6 หนัง/ซีรี่ส์ พลิกชีวิต จุดประกายไฟธุรกิจในตัวคุณ

แรงบันดาลใจการทำธุรกิจ ไม่ได้มาจากชีวิตจริงที่บอกเล่าบนหน้าหนังสือเท่านั้น แต่ยังมี 6 หนังและซีรีส์ จากไทยและต่างประเทศเรื่องเยี่ยม ที่ให้ทั้งความสนุกสนานและพาไปสัมผัสแง่มุมของนักธุรกิจหลากวัยที่ต้องผจญกับหลากสถานการณ์ หากดูจบแล้วรู้สึกรุ่มร้อนก็อย่าแปลกใจ เพราะนั่นอาจเป็น “ไฟ” ลุกขึ้นเจิดจ้าในตัวคุณ

 

1) Top Secret วัยรุ่นพันล้าน


เรื่องแรก “Top Secret วัยรุ่นพันล้าน” หนึ่งในหนังไทยคุณภาพ สร้างแรงบันดาลใจแก่คนรุ่นใหม่ในการเริ่มต้นทำธุรกิจ ได้เค้าโครงจากชีวประวัติของ “ต๊อบ-อิทธิพัทธ์” เจ้าของธุรกิจสาหร่ายแบรนด์ดัง “เถ้าแก่น้อย” บอกเล่าชีวิตเด็กหนุ่มติดเกม ไม่สนใจการเรียน จนกระทั่งชีวิตเกิดพลิกผัน ครอบครัวประสบปัญหาล้มละลาย จนเด็กหนุ่มต้อง “ลงมือทำ” ทุกอย่าง เปลี่ยนจากคนไม่เอาถ่านเพื่อความอยู่รอด ขายเครื่องเล่นวีซีดี ไปจนถึงเช่าพื้นที่ห้างขายเกาลัด กระทั่งค้นพบสุดยอดสินค้าขายดีอย่างสาหร่ายทอดกรอบ และต่อยอดจนประสบความสำเร็จหลังฝ่าฟันทุกความขัดแย้งบนเส้นเรื่องการทำธุรกิจ ใครดูแล้วลองหยิบแรงฮึดของวัยรุ่นพันล้านในเรื่อง แปรเปลี่ยนเป็นแรงขับ ดันตัวเองสู่เส้นชัยกันได้

2) Jiro Dreams of Sushi


ยังคงวนเวียนเกี่ยวกับธุรกิจอาหาร แต่คราวนี้เป็นซูชิขั้นเทพของร้าน Sukiyabashi Jiro ดีกรี 3 ดาวมิชลิน ในภาพยนตร์สารคดีเรื่อง “Jiro Dreams of Sushi” นอกจากจะดูไปกลืนน้ำลายไปแล้ว ยังสัมผัสได้ถึงรสชาติ “ความเอาใจใส่” ในการทำงานทุกขั้นตอน ไล่เรียงตั้งแต่การคัดเลือกวัตถุดิบ กรรมวิธีการเตรียมส่วนผสมกว่าจะปั้นซูชิออกมาได้แต่ละคำ ไปจนถึงการสังเกตความต้องการของลูกค้าหน้าเคาน์เตอร์ทั้งที่ไม่ได้เอ่ยปากขอ

ทั้งหมดนี้คือที่มาของสุดยอดเชฟจอมเนี้ยบเข้าขั้นเพอร์เฟ็คต์ชันนิสต์วัย 80 ปีนาม “จิโร่” ผู้ไม่ยอมปล่อยผ่านรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ไปโดยง่าย ที่ช่วยฉายแง่มุมสากลของคนรับไม้ต่อธุรกิจจากรุ่นพ่อ นั่นคือความกดดันในใจลูกชายคนโตของปู่จิโร่ ว่าต้องพยายามทำให้ดีที่สุด เหมือนกับที่พ่อได้สร้างตำนานซูชิแห่งแดนปลาดิบไว้

 

3) Rich Man Poor Woman


อีกหนึ่งซีรีส์จากญี่ปุ่น “Rich Man Poor Woman” เรื่องที่สอนว่า “ล้มแล้วต้องลุกให้เร็ว” แม้ว่าซีรีส์เรื่องนี้เดินตามขนบโรแมนติกคอเมดี้ชวนฝัน เมื่อนางเอกใสซื่อความจำชั้นเลิศ ต้องคอยตามติดเป็นผู้ช่วยพระเอกยอดอัจฉริยะเจ้าของบริษัทไอทียักษ์ใหญ่ซึ่งเป็นโรคจำหน้าคนไม่ได้

 
แต่สิ่งที่น่าสนใจคือการสอดแทรกเรื่อง “ความไม่ย่อท้อ” ของพระเอก ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งบริษัท ไปจนถึงตอนทำโปรเจ็กต์ด้านไอทีขนาดใหญ่ที่ไม่เคยมีใครลองมาก่อน อย่างการสำรวจสำมะโนประชากรเพื่อจัดทำระบบ Personal File กระทั่งเจอปัญหาใหญ่ ต้องจำใจลาออกจากบริษัทที่ตัวเองปั้นมากับมือ กลับไปเริ่มนับศูนย์ใหม่อีกครั้ง เข้าทำนองไม่สู้ก็แพ้ โดยบทสนทนาหนึ่งที่นางเอกพูดให้กำลังใจพระเอกเป็นเหมือนกำลังใจให้คนทำธุรกิจที่ล้มเหลวด้วยว่า “การเริ่มต้นสร้างสิ่งใหม่ ต้องเจอกับความล้มเหลวและถูกวิจารณ์บ้างเป็นเรื่องธรรมดา” อีกหนึ่งความเจ๋งของซีรีส์ญี่ปุ่นเรื่องนี้ อยู่ตรงที่ผู้ผลิตซีรีส์เกาหลีใต้ซื้อลิขสิทธิ์นำไปรีเมคเป็นที่เรียบร้อย มีกำหนดออกอากาศในปีนี้เอง

 

4) The Intern


ฟากความบันเทิงฝั่งอเมริกา ขอแนะนำภาพยนตร์เรื่อง “The Intern” กับการตีความคำว่า “เด็กฝึกงาน” ก็อาจเป็นคุณลุงวัยเกษียณได้เช่นกัน ซึ่งต้องพลิกผันมาทำงานในโลกดิจิทัล ภายใต้การนำของบอสสาวเจ้าของธุรกิจอี-คอมเมิร์ซสินค้าแฟชั่นซึ่งเริ่มธุรกิจด้วยตัวเองและประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วตามแบบฉบับตัวละครหญิงแกร่ง


เมื่อบอสสาวตัดสินใจรับเขาเป็นเด็กฝึกงานอาวุโส บริษัทสตาร์ทอัพแห่งนี้จึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการทำอะไรใหม่ๆ เปิดโอกาสให้คนวัยเก๋าได้ใช้ประสบการณ์ที่ไม่มีวันตกยุคในการช่วยเหลือ ตั้งแต่เรื่องงานไปจนถึงชีวิตส่วนตัว หนังเล่าเรื่องอย่างเรียบง่าย กลมกล่อม และให้ความรู้สึกที่ดี แถมยังสอดแทรกข้อคิดดีๆ ว่าการ “เริ่มต้น” สิ่งใหม่ ไม่ใช่เรื่องของคนอายุน้อยเสมอไป และคนทุกวัยต้องปรับตัวทั้งเชิงรับและรุกไปกับโลกที่หมุนเร็วอยู่เสมอ

5) Silicon Valley


อีกซีรีส์ที่ห้ามพลาดคือ “Silicon Valley” เพราะนอกจากจะได้เห็นเรื่องราวป่วนๆ ของพระเอกกับผองเพื่อนที่พกพาความเพี้ยนมาเต็มพิกัดแล้ว ยังสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของนิสัยผู้ก่อตั้งยักษ์ไซเบอร์ดังหลายๆ ค่ายแห่งซิลิคอนวัลเลย์ ดินแดนในฝันแห่งสตาร์ทอัพทั่วโลก ผ่านตัวละครแวดล้อมอีกด้วย


แต่สิ่งที่เราอยากให้คุณโฟกัสจากซีรีส์เรื่องนี้มากกว่า คือการเริ่มต้นทำธุรกิจด้วยตัวเองจากศูนย์ของคนที่ไม่รู้จักแม้กระทั่งวิธีการเขียนแผนธุรกิจ อาศัยการเรียนรู้ มีเพื่อนที่ดีคอยช่วยเหลือ และโค้ชที่ดีคอยเป็นครูให้คำปรึกษา หากคุณสนใจทำธุรกิจสตาร์ทอัพ เราขอแนะนำซีรีส์เรื่องนี้ให้ได้ชมกันเป็นการอุ่นเครื่อง แล้วคุณจะรู้ว่า แค่เขียนโปรแกรมเป็นอย่างเดียว มันไม่เพียงพอจริงๆ ต้องมีครูและพันธมิตรที่ดีด้วย

         

6) The Social Network


พูดถึงซีรีส์เกี่ยวกับธุรกิจสตาร์ทอัพแล้ว จะไม่เอ่ยถึง “The Social Network” ภาพยนตร์เรื่องเยี่ยมซึ่งอ้างอิงจากเรื่องจริงของผู้ร่วมก่อตั้งโซเชียลเน็ตเวิร์กเชื่อมคนทั้งโลกอย่าง Facebook ก็กระไรอยู่


แม้การดำเนินเรื่องของหนังจะพุ่งไปยังวิธีการเชื่อมผู้คนบนแพลตฟอร์มดัง ท่ามกลางความสัมพันธ์ระหว่างมาร์ค ซักเกอร์เบิร์ก กับคนรอบข้างที่ไม่อาจเชื่อมเข้าหากันได้ แต่สิ่งที่เราอยากให้คุณโฟกัสเพิ่มเติม คือการพัฒนาเฟซบุ๊กอย่างไม่รู้จบ ไปจนถึง “วิธีคิด” จับประเด็น “ความในใจของผู้บริโภค” (Consumer Insight) ให้อยู่หมัด เช่น ทันทีที่สังเกตได้ว่าคนเราไม่มีป้ายแขวนบอกสถานะความสัมพันธ์และความสนใจ มาร์คก็จัดการเพิ่มมันมาใส่บนหน้าเฟซบุ๊กของแต่ละคนทันที

 

นี่เป็นเพียงตัวอย่างของหนังและซีรีส์เรื่องเยี่ยมที่นอกจากจะมอบความบันเทิงแล้ว ยังสอดแทรกแนวคิดและวิธีการทำธุรกิจที่น่าสนใจหลายๆ มิติ ให้คุณได้ดูแล้วนำไปประยุกต์ใช้ ก่อเกิดเป็นแรงบันดาลใจ เพื่อสร้างเรื่องราวความสำเร็จ “เรื่องใหม่” ในชีวิตจริงของตัวคุณเอง