ผลการค้นหา "{{keyword}}" ไม่ปรากฎแต่อย่างใด
การใช้และการจัดการคุกกี้
ธนาคารมีการใช้เทคโนโลยี เช่น คุกกี้ (cookies) และเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกันบนเว็บไซต์ของธนาคาร เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น โปรดอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ นโยบายการใช้คุกกี้ของธนาคาร
23-12-2568
จากข้อมูล SCB EIC* พบว่า คนไทยจำนวนมากยังลังเลเรื่องการซื้อบ้าน เพราะภาระหนี้ครัวเรือนสูงและรายได้ไม่โตเร็วเท่าค่าใช้จ่าย โดยเฉพาะมนุษย์เงินเดือนที่มีรายได้ไม่เกิน 50,000 บาทต่อเดือน ทำให้หลายคนเลือกเช่าหรืออยู่กับครอบครัวแทนการซื้อบ้านในช่วงนี้
การตัดสินใจ “ซื้อ” หรือ “เช่า” ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเกี่ยวข้องกับการเงินระยะยาว ความมั่นคง และแผนชีวิตในอนาคต บทความนี้จะช่วยให้คุณมองภาพชัดขึ้น พร้อมแนะนำสิทธิพิเศษที่มนุษย์เงินเดือนไม่ควรมองข้าม
7 ปัจจัยสำคัญที่ต้องคิดก่อนตัดสินใจ
1. ประเมินกำลังซื้อของตัวเอง
ก่อนคิดจะซื้อบ้าน ต้องเริ่มจากการตรวจสอบรายได้และหนี้สินที่มีอยู่ เพื่อดูว่าคุณสามารถผ่อนบ้านได้โดยไม่กระทบค่าใช้จ่ายจำเป็น กฎง่าย ๆ คือ ภาระผ่อนบ้านไม่ควรเกิน 30-40% ของรายได้ต่อเดือน และควรมีเงินสำรองฉุกเฉินอย่างน้อย 3–6 เดือน เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากรายได้ไม่แน่นอน คุณอาจลองใช้เครื่องคำนวณสินเชื่อบ้านของธนาคารเพื่อประเมินวงเงินที่เหมาะสม จะช่วยให้เห็นภาพชัดว่าคุณพร้อมแค่ไหน
2. ทำเลคือหัวใจ
มนุษย์เงินเดือนยุคใหม่ให้ความสำคัญกับทำเลที่เดินทางสะดวก ใกล้รถไฟฟ้า หรือแหล่งงานมากกว่าขนาดพื้นที่ เพราะช่วยประหยัดเวลาและค่าเดินทางในระยะยาว ทำเลที่ดีไม่เพียงเพิ่มความสะดวก แต่ยังช่วยรักษามูลค่าทรัพย์สินในอนาคต
เทรนด์ที่น่าสนใจ: ทำเลใกล้รถไฟฟ้าสายใหม่และโซนที่มีแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน มักมีโอกาสปรับราคาสูงในอนาคต ซึ่งนอกจากได้ที่อยู่อาศัยที่โดนใจแล้ว ก็ยังสามารถสร้างเป็นสินทรัพย์สำหรับการลงทุนในระยะยาวได้
3. เปรียบเทียบค่าใช้จ่ายระหว่างซื้อกับเช่า
การซื้อบ้านมีค่าใช้จ่ายแฝง เช่น ค่าซ่อมบำรุง ภาษี และค่าธรรมเนียม ส่วนการเช่ามีความยืดหยุ่นสูงกว่า แต่ไม่มีการสร้างสินทรัพย์ระยะยาว ลองคำนวณว่าตัวเลือกไหนเหมาะกับแผนชีวิตของคุณ เช่น ถ้าวางแผนอยู่ในเมืองเพียง 3–5 ปี การเช่าอาจคุ้มกว่า
ตัวอย่าง: บ้านราคา 3 ล้านบาท ผ่อนเดือนละ 15,000 บาท เทียบกับค่าเช่า 8,000–12,000 บาทต่อเดือน ต้องถามตัวเองว่าความมั่นคงและการสร้างทรัพย์สินสำคัญแค่ไหน ถ้าคุณต้องการความมั่นคงและวางแผนอยู่ระยะยาว การซื้ออาจเหมาะกว่า แต่ถ้าต้องการความยืดหยุ่นและไม่อยากแบกรับภาระหนี้ การเช่าเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยกว่า
4. เทรนด์ตลาดที่ต้องรู้
ปัจจุบันตลาดอสังหาริมทรัพย์มีการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน โดยหนึ่งในเทรนด์ที่มาแรงคือ บ้านมือสองและรูปแบบเช่าซื้อ (Rent-to-own) ซึ่งได้รับความนิยมมากขึ้น เพราะราคาคุ้มกว่าโครงการใหม่และช่วยลดภาระเงินดาวน์สำหรับผู้ที่ยังไม่พร้อมซื้อทันที อีกทั้งผู้บริโภคยุคนี้ให้ความสำคัญกับ ความคุ้มค่าและสุขภาพชีวิต มากกว่าความหรูหรา ทำให้บ้านที่มีพื้นที่สีเขียว ระบบระบายอากาศดี หรือออกแบบเพื่อความเป็นอยู่ที่ดี (Well-being) เป็นที่ต้องการมากขึ้น นอกจากนี้แนวคิดด้าน ESG (Environmental, Social, Governance) เริ่มเข้ามามีบทบาท เช่น บ้านที่ใช้วัสดุเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หรือมีระบบประหยัดพลังงาน ซึ่งไม่เพียงช่วยลดค่าใช้จ่ายระยะยาว แต่ยังตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่ใส่ใจโลก การเข้าใจเทรนด์เหล่านี้จะช่วยให้คุณเลือกบ้านที่ไม่เพียงเหมาะกับปัจจุบัน แต่ยังมีมูลค่าเพิ่มในอนาคต
5. วางแผนการเงินล่วงหน้า
ก่อนซื้อบ้าน คุณต้องเตรียมเงินดาวน์อย่างน้อย 10–20% ของราคาบ้าน พร้อมเงินสำรองฉุกเฉิน 3–6 เดือน เพื่อรองรับเหตุการณ์ไม่คาดคิด นอกจากนี้ควรตรวจสอบคะแนนเครดิตของตัวเอง เพราะเครดิตที่ดีช่วยให้ได้ดอกเบี้ยต่ำและอนุมัติสินเชื่อเร็วขึ้น หากมีหนี้บัตรเครดิตหรือสินเชื่อส่วนบุคคล ควรลดหรือปิดก่อนยื่นกู้ เพื่อเพิ่มโอกาสอนุมัติและลดภาระดอกเบี้ยในระยะยาว
6. ใช้สิทธิพิเศษจากบัญชีเงินเดือนให้เต็มที่
หลายคนอาจไม่รู้ว่าการรับเงินเดือนผ่านบัญชีธนาคารเป็นข้อได้เปรียบสำคัญ เพราะคุณจะได้รับสิทธิพิเศษที่ช่วยให้การซื้อบ้านง่ายขึ้นและคุ้มค่ากว่าเดิม เช่น อัตราดอกเบี้ยที่เป็นมิตรสำหรับสินเชื่อบ้านและรถ**, ขั้นตอนอนุมัติที่รวดเร็วเนื่องจากธนาคารมีข้อมูลรายได้ของคุณอยู่แล้ว , รวมถึงสิทธิประโยชน์ด้านภาษี เช่น เงินสะสมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่ผูกกับบัญชีเงินเดือน
การใช้ SCB PAYROLL ก็เป็นหนึ่งทางเลือกที่ไม่เพียงช่วยให้คุณเข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายขึ้น แต่ยังช่วยประหยัดดอกเบี้ยตลอดอายุสัญญา ซึ่งอาจรวมเป็นเงินหลักแสนบาทในระยะยาว หากคุณยังไม่ได้ใช้บริการนี้ ลองพิจารณาเปลี่ยนบัญชีเงินเดือน เพราะสิทธิพิเศษเหล่านี้อาจเป็นตัวช่วยสำคัญในการทำให้แผนซื้อบ้านของคุณเป็นจริงเร็วขึ้น
7. อย่าลืมคิดถึงอนาคต
ก่อนตัดสินใจซื้อหรือเช่า ลองถามตัวเองว่าอีก 5–10 ปี คุณอยากอยู่ที่ไหน หากมีแผนย้ายงานหรือเปลี่ยนเมือง การเช่าอาจตอบโจทย์เพราะให้ความยืดหยุ่นสูง แต่ถ้าคุณต้องการความมั่นคงและวางแผนสร้างทรัพย์สินระยะยาว การซื้อบ้านคือการลงทุนที่คุ้มค่า เพราะบ้านไม่ใช่แค่ที่อยู่อาศัย แต่เป็นสินทรัพย์ที่สามารถเพิ่มมูลค่าได้ในอนาคต หากเลือกทำเลดีและวางแผนการเงินอย่างรอบคอบ การตัดสินใจวันนี้อาจเป็นจุดเริ่มต้นของความมั่นคงในชีวิตที่คุณต้องการ
มนุษย์เงินเดือนที่ลังเลระหว่าง “ซื้อ” หรือ “เช่า” ควรเริ่มจากการประเมินกำลังซื้อ วางแผนการเงิน และใช้สิทธิพิเศษจาก SCB PAYROLL เพื่อเพิ่มความคุ้มค่าในการตัดสินใจ เพราะบ้านไม่ใช่แค่ที่อยู่อาศัย แต่เป็นการลงทุนในอนาคตของคุณ
*ที่มาของข้อมูล : SCB EIC คนไทยยุคใหม่ “เลือกเช่า” หรือ “เลือกซื้อ” (EP.1) : ที่อยู่อาศัย & พาหนะส่วนตัว
** กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว