ผลการค้นหา "{{keyword}}" ไม่ปรากฎแต่อย่างใด
การใช้และการจัดการคุกกี้
ธนาคารมีการใช้เทคโนโลยี เช่น คุกกี้ (cookies) และเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกันบนเว็บไซต์ของธนาคาร เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น โปรดอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ นโยบายการใช้คุกกี้ของธนาคาร
22-09-2568
ในยุคที่ Gig Economy เติบโตอย่างรวดเร็วและสอดคล้องกับความต้องการของคนรุ่นใหม่ที่ให้คุณค่ากับอิสระ มากกว่าความมั่นคงแบบดั้งเดิม หลายคนเลือกที่จะเป็น Gig Worker ไม่ว่าจะเป็นฟรีแลนซ์ นักออกแบบ นักเขียน นักการตลาด ครีเอเตอร์ ไปจนถึงไรเดอร์ ที่เลือกรับงานผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ อย่างอิสระและยืดหยุ่นตามไลฟ์สไตล์ของตนเอง แม้การเป็น Gig Worker จะมอบอิสระในการทำงานและการใช้ชีวิต แต่ก็มาพร้อมความท้าทายสำคัญคือ รายได้ที่ไม่แน่นอน ความเสี่ยงจากการไม่มีสวัสดิการ และความผันผวนของตลาดงาน หากไม่มีการวางแผนที่ดีก็อาจทำให้การงาน การเงิน และอิสระในการใช้ชีวิตสะดุดลงได้ แต่หากเราวางแผนทางการเงินอย่างฉลาด Gig Worker จะไม่เพียงแต่อยู่รอด แต่ยังสามารถเติบโตอย่างมั่นคงในโลกการทำงานยุคใหม่ได้ ดังนั้น การวางแผนการเงินอย่างรอบคอบจึงเป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้ Gig Worker ใช้ชีวิตได้อย่างมั่นคงมากขึ้น และนี่คือ 6 สูตรการเงินเพื่อชีวิตอิสระของ Gig Worker
1.แยกบัญชีให้ชัด จัดการเงินง่าย รู้รายได้ที่แท้จริง
สิ่งแรกที่ต้องทำหลังการก้าวสู่วงการ Gig Worker คือ การทำบัญชีธุรกิจแยกออกจากบัญชีส่วนตัว การรวมรายได้และรายจ่ายทั้งบัญชีส่วนตัวและบัญชีธุรกิจไว้ด้วยกันทำให้ไม่เห็นภาพรวมที่ชัดเจน ดังนั้น เราจึงควรมีบัญชีธุรกิจสำหรับรับเงินและจ่ายเงินที่เกี่ยวข้องกับงานโดยเฉพาะ เช่น ค่าอุปกรณ์ ค่าซอฟต์แวร์ ค่าดำเนินงาน และมีบัญชีส่วนตัว สำหรับรับเงินเดือนของตัวเอง และเพื่อใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน วิธีนี้จะช่วยให้คุณรู้กำไรสุทธิที่แท้จริงจากการทำงาน และยังทำให้การจัดการภาษีเป็นระบบมากขึ้น
2.ตั้งงบยืดหยุ่น คุมค่าใช้จ่ายอยู่หมัด
รายได้ของ Gig Worker ไม่สม่ำเสมอเหมือนพนักงานประจำ การกำหนดงบใช้จ่ายในแต่ละเดือนแบบตายตัวอาจทำให้เราจัดการเรื่องเงินยากขึ้น สิ่งที่ควรทำคือการตั้งเป้าตาม "รายได้ขั้นต่ำ" ที่เรามั่นใจว่าจะได้รับในแต่ละเดือน และวางแผนค่าใช้จ่ายที่จำเป็นตามเป้า และเมื่อได้รับรายได้ที่มากกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ ค่อยจัดสรรเงินส่วนที่เหลือเพื่อการออม การลงทุน และไลฟ์สไตล์ที่ต้องการ หลังจากเราได้รับค่าจ้างในการทำงานแล้วสิ่งสำคัญคือการแบ่งเงินเป็นสัดส่วนทันที เช่น 40% สำหรับค่าใช้จ่ายจำเป็น 20% สำหรับเงินออม/ลงทุน 30% สำหรับเงินฉุกเฉิน 10-20% สำหรับภาษี จะช่วยควบคุมการใช้จ่ายได้ดีขึ้น
3. กันเงินภาษีเตรียมไว้ ไร้กังวล
การจ่ายภาษีเป็นหน้าที่ที่ Gig Worker ต้องรับผิดชอบด้วยตัวเอง การกันเงินไว้ 10-20% ของรายได้ทุกครั้งที่ได้รับงาน จะช่วยลดภาระก้อนใหญ่ในช่วงสิ้นปี และช่วยวางระบบให้ชัดเจนตั้งแต่ต้น ซึ่งจะทำให้คุณไม่ต้องเครียดกับภาระภาษีในอนาคต ดังนั้น Gig Worker จึงควรเก็บเงินสำหรับการจ่ายภาษีให้เป็นสัดส่วน เช่น แยกบัญชีภาษีไว้เฉพาะ และจัดเก็บหลักฐานค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ไว้อย่างเป็นระบบ ทั้งการจัดทำไฟล์เอกสารฉบับจริง และการจัดทำซอฟต์ไฟล์ไว้เพื่อความสะดวกในการจัดส่ง โดยรวบรวมเอกสารค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการทำงาน เช่น ค่าเดินทาง ค่าโทรศัพท์ หรือค่าเช่าพื้นที่ เพื่อประโยชน์ในการหักลดหย่อนภาษี
4. อัปเงินสำรองฉุกเฉินเพิ่มเท่าตัว
ความไม่แน่นอนของงานทำให้ Gig Worker ต้องมีเงินสำรองฉุกเฉินมากกว่าเดิม หากพนักงานประจำควรมีเงินสำรอง 3-6 เดือนของค่าใช้จ่าย Gig Worker ก็ควรมีเงินสำรองฉุกเฉินเพิ่มเป็น 6-12 เดือน ตัวอย่างเช่น หากมีค่าใช้จ่ายต่อเดือน 25,000 บาท ควรมีเงินสำรองอย่างน้อย 150,000–300,000 บาท ที่ออมไว้ในบัญชีที่มีสภาพคล่อง สามารถถอนมาใช้ได้ทุกเมื่อโดยไม่ติดเงื่อนไข เพื่อรองรับช่วงที่ปริมาณงานลดลงหรือขาดรายได้
5.เตรียมสวัสดิการสร้างความอุ่นใจ
เมื่อไม่มีนายจ้างคอยดูแล Gig Worker ต้องสร้างสวัสดิการด้วยตัวเอง ทั้งประกันสุขภาพ ประกันอุบัติเหตุ เพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านสุขภาพ รวมถึงวางแผนออมเงินเพื่อการเกษียณ เช่น ลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) สิ่งเหล่านี้เป็นการลงทุนในความมั่นคงระยะยาวที่จะช่วยให้เรามีเกราะป้องกันทางการเงินที่แข็งแกร่งขึ้น
6. ลงทุนสม่ำเสมอ แม้รายได้ไม่แน่นอน
การลงทุนคือการสร้าง Passive Income หรือรายได้ในอนาคต แม้รายได้จากงานจะไม่สม่ำเสมอ แต่การเฉลี่ยเงินเพื่อลงทุนอย่างต่อเนื่องในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำถึงปานกลาง เช่น กองทุนรวม หุ้นปันผล หรือพันธบัตรรัฐบาล จะช่วยให้เงินของคุณเติบโตได้ในระยะยาว ดังนั้น จึงควรจัดสรรเงิน 10–15% ของรายได้สำหรับการลงทุนเป็นประจำ โดยเลือกลงทุนตามความเสี่ยงที่สามารถรับได้ และศึกษาข้อมูลการลงทุนอย่างละเอียดก่อนการตัดสินใจลงทุน เพื่อเพิ่มโอกาสารเติบโตของสินทรัพย์ในอนาคต
6 สูตรการเงินนี้เป็นกรอบการวางแผนที่ช่วยเพิ่มความมั่นคงให้ Gig Worker ได้มากขึ้น และยังช่วยให้กลุ่มคนทำงานอิสระสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงและความไม่แน่นอนได้อย่างแข็งแกร่งในยุค Gig Economy ด้วย
คำเตือน