ผลการค้นหา "{{keyword}}" ไม่ปรากฎแต่อย่างใด
การใช้และการจัดการคุกกี้
ธนาคารมีการใช้เทคโนโลยี เช่น คุกกี้ (cookies) และเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกันบนเว็บไซต์ของธนาคาร เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น โปรดอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ นโยบายการใช้คุกกี้ของธนาคาร
25-09-2568
ในวันที่ AI กลายเป็นเพื่อนร่วมงานที่ทำงานเร็วกว่าเรา รู้มากกว่าเรา และบางครั้งก็แม่นยำกว่าเรา หลายคนอาจเริ่มถามตัวเองว่า… “แล้วมนุษย์อย่างเราจะยังจำเป็นอยู่ไหม?”
คำตอบคือ จำเป็นมากกว่าเดิม เพียงแต่สิ่งที่เราต้องพัฒนาคือ “ทักษะที่ AI ยังแทนไม่ได้” เพราะสุดท้ายแล้ว โลกการทำงานไม่ได้ต้องการแค่คนที่ “ทำงานเสร็จ” แต่ต้องการคนที่ “ทำงานได้อย่างถูกต้องและมีคุณค่า” แล้วทักษะเหล่านี้ มีอะไรบ้าง? มาดูกันเลย
1. ความคิดสร้างสรรค์ (Creativity)
AI อาจเขียนโฆษณาได้ภายในไม่กี่วินาที แต่ลองถามดูสิว่า มันจะเข้าใจ “มุกขำขันบ้าน ๆ” ที่ทำให้ลูกค้าคนไทยยิ้มได้จริง ๆ ไหม? หรือมันจะคิดคอนเซ็ปต์โฆษณาที่ตีแผ่ชีวิตมนุษย์เงินเดือน โดยรู้จักการนำ Insight ของลูกค้ามาใช้ได้เหมือนคนจริง ๆ หรือเปล่า?
ความคิดสร้างสรรค์คือการเชื่อมโยงสิ่งที่ดูไม่เกี่ยวข้องเข้าด้วยกัน เพื่อสร้างบางอย่างใหม่ ๆ นี่คือจุดที่มนุษย์ยังเหนือกว่า เพราะเรามีประสบการณ์ มีอารมณ์ มีความทรงจำ และมีมุมมองเฉพาะตัวที่ AI ไม่มี
เคล็ดลับเล็ก ๆ: ฝึกสังเกตสิ่งรอบตัว แล้วลองตั้งคำถามเล่น ๆ เช่น “ถ้าตู้เย็นพูดได้ มันจะบ่นอะไร?” การเล่นกับความเป็นไปไม่ได้ จะช่วยเปิดพื้นที่ให้ความคิดสร้างสรรค์ใหม่ ๆ เกิดขึ้น
2. การสื่อสาร (Communication)
ต่อให้ AI จะเก่งการคำนวณแค่ไหน แต่มันยังไม่รู้วิธี “พูดให้คนรู้สึก เข้าใจ และเชื่อใจ” การสื่อสารไม่ใช่แค่การส่งข้อมูล แต่คือการส่ง “ความหมาย” และ “ความรู้สึก” ไปถึงคนฟัง
ในที่ทำงาน ลองคิดถึงหัวหน้าที่เวลาพูดตอนประชุมแล้วทำให้ทั้งทีมมีกำลังใจฮึดสู้ เทียบกับอีกคนที่อ่านสไลด์เรียงข้อเหมือนเครื่องจักร… คุณอยากทำงานกับใคร?
เคล็ดลับเล็ก ๆ: ลองฝึกเล่าเรื่องแนว Storytelling จากชีวิตประจำวัน แล้วหัดเล่าให้คนอื่นฟังอย่างเป็นธรรมชาติ ให้คนฟังรู้สึกมีส่วนร่วมเหมือนอยู่ในเหตุการณ์ไปด้วย
3. การแก้ปัญหาเชิงซับซ้อน (Complex Problem Solving)
AI อาจเก่งในการหาคำตอบที่ “ถูกต้อง” แต่โลกการทำงานจริง ๆ มักไม่มีคำตอบเดียว เช่น จะทำยังไงให้ยอดขายเพิ่ม แต่ไม่กระทบคุณภาพชีวิตทีมงาน? หรือจะตัดสินใจอย่างไรเมื่อข้อมูลขัดแย้งกัน?
ตรงนี้เองที่มนุษย์มีข้อได้เปรียบ เพราะเรามีวิจารณญาณ มีประสบการณ์ และมีความสามารถในการชั่งน้ำหนักหลายปัจจัยพร้อมกัน การแก้ปัญหาเชิงซับซ้อนจึงเป็นทักษะที่องค์กรยุคใหม่ให้คุณค่าอย่างมาก
เคล็ดลับเล็ก ๆ: เวลามีปัญหา อย่าถามแค่ว่า “จะแก้ยังไง?” แต่ถามต่อว่า “ผลกระทบที่ตามมาคืออะไร?” การคิดต่อยอดแบบนี้จะทำให้คุณเป็นคนที่คิดรอบด้านกว่า AI
4. ความฉลาดทางอารมณ์ (Emotional Intelligence)
AI อาจวิเคราะห์ข้อมูลพนักงานแล้วบอกได้ว่า “คนนี้ทำงานเสร็จช้า” แต่สิ่งที่มันไม่รู้คือ… “ทำไม?” บางครั้งอาจเพราะเขาเจอปัญหาครอบครัว หรือรู้สึกหมดไฟ ทักษะการเข้าใจอารมณ์คนอื่นและรู้จักควบคุมอารมณ์ตัวเอง จึงเป็นจุดแข็งที่มนุษย์ยังคงชนะอยู่
มนุษย์เงินเดือนที่มี EQ สูง จะเป็นเหมือนกาวเชื่อมทีม ทำให้บรรยากาศการทำงานดีขึ้น และลดความขัดแย้งในที่ทำงานได้ นี่คือสิ่งที่ AI ไม่มีวันเลียนแบบได้เลย
เคล็ดลับเล็ก ๆ: ฝึกฟังแบบ “ไม่ขัดและไม่ตัดสิน” เวลาคนอื่นพูด ให้ลองฟังจนจบจริง ๆ โดยไม่รีบแทรกความคิดเห็นของเราเข้าไป จะทำให้สามารถเข้าใจความรู้สึกของคู่สนทนาได้มากขึ้น
5. การคิดเชิงกลยุทธ์ (Strategic Thinking)<
AI คิดเก่งเรื่อง “ทำอะไรให้สำเร็จ” แต่สิ่งที่มนุษย์ต้องโฟกัสคือ “ทำอะไร…ถึงจะสำคัญและคุ้มค่าที่สุด” การคิดเชิงกลยุทธ์คือการมองภาพใหญ่ เห็นอนาคต และวางแผนอย่างมีทิศทาง
ในโลกการทำงานจริง ไม่ใช่ทุกงานที่ควรทำ และไม่ใช่ทุกไอเดียที่ควรลงทุน การมีทักษะคิดเชิงกลยุทธ์จะทำให้คุณโดดเด่น เพราะองค์กรต้องการ “ผู้นำที่คิดเป็น” มากกว่าคนที่ “ทำได้ทุกอย่างแต่ไร้ทิศทาง”
เคล็ดลับเล็ก ๆ: เวลารับงานใหม่ ให้ถามเสมอว่า “งานนี้ช่วยให้องค์กรเข้าใกล้เป้าหมายระยะยาวขึ้นอย่างไร?” คำถามนี้จะทำให้คุณไม่หลงกับงานเล็ก ๆ ที่ไม่มีคุณค่าจริง
บทสรุป
AI กำลังกลายเป็น “เพื่อนร่วมงาน” ที่ทำงานไวและแม่นยำ แต่สิ่งที่ทำให้มนุษย์เงินเดือนแตกต่างและมีคุณค่ามากขึ้นเรื่อย ๆ คือ ทักษะที่ AI แทนไม่ได้ — ความคิดสร้างสรรค์ การสื่อสาร การแก้ปัญหาซับซ้อน ความฉลาดทางอารมณ์ และการคิดเชิงกลยุทธ์
อย่ามอง AI เป็นคู่แข่ง แต่มองว่า มันคือ “เครื่องมือ” ที่เข้ามาช่วยให้เราทำงานได้สะดวกและรวดเร็วขึ้น ส่วนสิ่งที่ทำให้งานมีชีวิตจริง ๆ นั้น ยังคงต้องการ หัวใจและสมองของมนุษย์ อย่างพวกเราอยู่นั่นเอง ดังนั้น มนุษย์เงินเดือนที่ดีต้องอย่าหยุดพัฒนาทักษะของตัวเอง