบ
การแยกหนี้ออกเป็น 2 กลุ่มแบบนี้ จะทำให้เห็นภาพชัดเจนว่า เราต้องจัดการกับหนี้กลุ่มไหนก่อน โดยเราไม่ควรมีหนี้รวมทั้งหมดเกินกว่า 45% ของรายได้ และไม่ควรมีหนี้เลวเกินกว่า 15% ของรายได้
3.ลำดับการชำระหนี้
นำหนี้ในข้อ 2 มาจัดลำดับอีกครั้ง โดยให้ความสำคัญกับหนี้ที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงก่อนหนี้ที่มีอัตราดอกเบี้ยปกติ โดยถ้ามีเงินที่ต้องชำระหนี้ในจำนวนจำกัด ควรเลือกชำระหนี้ดอกเบี้ยปกติด้วยจำนวนเงินขั้นต่ำ แล้วนำเงินที่เหลือทั้งหมดไปชำระหนี้ที่มีดอกเบี้ยสูงกว่า เพื่อเป็นการตัดภาระออกไปให้ได้มากที่สุด และในระยะยาวถ้าสามารถทำได้ให้กู้เงินจากแหล่งเงินที่มีดอกเบี้ยต่ำ
4.ไม่เพิ่มหนี้
ในระหว่างทยอยกำจัดหนี้เก่า ท่องให้ขึ้นใจว่า จะไม่ก่อหนี้ใหม่ และจะยิ่งดีกว่านั้น ถ้าสามารถงดรายจ่ายฟุ่มเฟือยทั้งหมด แล้วนำเงินที่เคยใช้ในส่วนนี้ไปจ่ายชำระหนี้ ก็จะทำให้หนี้หมดเร็วขึ้น ถ้าจะให้ดีที่สุด คุณต้องหาความฝันและเป้าหมายในชีวิตให้เจอ เพราะถ้าคุณมีฝัน และมีเป้าหมายในชีวิตที่ชัดเจนมากพอ คุณจะรู้ได้ทันทีว่าการปลดหนี้ และการเก็บเงินให้ได้นั้น ไม่ใช่เรื่องยากเกินความสามารถอีกต่อไป
5.อย่าผิดนัดการชำระหนี้
การชำระหนี้ล่าช้าเกินเวลาที่กำหนดไว้ อาจทำให้เราโดนค่าปรับ ค่าธรรมเนียม ค่าใช้จ่ายในการติดตามทวงหนี้ และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เราคาดไม่ถึง และทำให้มูลหนี้เพิ่มขึ้นโดยเราไม่รู้ตัวก็เป็นได้
6. ลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น
การปลดหนี้เริ่มต้นได้จากการลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น โดยควรจดบันทึกรายจ่ายในแต่ละวันเพื่อให้เห็นพฤติกรรมการใช้เงินที่แท้จริง จากนั้นลองแยกว่าอะไรคือสิ่งจำเป็น และอะไรคือความฟุ่มเฟือยที่สามารถตัดออกไปได้ ตัวอย่างเช่น ลดการซื้อของที่เกินความจำเป็น ทำอาหารกินเองแทนการทานข้างนอก หรือปรับแพ็กเกจโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตให้เหมาะสมกว่าเดิม การลดรายจ่ายเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้ เมื่อรวมกันแล้วจะช่วยเพิ่มเงินเหลือสำหรับนำไปใช้หนี้ได้อย่างมีนัยสำคัญ
7. หารายได้เพิ่ม
การหารายได้เพิ่มก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน เพราะการมีรายรับมากขึ้นจะช่วยให้การชำระหนี้ทำได้เร็วกว่าเดิม วิธีที่ทำได้ เช่น การรับงานพิเศษหลังเลิกงาน การใช้ทักษะที่มีอยู่ในการรับจ้างหรือทำฟรีแลนซ์ ขายของออนไลน์ หรือแม้แต่การขายของที่ไม่ได้ใช้งานแล้วเพื่อเปลี่ยนเป็นเงินสด รายได้เสริมเหล่านี้ แม้อาจดูไม่มากนัก แต่เมื่อสะสมไปเรื่อย ๆ จะช่วยให้สามารถนำไปโปะหนี้ได้ต่อเนื่อง และทำให้เส้นทางการปลดหนี้สั้นลงได้จริง
วิธีปลดหนี้นอกระบบทำอย่างไร?
โดยมากเมื่อเราจัดลำดับการใช้หนี้ โดยให้ความสำคัญกับหนี้ที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงก่อน หนี้นอกระบบจะเป็นหนี้ลำดับต้นๆ ที่เราต้องรีบจัดการ เพราะหนี้นอกระบบจะเป็นหนี้ที่มีอัตราดอกเบี้ยที่สูงมาก และน่าจะสูงที่สุด ดังนั้นหากหลวมตัวเป็นหนี้นอกระบบไปแล้ว วิธีการแก้หนี้นอกระบบ และแนวทางในการปิดหนี้นอกระบบ มีดังนี้
1. คุยกับเจ้าหนี้ เมื่อรู้สึกว่าเริ่มจะชำระหนี้ที่มีอยู่ไม่ไหวแล้ว ซึ่งอาจจะขอยืดระยะเวลาชำระหนี้ออกไปก่อน โดยขอให้คงอัตราดอกเบี้ยเท่าเดิม หรือขอลดดอกเบี้ยบางส่วนลงมา พร้อมรับปากจะไม่ผิดนัดและจ่ายเงินที่เหลือตามเวลาที่กำหนด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การคุยกับเจ้าหนี้ ก็ขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ที่เรามีกับเจ้าหนี้และประวัติการชำระหนี้ของเราด้วย
2. หาเงินก้อนมาโปะ โดยลำดับแรก ให้ลองดูว่าจะขายของมีค่าที่มีอยู่อะไรได้บ้าง เช่น เครื่องประดับ กระเป๋า รองเท้าแบรนด์เนม นาฬิกา จากนั้นลองขอคำปรึกษาจากธนาคาร โดยในปัจจุบันธนาคารหลายแห่งมีแนวทางช่วยเหลือผู้เป็นหนี้นอกระบบออกมาอยู่เรื่อยๆ โดยให้เข้าไปสอบถามธนาคารดูว่าจะสามารถช่วยเหลืออะไรได้บ้าง เพื่อให้สามารถกู้เงินในระบบมาช่วย ปิดหนี้นอกระบบได้ โดยแนวทางที่มักเลือกใช้กัน เช่น
3. เมื่อได้เงินก้อนมา ให้รีบนำไปปลดหนี้ทันที เพื่อช่วยลดภาระหนี้สิน และภาระดอกเบี้ยให้เบาลง หากมีหนี้นอกระบบหลายก้อน ให้เลือกชำระหนี้ที่มีดอกเบี้ยสูงสุดก่อน ที่เหลือค่อยทยอยโปะหนี้ก้อนอื่นๆ ที่ดอกเบี้ยลดหลั่นกันไป ควรเลือกปิดหนี้ทีละก้อน อย่ากระจายเงินใส่หลายๆ ก้อน เพราะจะไม่ช่วยให้ภาระดอกเบี้ยที่เราต้องแบกในแต่ละเดือนลดลง จึงเป็นที่มาว่าคุณควรเจรจากับเจ้าหนี้ควบคู่ไปด้วย
4. เปลี่ยนพฤติกรรมการใช้จ่าย และไม่ก่อหนี้เพิ่ม การเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้เงิน จะเป็นวิธีที่ทำให้คุณสามารถค่อยๆ แก้หนี้นอกระบบได้ในระยะยาว และยังช่วยให้ไม่กลับมาเป็นหนี้อีกครั้ง โดยเริ่มต้นง่ายๆ ด้วยการสำรวจการใช้เงินของตัวเองในแต่วันผ่านการทำบันทึกรายรับ - รายจ่าย ซึ่งจะทำให้คุณรู้ว่าหมดเงินไปกับเรื่องอะไรบ้าง เป็นค่าใช้จ่ายจำเป็นหรือฟุ่มเฟือย เพื่อที่จะตัดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นออกไป และนำเงินส่วนนี้ไปใช้หนี้แทน
กล่าวโดยสรุป หากมีความตั้งใจจริง มีวินัย และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้จ่ายต่างๆ ได้ การปลดหนี้นอกระบบก็ไม่ใช่เรื่องที่ไกลเกินเอื้อม สำหรับใครที่อยากปิดหนี้นอกระบบต้องเริ่มต้นจากการวางแผนที่ถูกต้อง มีวินัยทางการเงิน และไม่ก่อหนี้เพิ่มอีกในอนาคต
บทความโดย : นิภาพันธ์ พูนเสถียรทรัพย์ CFP® นักวางแผนการเงินอิสระ นักเขียนและวิทยากร