• ลูกค้าบุคคล
  • ...
  • Thai ESGX: กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษ ทางเลือกใหม่เพื่อการลงทุนและสิทธิประโยชน์ทางภาษี
Thai ESGX: กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษ ทางเลือกใหม่เพื่อการลงทุนและสิทธิประโยชน์ทางภาษี

09-06-2568

สำหรับนักลงทุนที่กำลังพิจารณาทางเลือกในการลงทุนควบคู่ไปกับบริหารจัดการภาษี โดยเป็นการลงทุนในกิจการที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืน กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษ หรือ "Thai ESGX" (Thai ESG Extra) ถือเป็นอีกหนึ่งกองทุนที่น่าสนใจอย่างยิ่ง เพราะกองทุนนี้ไม่เพียงแต่มีนโยบายการลงทุนที่มุ่งเน้นปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) ซึ่งกำลังได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นทั่วโลก แต่รวมไปถึงการมอบสิทธิประโยชน์ทางภาษีแก่ผู้ลงทุน โดยมีจุดเด่นที่แตกต่างจากกองทุนลดหย่อนภาษีแบบเดิม ๆ หลายอย่าง ทั้งเรื่องวงเงินลดหย่อนที่เพิ่มขึ้น เงื่อนไขการถือครองเพียง 5 ปีและที่สำคัญคือเราสามารถโอนกองทุน LTF เดิมมาที่กองทุน Thai ESGX เพื่อใช้สิทธิลดหย่อนได้อีกด้วย


สิทธิประโยชน์ทางภาษีที่สำคัญของ Thai ESGX

จุดเด่นที่ทำให้กองทุน Thai ESGX มีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก คือ สิทธิประโยชน์ในการลดหย่อนภาษี ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลัก ดังนี้:

  1. วงเงินสำหรับการลงทุนด้วยเงินลงทุนใหม่ : นักลงทุนสามารถนำเงินลงทุนใหม่เข้าซื้อหน่วยลงทุนในกองทุน Thai ESGX และใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 30% ของเงินได้พึงประเมิน แต่ไม่เกิน 300,000 บาท วงเงินนี้เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มต้นลงทุนเพื่อลดหย่อนภาษี หรือผู้ที่ต้องการเพิ่มวงเงินลดหย่อนจากที่มีอยู่
  2. วงเงินสำหรับการโอนย้ายกองทุน LTF เดิม : สำหรับนักลงทุนที่ยังคงถือครองหน่วยลงทุน LTF ตามเงื่อนไขที่กำหนด (ไม่ได้มีการขายคืน/สับเปลี่ยนหน่วยลงทุน LTF ดังกล่าวนับตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคม 2568 เป็นต้นมา) สามารถโอนย้ายมูลค่าหน่วยลงทุน LTF ทั้งหมดที่มีอยู่ไปยังกองทุน Thai ESGX เพื่อรับสิทธิลดหย่อนภาษีเพิ่มเติมได้สูงสุด 500,000 บาท โดย
  • ปี 2568 ปีแรกที่ทำการโอนย้าย จะสามารถใช้สิทธิลดหย่อนได้สูงสุด 300,000 บาท
  • ส่วนที่เหลืออีก 200,000 บาท (หากมี) จะสามารถทยอยใช้สิทธิลดหย่อนได้ปีละเท่า ๆ กัน ไม่เกินปีละ 50,000 บาท ในปี 2569-2572 

ข้อได้เปรียบที่สำคัญของการโอนย้าย LTF มายัง Thai ESGX คือ ผู้ลงทุนไม่จำเป็นต้องพิจารณาเงื่อนไขสัดส่วน 30% ของเงินได้พึงประเมิน สำหรับวงเงินส่วนนี้ ซึ่งหมายความว่าแม้ผู้ลงทุนจะมีฐานเงินได้ไม่สูงนัก แต่หากมีมูลค่า LTF เดิมที่ต้องการโอนย้ายจำนวนมาก ก็สามารถใช้สิทธิลดหย่อนได้สูงสุดตามที่กรมสรรพากรกำหนด แต่สิ่งที่ผู้ลงทุนต้องทราบคือ การโอนย้ายอยู่ภายใต้เงื่อนไขว่า ต้องโอนย้ายเงินลงทุนใน LTF ทั้งหมดทุกหน่วยลงทุน ทุก บลจ. แต่สามารถใช้สิทธิลดหย่อนได้สูงสุด 500,000 บาท 

Thai ESGX ต่างจาก Thai ESG เดิมอย่างไร?


 

Thai ESG

Thai ESGX

นโยบายลงทุน

ลงทุนในทรัพย์สินที่ ออกโดยผู้ออกหรือ กิจการในประเทศไทย ที่มีคุณสมบัติด้านความยั่งยืน ไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV

ลงทุนในทรัพย์สินที่ออกโดยผู้ออกหรือกิจการในประเทศไทย ที่มีคุณสมบัติด้านความยั่งยืน ไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV เงื่อนไขเพิ่มเติมเฉพาะ Thai ESGX ต้องลงทุนหุ้นกลุ่มความยั่งยืนไม่น้อยกว่า 65% ของ NAV

สิทธิประโยชน์ทางภาษี

ไม่เกิน 30% ของเงิน ได้พึงประเมิน สูงสุดไม่เกิน 300,000 บาท

วงเงินลดหย่อนที่ 1: 
 เงินใหม่ เฉพาะปี 2568 ลดหย่อนไม่เกิน 30% ของ เงินได้พึงประเมิน สูงสุด 300,000 บาท

วงเงินลดหย่อนที่ 2: 
 สับเปลี่ยนหน่วยลงทุน LTF เดิม ลดหย่อนสูงสุด 500,000 บาท โดยในปี 2568
ลดหย่อนสูงสุด 300,000 บาท และปี 2569 - 2572 ใช้สิทธิ์ปีละเท่า ๆ กัน ลดหย่อนสูงสุดปีละ 50,000 บาท 

ช่วงเวลาลงทุน

สามารถลงทุนได้ทั้งปี ตั้งแต่ 1 ม.ค. 67 - 31 ธ.ค. 69

วงเงินลดหย่อนที่ 1: 
เงินใหม่ สามารถลงทุนได้ระหว่าง 2 พ.ค. 68 - 30 มิ.ย. 68 
วงเงินลดหย่อนที่ 2: 
สับเปลี่ยนหน่วยลงทุน LTF เดิม สามารถสับเปลี่ยนหน่วยลงทุน LTF ได้ระหว่าง 13 พ.ค. 68 - 30 มิ.ย. 68  (อ้างอิงตามการเสนอขายกองทุน Thai ESGX ของ SCBAM)

 

Thai ESGX เหมาะกับนักลงทุนกลุ่มไหนบ้าง ?

  1. ผู้ที่ไม่เคยลงทุนในกองทุนลดหย่อนภาษีมาก่อน: สำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นบริหารภาษี หรือยังไม่เคยใช้สิทธิลดหย่อนผ่านกองทุนรวมมาก่อน Thai ESGX เป็นทางเลือกที่เริ่มต้นได้ไม่ซับซ้อน ด้วยนโยบายการลงทุนที่เน้นความยั่งยืน และระยะเวลาการถือครองหน่วยลงทุนเพียง 5 ปี (นับแบบวันชนวัน) ผู้ลงทุนกลุ่มนี้สามารถใช้เงินลงทุนใหม่ซื้อหน่วยลงทุนและรับสิทธิลดหย่อนสูงสุด 30% ของเงินได้ (แต่ไม่เกิน 300,000 บาท)
  2. ผู้ที่เคยลงทุนใน LTF หรือกองทุนลดหย่อนภาษีอื่นๆ และต้องการบริหารภาษีเพิ่มเติม: นักลงทุนที่มีประสบการณ์ในการลงทุนกองทุนลดหย่อนภาษี การเปิดตัว Thai ESGX เป็นโอกาสในการบริหารภาษีเพิ่มเติม โดยในปี 2568 นักลงทุนสามารถซื้อ Thai ESG เดิม ลดหย่อนได้ไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมินสูงสุด 300,000 บาท และลงทุนเพิ่มในกองทุน Thai ESGX วงเงินใหม่อีกวงเงิน ซึ่งลดหย่อนได้ไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมิน สูงสุด 300,000 บาท รวมลดหย่อนภาษีสูงสุด 600,000 บาท สำหรับปี 2568 
  3. ผู้ที่ถือครองหน่วยลงทุน LTF และประสงค์จะใช้สิทธิโอนย้ายมายัง Thai ESGX: กลุ่มนี้ถือเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักที่สามารถได้รับประโยชน์จาก Thai ESGX ได้อย่างเต็มที่ หากนักลงทุนยังคงถือครองหน่วยลงทุน LTF โดยไม่มีการขายออกตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคม 2568  สามารถดำเนินการโอนย้าย LTF ทั้งหมดไปยังกองทุน Thai ESGX ที่เลือก เพื่อรักษาสิทธิประโยชน์ทางภาษี ตัวอย่างเช่น ในปี 2568 หากมีการโอนย้าย LTF มายัง Thai ESGX จะได้รับสิทธิลดหย่อนสูงสุด 300,000 บาทในปีแรก และยังสามารถลงทุนใหม่ใน Thai ESGX เพิ่มเติมได้อีกสูงสุด 300,000 บาท และหากมีการลงทุนในกองทุน Thai ESG (รุ่นเดิม) ก็อาจได้รับสิทธิลดหย่อนเพิ่มได้อีกสูงสุด 30% ของเงินได้พึงประเมินไม่เกิน 300,000 บาท ซึ่งส่งผลให้วงเงินลดหย่อนรวมในปี 2568 สูงสุดถึง 900,000 บาท (ภายใต้เงื่อนไขการได้รับสิทธิของแต่ละส่วน) 

ยังถือกองทุน LTF อยู่... ย้ายมา Thai ESGX ดีไหม ? 

การตัดสินใจโอนย้าย LTF เดิมมายังกองทุน Thai ESGX มีข้อดีหลายประการ :

  1. ได้รับสิทธิลดหย่อนภาษีสูงสุด 500,000 บาท:การสับเปลี่ยน LTF ทั้งหมดไปยัง Thai ESGX ช่วยให้นักลงทุนสามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีเพิ่มเติมได้ โดยเฉพาะผู้ที่ถือครอง LTF มาเป็นระยะเวลาครบกำหนด 7 ปีปฏิทินแล้ว สามารถใช้โอกาสนี้ในการโอนย้ายเพื่อรับสิทธิลดหย่อนได้อีก 
  2. ระยะเวลาถือครองเพียง 5 ปี: เงื่อนไขการถือครองหน่วยลงทุนของ Thai ESGX กำหนดไว้ที่ขั้นต่ำ เพียง 5 ปี (นับแบบวันชนวันจากวันที่สับเปลี่ยน) เป็นการลดภาระผูกพันการลงทุนระยะยาว 
  3. การปรับเปลี่ยนพอร์ตสู่การลงทุนอย่างยั่งยืน: การโอนย้ายมายัง Thai ESGX เท่ากับเป็นการปรับทิศทางการลงทุนให้สอดคล้องกับแนวโน้มการลงทุนที่เน้นความยั่งยืน ผู้ลงทุนไม่เพียงแต่จะมีโอกาสได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้นไทยคุณภาพที่มีศักยภาพการเติบโตในระยะยาวและดำเนินธุรกิจตามหลัก ESG แต่ยังได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีอีกด้วย
  4. ทางเลือกกองทุนที่หลากหลายตามระดับความเสี่ยง: กองทุน Thai ESGX มีนโยบายการลงทุนและระดับความเสี่ยงที่แตกต่างกัน เพื่อให้นักลงทุนสามารถเลือกลงทุนให้เหมาะสมกับเป้าหมายและความสามารถในการยอมรับความเสี่ยงของตนเอง

กำหนดการและช่วงเวลาสำคัญสำหรับการลงทุนและสับเปลี่ยน LTF

การใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีจากกองทุน Thai ESGX มีกำหนดช่วงเวลาที่ชัดเจน นักลงทุนควรให้ความสำคัญกับประเด็นนี้:

  1. การลงทุนด้วยเงินลงทุนใหม่:
    • สามารถซื้อหน่วยลงทุน Thai ESGX ด้วยเงินลงทุนใหม่ได้เฉพาะในช่วงวันที่ 2 พฤษภาคม – 30 มิถุนายน 2568 
    • การซื้อในช่วงนี้เป็นการใช้สิทธิลดหย่อนภาษีวงเงินที่ 1 ไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมิน (สูงสุด 300,000 บาท)
  2. การสับเปลี่ยนหน่วยลงทุน LTF เดิม:
    • ผู้ลงทุนที่ถือครองหน่วยลงทุน LTF เดิมตามเงื่อนไข สามารถแจ้งความประสงค์เพื่อสับเปลี่ยนหน่วยลงทุน LTF ทั้งหมดไปยังกองทุน Thai ESGX ได้ระหว่างวันที่ 13 พฤษภาคม – 30 มิถุนายน 2568 (อ้างอิงตามการเสนอขายกองทุน Thai ESGX ของ SCBAM)
    • การสับเปลี่ยนในช่วงนี้เป็นการใช้สิทธิลดหย่อนภาษีวงเงินที่ 2 (สูงสุด 500,000 บาท โดยปี 2568 ได้รับสิทธิสูงสุด 300,000 บาท และปี 2569 - 2572 ใช้สิทธิ์ปีละเท่า ๆ กัน ลดหย่อนสูงสุดปีละ 50,000 บาท)

ผู้ลงทุนจำเป็นต้องดำเนินการซื้อหรือสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนภายในระยะเวลาที่กำหนด และต้องถือครองหน่วยลงทุน Thai ESGX เป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 5 ปี((นับแบบวันชนวันจากวันที่ซื้อ/สับเปลี่ยน) จึงจะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีตามเงื่อนไข

ขั้นตอนการสับเปลี่ยนกองทุน ผ่านแอป SCB EASY

สามารถสับเปลี่ยนหน่วยลงทุน LTF ได้ระหว่าง 13 พ.ค. 68 - 30 มิ.ย. 68 เท่านั้น

กองทุน Thai ESGX ที่น่าสนใจจาก SCBAM

วันนี้  บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด (SCBAM) มีกองทุน Thai ESGX 4 กองทุน ซึ่งมีนโยบายการลงทุนและระดับความเสี่ยงที่แตกต่างกัน เพื่อเป็นทางเลือกให้กับนักลงทุน

1. SCBT70X 

(กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ ผสม 70 ไทยเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษ):

นโยบาย: กองทุนผสม ลงทุนในหุ้นไทยไม่เกิน 70% ส่วนที่เหลือลงทุนในตราสารหนี้ที่เน้น ESG

จุดเด่น: ด้วยการผสมผสานหุ้นไทย ไม่เกิน 70% พร้อมลดความผันผวนพอร์ต ด้วยการเติมตราสารหนี้ที่โดดเด่นด้าน ESG

เหมาะกับ : นักลงทุนที่อยากเติบโตแต่ยังชอบความมั่นคง

ระดับความเสี่ยง: 5 (ปานกลางค่อนข้างสูง)

2. SCBT100X 

(กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ ดัชนี SET100FF ไทยเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษ):

นโยบาย: กองทุนดัชนี Passive Management ลงทุนในหุ้นไทยที่เป็นส่วนประกอบของดัชนี SET100 Free Float Adjusted Market Capitalization Weighted Total Return Index (SET100FF) และมีคุณลักษณะ ESG สูง

จุดเด่น: ลงทุนหุ้นไทย ESG เพื่อโอกาสเติบโตอย่างยั่งยืนตามดัชนี SET100FF

เหมาะกับ : นักลงทุนที่เชื่อมั่นในตลาดหุ้นไทยระยะยาว

ระดับความเสี่ยง: 6 (สูง)

3. SCBTAPX 

(กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ หุ้นแอคทีฟ พลัส ไทยเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษ):

นโยบาย: กองทุนหุ้นเชิงรุก (Active Management) แบบ "พลัส" ลงทุนในหุ้นไทยที่โดดเด่นด้าน ESG และสามารถลงทุนในหุ้นต่างประเทศได้ไม่เกิน 20%

จุดเด่น: เปิดโอกาสลงทุนที่มากกว่า คัดหุ้นไทยเด่นด้าน ESG พร้อมกระจายเสี่ยง ด้วยหุ้นต่างประเทศไม่เกิน 20%

เหมาะกับ : นักลงทุนที่ชอบความหลากหลายและการกระจายความเสี่ยง

ระดับความเสี่ยง: 6 (สูง)

4. SCBTAX 

(กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ หุ้นแอคทีฟ ไทยเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษ):

นโยบาย: กองทุนหุ้นเชิงรุก (Active Management) เน้นคัดเลือกหุ้นไทยที่มีศักยภาพด้าน ESG ในระยะยาว

จุดเด่น: บริหารเชิงรุก คัดหุ้นไทยเด่นด้าน ESG ที่มีศักยภาพ

เหมาะกับ : นักลงทุนที่มองหาโอกาสผลตอบแทนสูงกว่าดัชนีในระยะยาว

ระดับความเสี่ยง: 6 (สูง)

 

กองทุนทั้ง 4 นี้ มีทั้งชนิดสำหรับเงินลงทุนใหม่ : แบบสะสมมูลค่า(25A), ชนิดจ่ายเงินปันผล(25D) และ สำหรับสับเปลี่ยน LTF : ชนิดเงินลงทุนเดิมแบบสะสมมูลค่า(LTFA), ชนิดเงินลงทุนเดิมแบบปันผล(LTFD)

เพื่อรองรับวัตถุประสงค์การลงทุนที่แตกต่างกัน ผู้ลงทุนควรพิจารณาเลือกกองทุนที่สอดคล้องกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้และเป้าหมายการลงทุนของตนเอง

โปรโมชั่นและสิทธิประโยชน์เพิ่มเติม: Fund Back จาก SCB

พิเศษ รับ Fund Back SCBSFF สูงสุด 600 บาท*

เมื่อลงทุนในกองทุนรวมThai ESGX ที่ร่วมรายการตั้งแต่วันที่ 2 พ.ค. 68 – 30 มิ.ย. 68  (เฉพาะเงินลงทุนใหม่ รายการสับเปลี่ยน LTFเดิมที่มีอยู่ไป Thai ESGX ไม่เข้าเงื่อนไขแคมเปญ)

รายละเอียดเพิ่มเติม

https://www.scb.co.th/th/personal-banking/investment/fund/mutual-funds/thai-esgx

เงื่อนไขการรับ Fund Back SCBSFF สูงสุด 600 บาท

  1. รายการส่งเสริมการขายนี้ให้สิทธิเฉพาะผู้ลงทุนประเภทบุคคลธรรมดาที่มีบัญชีกองทุนรวมประเภทบัญชีเดี่ยวเท่านั้น
  2. ผู้ลงทุนที่มีสิทธิ์ได้รับ Fund Back จะต้องลงทุนในกองทุนรวม Thai ESGX ที่เข้าร่วมรายการตั้งแต่วันที่ 2 พฤษภาคม 2568 ถึง 30 มิถุนายน 2568 และต้องถือครองหน่วยลงทุนที่ได้ลงทุนภายในช่วงเวลาส่งเสริมการขายจนถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2568 เท่านั้น
  3. รายชื่อกองทุนรวม Thai ESGX ที่เข้าร่วมรายการ จำนวน 8 กองทุน
    1. กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ ผสม 70 ไทยเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษ (ชนิดจ่ายเงินปันผล2025) – SCBT70X(25D)
    2. กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ ผสม 70 ไทยเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษ (ชนิดสะสมมูลค่า2025) – SCBT70X(25A)
    3. กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ หุ้นแอคทีฟ พลัส ไทยเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษ (ชนิดจ่ายเงินปันผล2025) – SCBTAPX(25D)
    4. กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ หุ้นแอคทีฟ พลัส ไทยเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษ (ชนิดสะสมมูลค่า2025) – SCBTAPX(25A)
    5. กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ ดัชนี SET100FF ไทยเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษ (ชนิดจ่ายเงินปันผล2025) – SCBTS100X(25D)
    6. กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ ดัชนี SET100FF ไทยเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษ (ชนิดสะสมมูลค่า2025) – SCBTS100X(25A)
    7. กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ หุ้นแอคทีฟ ไทยเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษ (ชนิดจ่ายเงินปันผล2025) – SCBTAX(25D)
    8. กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ หุ้นแอคทีฟ ไทยเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษ (ชนิดสะสมมูลค่า2025) – SCBTAX(25A)
  4. มูลค่า Fund Back คำนวณจากร้อยละ 0.2 ของมูลค่าเงินลงทุนสะสมสุทธิในช่วงเวลาที่กำหนด สูงสุดไม่เกิน 600 บาทต่อผู้ลงทุน 
  5. มูลค่าเงินลงทุนสะสมสุทธิของกองทุนที่ร่วมรายการ คำนวณจากมูลค่ารวมของรายการซื้อ/สับเปลี่ยนเข้า หักด้วย มูลค่ารวมของรายการขายคืน/สับเปลี่ยนออก
  6. ในกรณีที่ผู้ลงทุนมีบัญชีกองทุนรวมมากกว่า 1 บัญชี มูลค่าเงินลงทุนสะสมสุทธิจะคำนวณโดยรวมมูลค่าเงินลงทุนสะสมสุทธิของทุกบัญชีรวมกัน โดยพิจารณาจากหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชนเป็นหลัก
  7. คำว่า “มูลค่าเงินลงทุน” “การขายคืน” และ “โอนสับเปลี่ยน” ตามเงื่อนไขนี้ หมายถึง รายการ ซื้อ/ขายคืน/โอนสับเปลี่ยน ที่สำเร็จภายในเวลาทำการ (Cut-Off Time) ของแต่ละกองทุนรวมตามที่ระบุในหนังสือชี้ชวน
  8. ผู้ลงทุนจะได้รับการจัดสรร Fund Back หน่วยลงทุนกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ตราสารหนี้ระยะสั้น (SCBSFF) ภายในวันที่ 28 สิงหาคม 2568 โดยใช้มูลค่าหน่วยลงทุน (NAV) ณ สิ้นวันทำการวันที่ 28 สิงหาคม 2568 กรณีผู้ลงทุนได้รับคืน Fund Back มูลค่า ต่ำกว่า 1 บาท ขอสงวนสิทธิ์ไม่จัดสรรหน่วยลงทุนให้แก่ผู้ลงทุน
  9. ผู้ลงทุนจะได้รับการจัดสรร Fund Back เข้าบัญชีกองทุนรวมที่ผู้ลงทุนทำรายการลงทุนในกองทุนรวมที่เข้าร่วมรายการ กรณีผู้ลงทุนทำรายการลงทุนผ่านหลายบัญชีกองทุน ผู้ลงทุนจะได้รับการจัดสรร Fund Back เข้าบัญชีกองทุนรวมที่ทำรายการลงทุนล่าสุด
  10. ผู้ลงทุนที่ได้รับสิทธิ์ Fund Back จากรายการส่งเสริมการขายนี้แล้ว จะไม่สามารถรับของกำนัลจากรายการส่งเสริมการขายอื่น สำหรับกองทุนรวม Thai ESGX ในช่วงเวลาเดียวกันได้อีก
  11. บลจ. ไทยพาณิชย์ ขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยนแปลงระยะเวลาของรายการส่งเสริมการขาย ของกำนัลที่มีมูลค่าเทียบเท่า เงื่อนไข รวมทั้งข้อกำหนดอื่นของรายการส่งเสริมการขายนี้ โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า และของกำนัลไม่สามารถเปลี่ยนแปลงเป็นเงินสดได้ ทั้งนี้ คำตัดสินของ บลจ. ถือเป็นสิ้นสุด

กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ตราสารหนี้ระยะสั้น (SCBSFF) มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ เช่น พันธบัตรรัฐบาล ตราสารธนาคารพาณิชย์ และหุ้นกู้ ทั้งนี้อาจพิจารณาลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งสัญญาซื้อขายล่วงหน้า โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการลงทุนและเพื่อการลงทุนและจะลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งตราสารหนี้ที่มีการจ่ายผลตอบแทนอ้างอิงกับตัวแปร ที่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต.

คำเตือน

*เงื่อนไขรายการส่งเสริมการขายและกองทุนรวมที่ร่วมรายการเป็นไปตามที่บลจ.ไทยพาณิชย์กำหนด 

  • แหล่งที่มาของข้อมูล โดย SCB CIO ณ วันที่ 8 เม.ย. 68
  • โปรดศึกษาเงื่อนไขรายละเอียดโครงการของกองทุนรวม Thai ESGX และคู่มือภาษีจากบริษัทจัดการลงทุน กรณีไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขทางภาษี จะไม่ได้สิทธิประโยชน์ทางภาษีตามที่กฎหมายกำหนด
  • กองทุนรวมนี้มีลักษณะเฉพาะและความเสี่ยงเฉพาะ ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน และศึกษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุน กรณีไม่ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขทางภาษี จะไม่ได้สิทธิประโยชน์ตามเงื่อนไขของกองทุน รวมถึงควรลงทุนในกองทุนรวมที่เหมาะสมกับวัตถุประสงค์การลงทุนของตนและยอมรับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการลงทุนได้
  • กองทุนไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ผู้ลงทุนอาจขาดทุน หรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้
  • ศึกษาข้อมูลกองทุนและหนังสือชี้ชวนกองทุนรวมเพิ่มเติมได้จาก website ของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม ไทยพาณิชย์ จำกัด
  • สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ SCB Call Center โทร. 02-777-7777
  • เงื่อนไขการใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีต้องเป็นไปตามกฎหมายและประกาศที่กรมสรรพากรกำหนด

 #TESGX  #สับเปลี่ยนLTF  #SCBT70X  #SCBTS100X  #SCBTAPX  #SCBTAX  #SCBX  #SCBWealth  #SCBEASY  #นิ้วโป้ง 

ผลิตภัณฑ์และบริการที่เกี่ยวข้อง

Thai ESGX กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษ

กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษ เป็นกองทุนรวมที่ให้สิทธิประโยชน์ทางภาษี รองรับการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุน LTF และเงินลงทุนใหม่ สำหรับลงทุนในวันที่ 2 พ.ค. 68 - 30 มิ.ย. 68 เท่านั้น

เรื่องอื่นๆ ที่คุณอาจสนใจ