“PIN ไม่ใช่ชื่อเล่นที่ติดตัวมาตั้งแต่เด็ก — ถ้าเสี่ยง ก็ควรเปลี่ยนทันที”

เพราะมิจฉาชีพสมัยนี้ มาในหลากหลายรูปแบบ และใกล้ตัวเรากว่าที่คิด อาจจะเป็นคนที่เล่นมือถืออยู่ข้าง ๆ เราก็ได้! ถ้าไม่อยากตื่นมาเจอเงินหายไปเฉย ๆ มาลองเช็กตาม 6 สัญญาณนี้กันหน่อย ว่าถึงเวลาต้องเปลี่ยน PIN ใหม่แล้วหรือยัง?

สัญญาณ 1: เผลอหลุดบอก PIN ให้คนอื่น

วันนี้รักกันดี พรุ่งนี้เลิกกันใครจะรู้! เรื่องเงินอย่าเผลอบอกรหัสให้ใครเด็ดขาด เพราะ PwC (2022) เคยรายงานว่า กว่า 30% ของข้อมูลรั่วไหล มาจาก “คนใกล้ตัว” นี่แหละ สรุปสั้น ๆ : PIN ต้องเป็นเรื่องส่วนตัวสุด ๆ

สัญญาณ 2: รหัสอยู่กับคุณนานกว่ารองเท้าคู่โปรด

ถ้าใช้ PIN เดิมมาเป็นปี ๆ อาจถูกเดารหัสจากพฤติกรรมซ้ำ ๆ ถึงเวลาละ! ENISA (2021) แนะนำให้เปลี่ยนรหัสเป็นระยะ ๆ เพื่อปิดช่องโหว่ 

สัญญาณ 3: PIN เดาง่ายกว่าล็อกอิน Netflix

วันเกิด เบอร์โทรศัพท์ หรือเลขวนซ้ำ ๆ อย่าง 1111, 1234 คือของโปรดโจร เพราะอาจถูกแฮกจากการสุ่มรหัสได้ Microsoft (2020) ยังบอกเลยว่า กว่า 80% ของการโดนแฮก มาจากการใช้รหัสแบบนี้ ถ้าไม่อยากเสียใจทีหลัง เปลี่ยนรหัสให้ปลอดภัยดีกว่า

สัญญาณ 4: เงินหายไปไหนไม่รู้

ถ้าอยู่ ๆ มีธุรกรรมแปลก ๆ โผล่มาในมือถือ ให้เดาได้เลยว่าข้อมูลคุณอาจรั่วแล้ว! รีบเปลี่ยน PIN ด่วน และอย่าลืมเปิดแจ้งเตือนธุรกรรมในแอป SCB EASY จะได้รู้ทันทุกความเคลื่อนไหวแบบเรียลไทม์

สัญญาณ 5: ต้องจด PIN ไว้เพราะลืมตลอด

โพสต์อิทติดหน้าคอมหรือเขียนใส่สมุดบันทึกกันลืม = การเปิดเผยให้มิจมาดูฟรี CIS (2022) แนะนำว่าควรตั้งรหัสที่จำง่ายสำหรับเรา แต่ยากที่คนอื่นจะคาดเดาได้ จะได้ไม่ต้องจดทิ้งไว้ให้ใครเห็นอีก

สัญญาณ 6: ไม่เคยเปิดแจ้งเตือนความปลอดภัยในแอป 

หลายคนอาจคิดว่า “ไม่เปิดแจ้งเตือนก็ดี จะได้ไม่กวนใจ” แต่สำหรับเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ การเปิดแจ้งเตือนไว้ถือว่าปลอดภัยกว่าแน่นอน เพราะถ้าไม่มีระบบเตือน คุณอาจไม่รู้เลยว่ามีใครเข้าถึงบัญชีโดยไม่ได้รับอนุญาต การเปิดแจ้งเตือนธุรกรรมเงินเข้า-ออก จะช่วยให้คุณเห็นความเคลื่อนไหวทันที และเพิ่มเกราะป้องกันอีกชั้นให้เงินในบัญชีของคุณ