40 ที่เที่ยวญี่ปุ่น 2024 เก็บครบทุกพิกัด ห้ามพลาด!


หยุดยาวปี 2024 นี้อยากเที่ยวญี่ปุ่น ควรไปเที่ยวที่ไหนดี? ถ้าพูดถึงเรื่องการเที่ยวต่างประเทศ ประเทศแรก ๆ ที่อยู่ในใจของทุกคนก็ต้องเป็นญี่ปุ่น ที่มีทั้งสถานที่ท่องเที่ยวหลากสไตล์ เหมาะสำหรับทุกสายให้ได้สนุกกันแบบไม่มีวันหมด แล้วถ้าเราจะไปเที่ยวญี่ปุ่นในปี 2024 นี้จะมีที่ไหนน่าเที่ยวบ้าง? วันนี้เราจัดเต็ม พิกัด 40 ที่เที่ยวญี่ปุ่นฉบับอัปเดต ให้ทุกคนได้เก็บไว้เป็นลายแทงแบบจุใจไปเลย

 

 

รวม 40 ที่เที่ยวญี่ปุ่นทั้งธรรมชาติและแหล่งชอปปิ้ง

ขึ้นชื่อว่าประเทศญี่ปุ่น ก็ต้องนึกถึงแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีความสวยงาม เหมาะสำหรับการถ่ายรูปเช็กอินลงโซเชียลมีเดีย ซึ่งต้องบอกเลยว่าญี่ปุ่นนั้นมีสถานที่ท่องเที่ยวสวย ๆ เยอะมาก และยังสามารถเที่ยวได้แบบจุใจตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะเป็น


1. Adachi Museum of Art พิพิธภัณฑ์ศิลปะอาดาชิ จังหวัดอามาเนะ 

พิพิธภัณฑ์ศิลปะอาดาชิ ที่เที่ยวญี่ปุ่นที่สามารถชมทัศนียภาพของสวนญี่ปุ่นที่สวยที่สุดกับพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่มีสวนญี่ปุ่นติดอันดับ 1 ถึง 17 ปีซ้อน ในบรรดาสวนและอุทยานประวัติศาสตร์กว่า 900 แห่งทั่วประเทศ และได้รับคะแนนสามดาวจาก Michelin Green Guide ของประเทศฝรั่งเศส ภายในพิพิธภัณฑ์ประกอบไปด้วยผลงานศิลปะภาพวาดญี่ปุ่นและ “สวนหินญี่ปุ่น” ขนาดใหญ่ในพื้นที่ 165,000 ตารางเมตร นอกจากนี้ยังมีสวนทรายขาว สวนมอสส์และสวนประเภทอื่น ๆ พร้อมทัศนียภาพของภูเขาคัทสึยะมะที่สวยงดงาม

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/8B1pMN2ReMsUMB8T8


2. Farm Tomita ฟาร์มโทมิตะ จังหวัดฮอกไกโด

ฟาร์มโทมิตะ เที่ยวทุ่งลาเวนเดอร์อันดับ 1 ในฮอกไกโด กับฟาร์มโทมิตะที่ขึ้นชื่อในเรื่องของทุ่งลาเวนเดอร์ และดอกไม้หลากสีนานาชนิด จนได้รับการขนานนามว่าเป็น “จุดชมดอกลาเวนเดอร์ที่ดีที่สุดของเมือง” สามารถเข้าชมความงดงามนี้ได้ในช่วงหน้าร้อนของทุกปี พร้อมเมนูของหวานอร่อย ๆ จากดอกลาเวนเดอร์ให้ลิ้มลอง นอกจากทุ่งลาเวนเดอร์ที่ขึ้นชื่อแล้ว ยังสามารถตื่นตาตื่นใจกับทุ่งดอกไม้ 7 สี หรือทุ่งอิโรโดริ (Irodori Field) ที่มีบรรดาดอกไม้หลากสี ทั้งสีม่วง สีขาว สีแดง สีส้ม สีชมพู สวยอลังการ เป็นจุดเช็กอินหนึ่งที่ห้ามพลาดสำหรับที่เที่ยวญี่ปุ่น

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/zRosvdNTp9VTBuAL6


3. Happo Pond บึงฮัปโป จังหวัดนากาโน่

สำหรับสายเทรกกิ้งห้ามพลาด กับจุดหมายปลายทางที่เที่ยวญี่ปุ่นอย่างบึงฮัปโปที่ขึ้นชื่อในความงดงามของธรรมชาติ บริเวณที่ตั้งของบึงนั้นล้อมรอบไปด้วยเทือกเขาเจแปนแอลป์ บนความสูงเหนือน้ำทะเล 2,080 เมตร ระยะทางประมาณ 1.5 กิโลเมตร ที่มีทั้งน้ำใสสะท้อนเทือกเขาเจแปนแอลป์เหมือนกับกระจก ใบไม้สีเหลืองแดงในฤดูใบไม้เปลี่ยนสีและใบไม้สีเขียวสดในฤดูร้อน และยังสามารถสนุกกับการเล่นสกีในฤดูหนาวได้อีกด้วย ซึ่งหากใครที่เป็นสายปีนเขาก็สามารถปีนขึ้นไปถึงยอดเขาคะระมะสึ (Mt. Karamatsu) ได้เช่นกัน

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/JuD8zckJneRMMe1k8



4. Jigokudani Monkey Park สวนลิงจิโกคุดานิ จังหวัดนากาโน่

ที่เที่ยวญี่ปุ่นสำหรับสายรักสัตว์ต้องมาชมฝูงลิงญี่ปุ่นแช่อนเซ็นแบบฟิน ๆ ท่ามกลางหิมะสีขาวที่สวนลิงจิโกคุดานิ ซึ่งเป็นแหล่งที่อยู่จริง ๆ ของลิงป่ามาอย่างยาวนาน โดยด้านในจะมีสระว่ายน้ำที่สร้างขึ้นมาสำหรับลิงป่าโดยเฉพาะ แต่มีข้อห้ามว่าไม่ควรสัมผัสหรือเข้าใกล้ตัวลิง และทางสวนแห่งนี้ก็มีการติดตั้งกล้องอยู่ข้าง ๆ สระน้ำเพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถสังเกตพฤติกรรมของลิงได้ด้วย

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/jQgMW1WriCYbFE6i8



5. Senganen Garden สวนเซ็นกังเอ็น จังหวัดคาโกชิม่า

สวนเซ็นกังเอ็น หรือที่คนท้องถิ่นรู้จักกันในชื่อ สวนไอโซเทเอน (Isoteien) สวนญี่ปุ่นที่มีทิวทัศน์สวยงามตระการตา ที่ถูกสร้างมาตั้งแต่สมัยเอโดะ ด้วยทิวทัศน์จากภูเขาไฟซากุระจิมะ และภายในสวนก็มีไฮไลท์อย่าง “ศาลเจ้าแมว” สุดน่ารักที่นักท่องเที่ยวและผู้คนส่วนใหญ่มักจะมาขอพรให้กับแมวของตัวเอง เขียนคำอธิษฐานลงบนแผ่นไม้เอมะและซื้อเครื่องรางน้องแมวกลับไปนั่นเอง

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/5ggP5PqFsDbvdnMV7



6. Fuji Shibazakura Festival เทศกาลทุ่งดอกชิบะซากุระ จังหวัดยามานาชิ

เทศกาลทุ่งดอกชิบะซากุระ เป็นที่เที่ยวญี่ปุ่นยอดฮิตอีกที่หนึ่ง เนื่องจากเป็นหนึ่งในเทศกาลที่มีชื่อเสียงที่สุดในการชมดอกชิบะซากุระ หรือดอกพิงค์มอสในญี่ปุ่น พร้อมกับฉากหลังภูเขาไฟฟูจิที่จัดขึ้นเพียงปีละครั้งในช่วงกลางเดือนเมษายนไปจนถึงปลายเดือนพฤษภาคม บริเวณรีสอร์ท Fuji Motosuko Resort จังหวัด Yamanashi ซึ่งภายในเทศกาลนี้จะเต็มไปด้วยต้นชิบะซากุระราว 800,000 ต้น และ 5 สายพันธุ์ทั้งพันธุ์สีชมพู สีขาวและสีม่วง

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/rp4kmoj6ibCZ3z687



7. Mount Zao ภูเขาไฟซาโอะ จังหวัดยามากาตะ 

ภูเขาไฟซาโอะ เทือกเขาที่ทอดตัวตัดระหว่างจังหวัดมิยางิ (Miyagi) และจังหวัดยามากาตะ (Yamagata) และเป็นที่เที่ยวญี่ปุ่นยอดนิยมในการมาชมอสูรหิมะ (Ice Monster) พร้อมทั้งกิจกรรมกลางแจ้งสุดเอ็กซ์ตรีมที่เอาใจสายผจญภัยให้ได้ชมบรรยากาศที่แสนสวยงามน่าตื่นตาไปพร้อมกัน ไม่ว่าจะเป็นกระเช้าไฟฟ้าซาโอะ (Zao Ropeway) เดินป่า ปีนปากปล่องภูเขาไฟ และปีนเขา

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/3hBZN4n7oHpFsiYq7



8. Hakuba Village เมืองฮาคุบะ จังหวัดนากาโน่ 

Hakuba Village ที่เที่ยวญี่ปุ่นช่วงฤดูหนาวสำหรับสกีและสโนว์บอร์ด แต่ในขณะเดียวกันก็สามารถชมทิวทัศน์ของเทือกเขาเจแปนแอลป์ในช่วงฤดูร้อนได้เช่นเดียวกัน ที่นี่เป็นเมืองเล็ก ๆ ของจังหวัดนากาโน่ ที่ล้อมรอบด้วยภูเขาสูงจากระดับน้ำทะเลราว ๆ 3,000 เมตร และสามารถชมวิวทิวทัศน์ของธรรมชาติอันสวยงามได้จากบนกอนโดล่าและลิฟต์ที่มีอยู่ทั่วเมือง สมกับเป็นสวรรค์บนดินที่สวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/58veXEuEU7thZjxeA



9. Osaka เมืองโอซาก้า 

ศูนย์กลางของญี่ปุ่นฝั่งตะวันตก เมืองศูนย์กลางของเศรษฐกิจและวัฒนธรรมมา พร้อมประวัติศาสตร์อันน่าค้นหา มีทั้งสุสานโบราณและอาคารสิ่งปลูกสร้างญี่ปุ่นในสมัยโบราณ โดยที่เที่ยวญี่ปุ่นนี้เป็นสถานที่อันโดดเด่นภายในเมืองโอซาก้าก็มีตั้งแต่ปราสาทโอซาก้า พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์โอซาก้า อาคารอุเมดะสกาย ศาลเจ้าโอซาก้าเท็นมังกู สวนสาธารณะนากาโนะชิมะ พิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งชาติโอซาก้า ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอส์ เจแปน และพิพิธภัณฑ์โรงกษาปณ์โอซาก้า เป็นต้น

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/kehNNsKYjT49uYvc8



10. Kawagoe เมืองคาวาโกเอะ จังหวัดไซตามะ

เมืองเอโดะจิ๋วที่เที่ยวญี่ปุ่นที่สวยและคลาสสิค ย่านเก่าใกล้กรุงโตเกียวเพียงแค่ 1 ชั่วโมง ที่มีเสน่ห์อันล้นเหลือของสถาปัตยกรรมโบราณสมัยเอโดะ โดยสัญลักษณ์ของเมืองที่ไม่ควรพลาดก็คือ Toki No Kane หรือ “หอระฆังโบราณ” ที่ทำหน้าที่บอกเวลามายาวนานกว่า 350 ปี และสถาปัตยกรรมอาคารที่ใช้วัสดุไม้เก่าแก่ อีกทั้งดีไซน์โคมไฟแบบญี่ปุ่นสมัยก่อน รวมถึงพิพิธภัณฑ์ต่างๆ ที่พร้อมให้เราเข้าไปเรียนรู้อย่าง Kurazukuri Museum และ Kawagoe Matsuri Kaikan เป็นต้น

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/yzEBB4vTxCFpANqm6



11. Hokkaido เมืองฮอกไกโด 

ที่เที่ยวญี่ปุ่นอันดับที่ 11 เมืองฮอกไกโด เป็น 1 ใน 4 เกาะหลัก ตั้งอยู่ทางเหนือสุดของญี่ปุ่น ขึ้นชื่อในเรื่องของอาหารทะเลทั้งปูขนตัวโต ๆ ผลิตภัณฑ์จากเนยนมในฤดูหนาว ลานสกีระดับโลก พร้อมทุ่งดอกไม้หลากหลาย เช่น ทุ่งลาเวนเดอร์ ทุ่งดอกทานตะวัน ทุ่งดอกพิงค์มอส เป็นต้น นอกจากนี้ฮอกไกโดยังมี โอตารุ (Otaru) เมืองท่าเรือขนาดเล็กที่มีสถาปัตยกรรมและบรรยากาศแบบวินเทจ เหมือนได้ย้อนยุค

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/A5QA7AxmtFrukB6o7



12. Motonosumi Inari Shire เสาโทริอิ จังหวัดยามากุจิ

ศาลเจ้าโมโตโนสุมิ อินาริ (Motonosumi Inari) ศาลเจ้าริมหาดทะเลญี่ปุ่น ที่มีเสาโทริอิสีแดง 123 ต้นตั้งตระหง่านเรียงรายมุ่งสู่ทะเล เป็นที่เที่ยวญี่ปุ่นที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินตามเสาโทริอิพร้อมกับอธิษฐานเกี่ยวกับเรื่องต่าง ๆ เพื่อให้เทพเจ้าช่วยดลบันดาลให้คำขอต่าง ๆ เป็นจริง โดยเฉพาะในเรื่องของการประสบความสำเร็จในด้านเงินทอง โชคลาภ และการเดินทางปลอดภัย นอกจากนี้ยังมี “Ryugu no Shiofuki” (น้ำพุปราสาทมังกร) ที่แสนงดงามอีกด้วย

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/WxTKbUfL6RavXRQJA



13. Meguro River แม่น้ำเมกุโระ จังหวัดโตเกียว

มาชมดอกซากุระที่จุดชมซากุระอันโด่งดังที่แม่น้ำเมกุโระ Meguro River ที่มีต้นซากุระปลูกอยู่ 2 ข้างทางของแม่น้ำ และมีทางเดินและที่นั่งวางเรียงรางอยู่ตลอดสองฝั่ง เหมือนเป็นสวนหย่อมขนาดย่อมที่ทอดยาวไปตลอดแม่น้ำเมกูโระ นอกจากนี้ยังมีการล่องเรือชมซากุระกลางแม่น้ำเมกุโระที่เราจะได้ล่องเรือภายใต้บรรยากาศที่เต็มไปด้วยสีชมพูจากซากุระ ซึ่งเป็นที่เที่ยวญี่ปุ่นที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะมาเยือนเพื่อถ่ายรูปกับดอกซากุระแบบ Unseen สุด ๆ

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/qinsC7HSWjMCTDnM7



14. Tokyo Tower โตเกียว ทาวเวอร์ จังหวัดโตเกียว 

โตเกียว ทาวเวอร์ ที่เที่ยวญี่ปุ่นที่เป็นสัญลักษณ์แห่งเมืองโตเกียวที่สร้างขึ้นในปี 1958 และเป็นอนุสรณ์การฟื้นฟูของเมืองโตเกียวภายหลังสงคราม ด้วยความสูงที่ตั้งตระหง่านถึง 333 เมตร นักท่องเที่ยวสามารถชื่นชมทิวทัศน์เมืองโตเกียวด้านล่าง เข้าชมกิจกรรมความบันเทิงแสนสนุกของทางโตเกียวทาวเวอร์ พร้อมกับเพลิดเพลินไปกับร้านค้าและร้านอาหารนานาชาติจำนวนมากภายใต้ฐานของโตเกียวทาวเวอร์ได้เช่นเดียวกัน

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/Wfe21dwpxjP2PT9HA



15. Tokyo Disneyland โตเกียวดิสนีย์แลนด์ จังหวัดชิบะ 

โตเกียวดิสนีย์แลนด์ เป็นที่เที่ยวญี่ปุ่นที่นักท่องเที่ยวต้องให้อยู่ในเช็กลิสของทุก ๆ ปีเลย เพราะเป็นสวนสนุกระดับโลกของดิสนีย์แห่งแรกที่สร้างขึ้นนอกสหรัฐอเมริกา ซึ่งติดอยู่กับขอบเมืองหลวงญี่ปุ่น อย่างกรุงโตเกียว สวนสนุกขนาด 115 เอเคอร์ประกอบด้วยดินแดน 7 ธีมและมีการตกแต่งและขบวนพาเหรดตามฤดูกาล รองรับผู้คนจำนวนมากได้อย่างสะดวกสบาย พร้อมแคสต์หรือพนักงานภายในโตเกียวดิสนีย์แลนด์ ที่พร้อมให้การต้อนรับและการบริการตามแบบฉบับของญี่ปุ่นที่คนทั่วโลกต่างพากันติดใจ

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/5uVdz8tKGrSWhtZf8



16. Tsukiji Fish Market ตลาดปลาสึกิจิ จังหวัดโตเกียว

ตลาดปลาสึกิจิ แหล่งของอาหารทะเลสด ๆ ในโตเกียวที่เป็นที่นิยมของชาวไทยและนักท่องเที่ยวทั่วโลกที่เป็นเช็กลิสของที่เที่ยวญี่ปุ่นเลย ด้วยบรรยากาศตลาดสดแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม พร้อมโซนภายในตลาดทั้ง 2 ส่วน อย่างส่วนด้านนอกที่มีร้านค้าปลีกและร้านอาหาร และส่วนของด้านในที่เป็นจุดประมูลปลาทูน่าที่มีชื่อเสียง โดยมีข้อมูลว่าที่นี่มีการซื้อขายสินค้าทะเลกว่า 2,000 ตันต่อวันเลยทีเดียว

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/xA42L5gar54X8xwp9



17. Tottori Sand Dunes ทะเลทรายทตโตริ จังหวัดทตโทริ 

ทะเลทรายทตโตริเป็นทะเลทรายที่มีขนาดใหญ่ และเป็นที่เที่ยวญี่ปุนที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของจังหวัดทตโตริ (Tottori) ที่มีความยาวถึง 16 กิโลเมตรและเลียบชายฝั่งทะเลสวยงาม และสำหรับสายคอนเทนต์ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีภาพสวย ๆ เพราะที่นี่มีการขี่อูฐเที่ยวรอบ ๆ เนินทรายอีกด้วย นอกจากนี้ก็ยังมี “พิพิธภัณฑ์ศิลปะทราย (The Sand Museum) ” ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงศิลปะจากทรายแห่งแรกของโลกซึ่งเป็นที่เที่ยวญี่ปุ่นที่ไม่ควรพลาด

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/JHF6zr49T1ZfBWnt5



18. Lake Toya ทะเลสาบโทยะ จังหวัดฮอกไกโด 

Lake Toya ทะเลสาบขนาดใหญ่เป็นที่เที่ยวญี่ปุ่นที่ตั้งอยู่ใกล้กับทะเลสาบชิโกสึ (Lake Shikotsu) บนเกาะฮอกไกโด (Hokkaido) โดยมีจุดเด่นก็คือหน้าหนาว น้ำไม่แข็งตัว และหน้าร้อน ก็ยังมีอากาศที่เย็นสบาย เหมาะแก่การท่องเที่ยวสูดอากาศบริสุทธิ์ ซึ่งรอบ ๆ ทะเลสาบนั้นก็มีทั้งรีสอร์ท ที่พักตากอากาศ โรงแรมหรู เรียวคังและจุดตั้งแคมป์ที่หลากหลาย หลากราคาให้ได้เลือกพัก

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/oPGmaTapNBCstRkB8



19. Oishi Park สวนโออิชิ จังหวัดยามานาชิ 

สวนโออิชิ ทุ่งดอกไม้แสนสวย มีทัศนียภาพทางธรรมชาติที่สวยงาม รวมถึงภูเขาไฟฟูจิที่โดดเด่นเป็นสง่าริม ทะเลสาบคาวากุจิโกะ มีดอกไม้นานาชนิดสลับกันบานสะพรั่งตามฤดูกาล เป็นที่เที่ยวญี่ปุ่นที่สามารถไปเที่ยวได้ตลอดปี โดยไฮไลท์อยู่ที่ทุ่งโคเชียสีแดง และทุ่งหญ้ามูลี่สีชมพูในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ระหว่างเดือนตุลาคม - พฤศจิกายนของทุกปี ที่ทำให้สวนเต็มไปด้วยสีแดงจากดอกโคเชียและทุ่งหญ้ามูลี่

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/vqCEyBYy8QRuWKgq9



20. Nachi Fall น้ำตกนาชิ จังหวัดวากายามะ 

Nachi Fall น้ำตกนาชิ น้ำตกชั้นเดียวที่มีความสูงถึง 133 เมตรจากกลางป่าทึบดึกดำบรรพ์ มีชื่อเสียงที่โด่งดังมากสำหรับที่เที่ยวญี่ปุ่น ซึ่งเชื่อว่าน้ำตกแห่งนี้เป็นสายน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นยาอายุวัฒนะ สามารถดื่มได้จริง นอกจากนี้ในบริเวณใกล้กับน้ำตกแห่งนี้ ยังเป็นที่ตั้งของวัดเซกันโทจิ (Seiganto-ji) วัดที่งดงามด้วยเจดีย์สามชั้นสีแดงและศาลเจ้าคุมาโนะนาชิ (Kumano Nachi Taisha) ศาลเจ้าแบบชินโต ที่นับเป็น 1 ใน 3 ของศาลเจ้าคุมาโนะ ซึ่งเป็นเส้นทางแสวงบุญของชาวชินโต

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/hgaVwziUJu9uXPjGA



21. Shuri Castle ปราสาทชูริ จังหวัดโอกินาว่า

Shuri Castle ปราสาทชูริ เป็นหนึ่งในมรดกโลกของญี่ปุ่นที่เป็นทั้งสัญลักษณ์ ศูนย์กลางทางการเมือง การต่างประเทศ และศิลปวัฒนธรรมในสมัยอาณาจักรริวกิว ซึ่งไฮไลท์ของปราสาทแห่งนี้ก็คือ ไซเด็น (Seiden) ซึ่งเป็นหอหลักของปราสาท โดดเด่นด้วยสีแดงชาดซึ่งเป็นโทนสีหลักและมีก่อสร้างแบบสถาปัตยกรรมจีน-ญี่ปุ่น ที่แตกต่างจากปราสาทญี่ปุ่นอื่น ๆ อีกทั้งภายในยังมีการจัดแสดงโบราณวัตถุอย่าง ราชบัลลังก์ของราชาแห่งริวกิวอีกด้วย ซึ่งเป็นที่เที่ยวญี่ปุ่นอีกหนึ่งที่ที่ไม่ควรพลาด

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/pmpS2yMGXfFTwyjL6



22. Matsumoto Castle ปราสาทอีกา จังหวัดนากาโน่ 

ปราสาทมัตสึโมโต้ (Matsumoto Castle) หรือที่เรียกกันว่า ปราสาทอีกา ซึ่งมาจากตัวของปราสาทที่เป็นสีดำ สร้างขึ้นมาราวศตวรรษที่ 16 - 18 และคงสภาพปราสาทดั้งเดิมมาจนถึงปัจจุบันโดยไม่มีการถูกทำลายและบูรณะใหม่แต่อย่างใด ซึ่งตรงข้ามกับปราสาทแห่งนี้จะปรากฎเป็นปราสาทที่มีกำแพงสีขาว หรือปราสาทชิราซากิโจ หรือปราสาทนกกระยาง

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/DnHsHYV8SM5mmX1z8



23. Himeji Castle ปราสาทฮิเมจิ จังหวัดเฮียวโกะ 

Himeji Castle ปราสาท Signature ที่ได้รับการดูแลอนุรักษ์อย่างดีที่สุดในญี่ปุ่น โดยมีรูปลักษณ์ที่สง่างาม ใช้ปูนสีขาวและมีความสมดุลย์ของการจัดตำแหน่งสิ่งก่อสร้างอย่างละเอียดละออ มีลักษณะคล้ายนกกางปีก จึงมีชื่อเรียกอีกอย่างว่าปราสาทฮาคุโระหรือปราสาทชิราซากิ ซึ่งสามารถเรียกในชื่อไทยว่า “ปราสาทนกกระสาขาว” ซึ่งถูกใช้เป็นป้อมปราการในสมัยก่อน

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/E7gBXD9xcwym3NgJ6



24. Shiratani Unsuikyo ป่าชิระทานิ อันซุยเคียว จังหวัดคาโกชิม่า 

Shiratani Unsuikyo ป่าชิระทานิ อันซุยเคียว เส้นทางเดินป่าในคาโกชิม่าที่เป็นแรงบันดาลใจให้ฉากในแอนิเมชันของ Studio Ghibli อย่างเรื่องเจ้าหญิงโมโนโนเกะ (Princess Mononoke) ป่าแห่งนี้เป็นป่าที่เต็มไปด้วยต้นซีดาร์ญี่ปุ่น ปกคลุมด้วยหญ้ามอสสีเขียว ดูลึกลับแต่สวยงามน่าค้นหา มีเส้นทางเดินป่าจัดเตรียมพร้อมให้สำหรับนักเดินป่าในทุกระดับ ตั้งแต่เส้นทางสั้น ๆ ที่ใช้เวลาเดินไม่กี่นาที ไปจนถึงเส้นทางยาวที่ใช้เวลาเดินเท้านานถึง 5 ชั่วโมง ซึ่งเป็นที่เที่ยวญี่ปุ่นที่นักเดินป่าไม่ควรพลาด

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/rtbjJjVDMyPo9aw48



25. Arashiyama Bamboo Forest ป่าไผ่อะราชิยามะ จังหวัดเกียวโต 

Arashiyama Bamboo Forest ป่าไผ่ชื่อก้องโลกของญี่ปุ่นที่เป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวสายธรรมชาติ มีทางเดินตรงกลางระหว่างสวนไผ่ที่ขึ้นเรียงรายอย่างเป็นระเบียบอยู่ทั้งสองฝั่ง และยังมีอีกหลายกิจกรรมที่รองรับนักท่องเที่ยวอีกอย่างเช่น การล่องเรือชื่นชมบรรยากาศ, ร้านค้าเล็กและร้านอาหารเล็ก ๆ , ผลงานศิลปะต่าง ๆ , วัดเทนริวจิ (Tenryuji Temple) โบราณ หรือแม้แต่การสำรวจเหล่าลิงแสมหรือลิงหิมะญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ในป่าแห่งนี้ สายรักธรรมชาติต้องห้ามพลาดที่เที่ยวญี่ปุ่นแห่งนี้เลย

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/fac8K3umiDdwQRtp6



26. The Kyoto Imperial Palace พระราชวังอิมพีเรียลเกียวโต จังหวัดเกียวโต 

พระราชวังอิมพีเรียลเกียวโต หรือโกโช เป็นพระราชวังหลวงที่เคยเป็นที่ประทับของราชวงศ์ญี่ปุ่นในอดีตกาล ติดกับสวนอิมพีเรียลเกียวโตซึ่งเป็นสวนขนาดใหญ่ใจกลางเมือง ซึ่งที่นี่จะมีก็มีบริการพาทัวร์ฟรีซึ่งมีบริการเป็นภาษาอังกฤษไว้รองรับนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก พระราชวังอิมพีเรียลเกียวโตจึงเป็นที่เที่ยวญี่ปุ่นที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/wK747GWcYnzEW8Jj9



27. Mount Daisen ภูเขาไฟไดเซ็น จังหวัดทตโตริ 

ภูเขาไฟไดเซ็น เป็นสถานที่เที่ยวญี่ปุ่นทางธรรมชาติยอดฮิต เป็นภูเขาไฟที่มีความสูง 1,729 เมตร จากระดับน้ำทะเล เป็นภูเขาที่สูงที่สุดในภูมิภาคชูโกกุ (Chugoku) และเป็นหนึ่งใน100 อันดับภูเขาที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น จุดเด่นของที่นี่ก็คือใบไม้แดงที่มีเฉดสีที่หลากหลาย และภูเขาขนาดใหญ่ พร้อมทั้ง “วัดไดเซนจิ(Daisenji Temple)” และศาลเจ้าโอกามิยามะ (Ogamiyama Shrine) ที่เป็นแหล่งขอพรของนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมเยือยในอุทยานแห่งนี้

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/EE4wR4jKHUgij6kS9



28. Mount Fuji ภูเขาฟูจิ จังหวัดชิซุโอกะ 

ภูเขาฟูจิ เป็นที่เที่ยวญี่ปุ่นที่ห้ามพลาด เพราะเป็นภูเขาสูงใหญ่ที่โด่งดังที่สุดในญี่ปุ่น ด้วยความสูง 3,776 เมตร ซึ่งเป็นภูเขาไฟที่เกิดจากการปะทุของภูเขาไฟเมื่อประมาณ 100,000 ปีที่แล้ว ซึ่งภูเขาไฟฟูจิก็มีทั้งจุดชมวิวสวย ๆ อย่างทะเลสาบทั้งห้าแห่งภูเขาไฟฟูจิ (Fuji Five Lakes), หมู่บ้านน้ำใส โอชิโนะฮัคไค (Oshino Hakkai), เจดีย์แดงห้าชั้นชูเรโต (Chureito Pagoda) และ ฮตตะระคะชิอนเซ็น (Hottarakashi Onsen)

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/VqJFF2mqkLHAbNTP6



29. Harajuku & Shinjuku ย่านฮาราจูกุและย่านชินจูกุ จังหวัดโตเกียว 

Harajuku & Shinjuku เป็นที่เที่ยวญี่ปุ่นที่รวบรวมความคาวาอี้และความโมเดิร์นของญี่ปุ่นในยุคสมัยใหม่ไว้ด้วยกัน ย่าน 2 แห่งนี้เป็นเหมือนกับ "เวทีการนำเสนอใหม่ของ TOKYO ที่ถ่ายทอดวัฒนธรรมและความคิดสร้างสรรค์ไปทั่วโลก" และเรียงรายไปด้วยร้านร้อยเยน ร้านสินค้าราคาถูก ร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้า และห้างสรรพสินค้าใหญ่ ๆ มากมาย เหมาะสำหรับหนุ่ม ๆ สาว ๆ ที่อยากช้อปปิ้งไปพร้อม ๆ กับการชมแฟชั่นของชาวญี่ปุ่นที่ทั้งเท่และน่ารักเหมือนกับออกมาจากนิตยสารแฟชั่น

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/Nyjw9cfKfJmjR5ef7



30. Sagano Romantic Train รถไฟซากาโนะโรแมนติก จังหวัดเกียวโต 

Sagano Romantic Train รถไฟชมวิวสายที่โรแมนติกที่สุดในเมืองโตเกียว เป็นที่เที่ยวญี่ปุ่นที่ไม่ควรพลาดเพราะเป็นรถไฟแบบโบราณที่หาได้ยากในญี่ปุ่นที่สามารถพาทุกคนไปรับวิวทัศนียภาพที่สวยงามราวกับภาพวาดด้วยสายตาของตัวเอง โดยจุดเด่นของรถไฟสายนี้ก็คือ นักท่องเที่ยวจะได้นั่งชมทัศนียภาพในทั้ง 4 ฤดู ไม่ว่าจะวิวซากุระ ในฤดูใบไม้ผลิ วิวภูเขาสีเขียว ในฤดูร้อน วิวของใบไม้สีแดง ในฤดูใบไม้ร่วง และวิวของหิมะขาวโพลนที่ปกคลุมตลอดทาง ในฤดูหนาว

พิกัด : https://www.sagano-kanko.co.jp/en/



31. Ninna-ji Temple วัดนินนาจิ จังหวัดเกียวโต 

วัดนินนาจิ ที่เที่ยวญี่ปุ่นที่เป็นหนึ่งในวัดมรดกโลกของเกียวโต มีชื่อเสียงเรื่องความสวยงาม ทั้งในช่วงซากุระบานและช่วงใบไม้เปลี่ยนสี โดยวัดแห่งนี้มีอายุเป็นพันปี มีอาคารโกเท็น (Goten) ที่โด่งดังจากรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบเดียวกับพระราชวังอิมพีเรียลเกียวโต นอกจากนี้วัดนินนาจิยังเป็นที่เก็บสมบัติสำคัญของชาติ และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก (World heritage) จาก UNESCO อีกด้วย

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/iRjsM31AHXaRUTiGA



32. Sensoji Temple วัดเซนโซจิ จังหวัดโตเกียว 

วัดเซนโซจิ วัดอาซากุซะ หรือที่รู้จักกันอีกชื่อคือ วัดโคมแดง ซึ่งเป็นที่เที่ยวญี่ปุ่นยอดฮิตเป็นจุดถ่ายรูปห้ามพลาดของคนที่มาเยือนโตเกียว มีถนนนากามิเสะที่พาดยาวรอบวัด มีร้านค้าของฝากต่าง ๆ มากมาย มีจุดเด่นคือคามินาริมง (Kaminarimon Gate) หรือโคมไฟสีแดงเด่นสะดุดตาที่หนักถึง 700 กิโลกรัม ซึ่งเป็นโคมไฟยักษ์ที่มีความเกี่ยวข้องกับบริษัทเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่าง Panasonic อีกด้วย

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/nRc95C8zxYSjk8ZaA



33. Kinkaku-ji วัดคินคะคุจิ จังหวัดเกียวโต

วัดคินคะคุจิ หรือวัดทองเกียวโต จากอาคารหลักของวัด ที่มีสีทองเหลืองอร่ามท่ามกลางสระน้ำ เคยเป็นที่พำนักของท่านโชกุนอาชิกาก้า โยชิมิสุ (Ashikaga Yoshimitsu) และใช้รับรองแขกบ้านแขกเมืองคนสำคัญ ซึ่งอาคารสีทองนี้เป็นอาคารไม้ที่ถูกบูรณะขึ้นใหม่เนื่องจากหลังเดิมถูกไฟไหม้ ที่ใช้แผ่นทองคำค่อย ๆ ประกอบขึ้นมาเป็นตัววัดที่เด่นเป็นสง่า เป็นที่เที่ยวญี่ปุ่นที่ดึงดูดตาและใจของนักท่องเที่ยวทั่วโลก

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/ndhByQ4vrEjDo6V37



34. Kiyomizu-dera Temple วัดคิโยมิสึเดระ

วัดคิโยมิสึเดระ หรือวัดน้ำใส เป็นวัดที่มีอาคารหลัก ๆ ทั้งหมด 9 อาคาร แต่ละอาคารก็มีความงดงามไม่แพ้กัน ซึ่งจุดเด่นของวัดแห่งนี้ก็คือการที่มีน้ำจากน้ำตกโอโตวะ (Otowa Waterfall) ไหลผ่านตัววัด ซึ่งเป็นแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่มี 3 ความหมายคือ สุขภาพ ความรัก และความสำเร็จในการศึกษา เป็นที่เที่ยวญี่ปุ่นสุดฮิต เพราะเป็นสถานที่ขอพรยอดนิยมและยังเป็นจุดชมซากุระและชมใบไม้แดงที่ขึ้นชื่อของเกียวโตเลยทีเดียว

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/piZvQcuAHWJryFpR6



35. Itsukushima Shrine ศาลเจ้าอิทสึคุชิม่า จังหวัดฮิโรชิม่า 

ศาลเจ้าอิทสึคุชิม่า เป็นศาลที่ได้ชื่อว่าเป็น “ประตูที่เชื่อมโลกมนุษย์และโลกวิญญาณ” ตั้งอยู่กลางทะเลเซโตะ (Seto Inland Sea) บนเกาะมิยาจิมะ (Miyajima) ซึ่งเสาของศาลเจ้าแห่งนี้ไม่ได้ฝังลงในดินอย่างที่คิด แต่ใช้เพียงแค่การวางลงบนพื้นดินเท่านั้น นอกจากนี้ยังได้รับการยกย่องให้เป็นที่เที่ยวญี่ปุ่นหนึ่งในสามวิวที่สวยที่สุด (Three Views of Japan) อีกด้วย

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/ZUyHzrc846BFyzDH7



36. Usa Shrine ศาลเจ้าอุสะ จังหวัดโออิตะ 

ศาลเจ้าอุสะ เป็นศาลเจ้าที่โด่งดังด้านการขอพรมากที่สุดในญี่ปุ่น เพราะศาลเจ้าแห่งนี้เป็นศูนย์กลางของ "Hachimangū" ที่มีอยู่มากกว่า 40,000 แห่งทั่วญี่ปุ่น มีจุดเด่นคือประตูโทริอิอันสูงใหญ่ตั้งตระหง่านทางด้านหน้าของศาลเจ้า มีชื่อเสียงมากสำหรับการขอพรส่งท้ายปีให้ประสบความสำเร็จในปีหน้า และต้นไม้ใหญ่ศักดิ์สิทธิ์ที่ตั้งแต่กลางศาลเจ้านั้น มีความเชื่อว่าจะช่วยส่งเสริมพลังให้แก่ผู้ที่ได้กอดต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์นี้ จึงเป็นที่นิยมของเหล่านักกีฬาและซูโม่ด้วย

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/1jQLjB9T924x3h4W6



37. Hitachi Seaside Park สวนฮิตาชิ จังหวัดอิบารากิ 

สวนฮิตาชิ เป็นที่เที่ยวญี่ปุ่นที่สามารถชมดอกไม้ได้ทุกฤดู มีทั้งพื้นที่สีเขียวและดอกไม้ตามฤดูกาลกระจายอยู่ทั่วพื้นที่ ด้านในยังมีสวนสนุก เส้นทางปั่นจักรยาน และเส้นทางเดินสำรวจป่า พร้อมกิจกรรมอื่น ๆ ให้นักท่องเที่ยวได้ร่วมสนุกอีกมากมาย ซึ่งสวนแห่งนี้สามารถเข้าชมความสวยงามได้ในทุกฤดูกาล แต่ที่สวยงามเลื่องชื่อที่สุดก็คงหนีไม่พ้นฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ที่จะรายล้อมไปด้วยทุ่งดอกไม้นานาพันธุ์และสีของใบไม้ที่สวยสดงดงาม

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/AaDQyUQMWrAMXrZFA



38. Kawachi Fuji Garden สวนคาวาจิฟูจิ จังหวัดฟุกุโอกะ 

สวนคาวาจิฟูจิ เป็นที่เที่ยวญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงของจังหวัดฟุกุโอกะ มีไฮไลท์คือดอกวิสทีเรีย (Wisteria) หรือที่ชาวญี่ปุ่นเรียกกันว่าดอกฟูจิ ที่จะบานสะพรั่งหลังจากช่วงซากุระบาน ช่วงประมาณกลางเดือนเมษายนไปจนถึงปลายเดือนพฤษภาคม ซึ่งภายในสวนแห่งนี้มีดอกวิสทีเรียมากกว่า 22 สายพันธุ์ พร้อมบานสะพรั่งเต็มพื้นที่ 10,000 ตารางเมตร และหากเดินไปจนสุดทางเดินจะพบกับต้นวิสทีเรียที่มีอายุมากกว่า 100 ปี ตั้งเด่นดูยิ่งใหญ่มาก ๆ

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/sodjuz3WTB2deaS28



39. Ouchi-juku หมู่บ้านโออุจิจุคุ จังหวัดฟุกุชิมะ 

หมู่บ้านโออุจิจุคุ หมู่บ้านโบราณที่มีกลิ่นอายของยุคสมัยเอโดะ ลักษณะเป็นหมู่บ้านโบราณยาวประมาณ 500 เมตร มีการมุงหลังคาด้วยหญ้าคาหนา โดยมีบ้านทั้งหมดประมาณ 50 หลังคาเรือน มีร้านค้าต่าง ๆ ในสไตล์ย้อนยุคไปในช่วงเอโดะ เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวให้ได้สัมผัสกับบรรยากาศจำลอง ซึ่งอีกจุดที่น่าสนใจคือทางน้ำที่พาดระหว่างบ้านและถนน ที่ใสจนสามารถนำผัก ผลไม้หรือเครื่องดื่มมาแช่ไว้แทนการใช้ตู้เย็นตามวิธีแบบพื้นบ้าน

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/E95edczpYY1gjxkz6



40. Shirakawa-go หมู่บ้านชิราคาวาโกะ จังหวัดโทยามะ

หมู่บ้านชิราคาวาโกะ ที่เที่ยวญี่ปุ่นที่เป็นหมู่บ้านโบราณมรดกโลก ซึ่งเป็นหมู่บ้านของเกษตรกรราว 100 หลังหลงเหลืออยู่ ตั้งอยู่ในหุบเขาตามแม่น้ำโชกาวะ (Shogawa) ซึ่งบ้านเรือนถูกสร้างขึ้นในรูปแบบสถาปัตยกรรมเก่า "กัชโชสึคุริ" มีลักษณะพิเศษคือ เป็นบ้านแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม ชื่อของหมู่บ้านนั้นมาจากคำว่า "กัสโช" แปลว่า พนมมือ ตามรูปแบบของบ้านที่หลังคาชันถึง 60 องศา คล้ายสองมือที่พนมเข้าหากัน

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/fbCPdsXMxV9tmC4Z8



สรุป

เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับ 40 ที่เที่ยวญี่ปุ่นที่เราลิสต์รวมมาให้เป็นลายแทงสำหรับไปตามกัน ใครที่สนใจก็สามารถศึกษาเส้นทางและข้อมูลเพิ่มเติมได้เลย