ผลการค้นหา "{{keyword}}" ไม่ปรากฎแต่อย่างใด
การใช้และการจัดการคุกกี้
ธนาคารมีการใช้เทคโนโลยี เช่น คุกกี้ (cookies) และเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกันบนเว็บไซต์ของธนาคาร เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น โปรดอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ นโยบายการใช้คุกกี้ของธนาคาร
08-08-2568
ทุกกิจกรรมที่เราทำในแต่ละวัน ตั้งแต่ตื่นเช้ามาแปรงฟัน เปิดไฟ เปิดแอร์ ขับรถไปทำงาน กินข้าว - เชื่อไหมว่า ทุกอย่างล้วนมีส่วนในการปล่อย “ก๊าซเรือนกระจก” เข้าสู่ชั้นบรรยากาศทั้งสิ้น และแม้จะเป็นเพียงกิจวัตรเล็ก ๆ แต่เมื่อรวมกันทั้งโลก ผลกระทบมันใหญ่โตจนกลายเป็น ภาวะโลกร้อน (Global Warming) ที่กำลังเขย่าโลกใบนี้อย่างรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ใช่แค่หิมะละลายที่ขั้วโลก แต่เป็นปัญหา ที่กระทบโดยตรงกับชีวิตเรา ตั้งแต่คุณภาพน้ำ อากาศ อาหาร ไปจนถึงการเงินในชีวิตประจำวัน
เรากำลังใช้ชีวิตอยู่ในโลกที่ไม่มีอะไรแน่นอน แหล่งอาหารจากภาคการเกษตรมีความเสี่ยงจะลดลงจากภัยแล้ง อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกเพิ่มสูงขึ้น ภัยธรรมชาติ น้ำท่วม ดินถล่มเกิดถี่กว่าที่เคย พายุรุนแรงขึ้น ไม่ทันตั้งตัว โลกไม่เหมือนเดิม แล้วเราจะใช้ชีวิตอยู่ในโลกแบบนี้อย่างไร?
มองเรื่องโลกร้อน แล้วต่อด้วยเรื่อง “เงินในกระเป๋า”
เมื่อพูดถึง อนาคตที่ไม่แน่นอน สิ่งที่คนไทยจำนวนมากยังไม่พร้อมเลยก็คือเรื่อง “การเงิน” จากผลสำรวจ ทักษะทางการเงินของคนไทยปี 2565 โดยธนาคารแห่งประเทศไทย พบข้อมูลที่น่าตกใจว่า
สองประเด็นนี้เมื่อรวมกับโลกที่แปรปรวน ก็ยิ่งทำให้ชีวิตหลังเกษียณดูน่ากังวลกว่าเดิมมาก เราไม่สามารถควบคุมโลกภายนอกได้ แต่เราสร้างความมั่นคงจากภายในตัวเองได้ โดยเริ่มต้นจาก “ความพร้อม”
“3 ความพร้อม” ที่จะพาคุณผ่านโลกที่ไม่แน่นอนได้
พร้อมที่ 1: พร้อมจ่ายเมื่อ “ฉุกเฉิน”
ถ้าวันหนึ่ง คุณตื่นมาพบว่าเกิดภัยธรรมชาติ จนร้านค้าเสียหาย ไม่มีรายได้ หรือบริษัทปรับโครงสร้าง ถูกเลย์ออฟโดยไม่ทันตั้งตัว คำถามคือ…คุณจะอยู่ได้อีกกี่วันโดยไม่ต้องกู้เงิน? นี่คือเหตุผลที่ “เงินสำรองฉุกเฉิน” จำเป็นอย่างยิ่ง
โดยมาตรฐานที่แนะนำคือ ควรมีเงินสำรองไว้ 3–6 เท่าของค่าใช้จ่ายต่อเดือน
เช่น หากคุณใช้เดือนละ 10,000 บาท ควรมีเงินสำรองในบัญชีออมทรัพย์อย่างน้อย 30,000–60,000 บาท ซึ่งไม่ใช่เงินที่ต้องเอาไปลงทุน ไม่ใช่เงินไว้ซื้อของที่อยากได้ แต่มันคือ “ตาข่ายนิรภัย” ทางการเงินที่จะช่วยให้คุณ ไม่ร่วงลงเหวทันทีที่เกิดวิกฤต แต่หากไม่มีเงินฉุกเฉิน ทางเลือกต่อไปที่อาจเกิดขึ้นคือ กู้เงินด่วน กดเงินสด รูดบัตรเครดิต หรือยืมจากคนรอบตัว และนั่นคือประตูสู่ “วังวนหนี้” ที่ดอกเบี้ยสูงลิ่วและออกยากเหลือเกิน
พร้อมที่ 2: พร้อมใช้จ่ายใน “วัยเกษียณ”
ลองจินตนาการดูว่า ถ้าเราทำงานถึงอายุ 60 แล้วเกษียณ เราจะยังมีชีวิตอยู่ต่ออีกกี่ปี? คำตอบคือเฉลี่ย 25 ปี หรือประมาณ 300 เดือน คำถามสำคัญคือ “คุณวางแผนค่าใช้จ่าย 300 เดือนหลังเกษียณไว้แล้วหรือยัง?” 300 เดือนที่ไม่มีเงินเดือนประจำ แต่ยังมีค่ากิน ค่าอยู่ ค่ายา ค่ารักษา ค่าดูแลครอบครัว ถ้าอยากมีชีวิตที่ไม่ลำบากหลังเกษียณ ต้องเริ่มคิดตั้งแต่วันนี้ เช่น
ถ้ายังไม่ได้เริ่ม เร็วที่สุดที่คุณจะเริ่มได้ คือวันนี้เลย
พร้อมที่ 3: พร้อมรับมือกับ “Climate Change”
ภาวะโลกร้อนอาจดูเป็นเรื่องใหญ่ระดับโลก แต่การรับมือเริ่มต้นจากสิ่งเล็ก ๆ ที่คุณทำได้ ไม่ต้องเปลี่ยนโลก แต่เปลี่ยน “ตัวเอง” ให้พร้อมกับโลกที่เปลี่ยน
2 มุมของความพร้อมนี้คือ:
นอกจากนี้ เรายังต้องมีส่วนช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น ลดการใช้พลาสติก เลือกเดินทางโดยขนส่งสาธารณ ปลูกต้นไม้ เลือกของที่ยั่งยืน ไม่ฟุ่มเฟือยในสิ่งที่ทำลายโลก เรื่องเล็ก ๆ ที่ทำทุกวัน กลายเป็นพลังเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ได้
พร้อมรับโลกที่ไม่แน่นอน ด้วย “การเงินที่มั่นคง”
โลกนี้อาจไม่มั่นคง แต่เราสร้างความมั่นคงได้จากภายใน
เริ่มจากวันนี้ ไม่ต้องพร้อมทีเดียวทั้ง 3 ข้อ แต่อย่างน้อยก็เลือก “เริ่ม” หนึ่งข้อ แล้วคุณจะพบว่า ความมั่นคงทางการเงินและชีวิต ไม่ใช่เรื่องไกลเกินไปและที่สำคัญ มันเริ่มต้นที่ตัวคุณเอง
เนื้อหาโดย อาจารย์รัก ดร.อัจฉรา โยมสินธุ์