ในโลกที่ซับซ้อนขึ้นทุกวัน โดยเฉพาะในยุคของ Gen Alpha (1-14 ปี) ซึ่งเป็นรุ่นแรกที่เติบโตมาพร้อมกับเทคโนโลยีดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ เด็ก ๆ เหล่านี้เข้าถึงข้อมูล ความบันเทิง และบริการออนไลน์ได้ตั้งแต่อายุยังน้อย พวกเขาเรียนรู้ผ่าน YouTube ใช้แอปพลิเคชันต่าง ๆ ได้คล่องแคล่ว และเริ่มมีพฤติกรรมการบริโภคผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์อย่างไม่รู้ตัว

การให้ลูกหลาน Gen Alpha (1-14 ปี) ของเรามีความรู้และทักษะที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิตเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง และหนึ่งในทักษะที่มักถูกมองข้ามคือ ทักษะทางการเงิน หลายคนอาจคิดว่าเรื่องเงินเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ แต่ในความเป็นจริง การสอนเรื่องเงินตั้งแต่อายุยังน้อย คือ การเตรียมความพร้อมให้พวกเขาสามารถเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีความรับผิดชอบและจัดการชีวิตได้อย่างมั่นคง

ทำไมต้องสอนเรื่องเงินตั้งแต่วัยเด็ก?

การปลูกฝังความรู้ทางการเงินให้กับลูกตั้งแต่อายุยังน้อยมีประโยชน์มากมาย:

• สร้างวินัยทางการเงิน: เด็กที่เรียนรู้เรื่องการออม การใช้จ่าย และการวางแผนตั้งแต่เล็ก จะมีโอกาสสร้างวินัยทางการเงินที่ดีติดตัวไปจนโต ในยุคดิจิทัลนี้ สามารถทำได้ผ่านแอปพลิเคชันการเงินสำหรับเด็ก เช่น แอปที่ช่วยติดตามการออม หรือเกมที่สอนเรื่องการจัดการเงิน ทำให้การเรียนรู้เป็นเรื่องสนุกและเข้าใจได้ง่ายขึ้น
• รู้คุณค่าของเงิน: เมื่อเด็กได้เรียนรู้ว่าเงินได้มาจากการทำงานหรือการออม พวกเขาจะเห็นคุณค่าของเงินและใช้จ่ายอย่างมีสติ รอบคอบมากขึ้น และมีการตั้งเป้าหมายทางการเงิน แม้ว่าเงินในยุคนี้จะมาในรูปแบบดิจิทัล เด็ก ๆ ควรได้รับการสอนว่าเงินเหล่านี้ก็มีคุณค่าเทียบเท่ากับเงินสดเช่นกัน
• ลดโอกาสเกิดปัญหาเงินในอนาคต: การมีพื้นฐานความรู้ทางการเงินที่ดีจะช่วยให้พวกเขาวางแผนการใช้จ่ายและหลีกเลี่ยงปัญหาหนี้สินหรือการใช้เงินเกินตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโลกดิจิทัลที่การซื้อของออนไลน์หรือการใช้จ่ายผ่านแอปต่าง ๆ สามารถทำได้ง่ายและรวดเร็ว การสอนให้พวกเขาระมัดระวังและคิดก่อนใช้จ่ายจะช่วยลดปัญหาทางการเงินในอนาคตได้มาก
• เพิ่มความมั่นใจและเป็นอิสระ: เมื่อเด็กสามารถจัดการเงินของตัวเองได้ พวกเขาจะรู้สึกมั่นใจในการบริหารเงินตนเองและเป็นอิสระมากขึ้น

เริ่มต้นอย่างไรดี?

การสอนเรื่องเงินให้กับเด็กไม่จำเป็นต้องใช้ทฤษฎีที่ซับซ้อน แต่สามารถเริ่มต้นได้จากเรื่องง่าย ๆ ในชีวิตประจำวัน:

1. ให้เงินพกไปโรงเรียนหรือเงินค่าขนม

การให้เงินค่าขนมเป็นเครื่องมือที่ง่ายและมีประสิทธิภาพที่สุดในการสอนเรื่องเงิน ให้ลูกได้เรียนรู้การตัดสินใจว่าจะใช้เงินไปกับอะไร จะออมเท่าไหร่ และจะเก็บไว้ซื้ออะไรในอนาคต การให้เงินค่าขนมนี้ควรมาพร้อมกับการพูดคุยถึงการใช้จ่ายอย่างสม่ำเสมอ 

2. ใช้กระปุกออมสินแบบมีช่องแบ่ง

เลือกกระปุกออมสินที่มีช่องแบ่ง เช่น "ออม" "ใช้" และ "แบ่งปัน" ให้ลูกได้เรียนรู้ว่าเงินแต่ละส่วนมีจุดประสงค์ต่างกัน เช่น ส่วน "ออม" ใช้สำหรับเก็บไว้ในระยะยาว ส่วน "ใช้" สำหรับสิ่งที่อยากได้ และส่วน "แบ่งปัน" สำหรับการบริจาคหรือช่วยเหลือผู้อื่น วิธีนี้จะช่วยให้เด็กเข้าใจการจัดสรรเงินอย่างเป็นระบบ 

3. ชวนลูกไปซื้อของและให้ตัดสินใจ

เวลาไปซื้อของที่ซูเปอร์มาร์เก็ต ลองให้ลูกช่วยเปรียบเทียบราคา เช่น "ขนมชิ้นนี้ 5 บาท แต่ขนมอีกชิ้น 8 บาท ลูกจะเลือกซื้ออะไรดี" หรือให้ลูกมีงบประมาณที่จำกัดในการซื้อของเล่น เพื่อให้เขาได้ฝึกการตัดสินใจและเห็นข้อจำกัดของเงิน

4. สอนให้เห็นคุณค่าของการทำงาน

อธิบายให้ลูกฟังว่าเงินได้มาจากการทำงาน ไม่ใช่ได้มาง่าย ๆ อาจจะลองมอบหมายงานเล็ก ๆ น้อย ๆ ในบ้าน และให้ค่าตอบแทนที่เหมาะสม เช่น การทำความสะอาดห้อง หรือช่วยดูแลสวน เพื่อให้เขาได้เข้าใจว่าการได้เงินมาต้องแลกกับความพยายาม

5. เป็นแบบอย่างที่ดี

ผู้ปกครองคือต้นแบบที่ดีที่สุด หากคุณแสดงให้ลูกเห็นถึงการใช้เงินอย่างรอบคอบ การวางแผนการออม และการไม่ใช้จ่ายเกินตัว ลูกก็จะซึมซับพฤติกรรมเหล่านั้นไปโดยปริยาย

การสอนเรื่องการเงินให้ลูกเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาและความอดทน แต่ผลลัพธ์ที่ได้นั้นคุ้มค่าอย่างยิ่ง เพราะคุณกำลังมอบเครื่องมือที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งในการใช้ชีวิตให้กับพวกเขา นั่นก็คือ ความรู้และทักษะทางการเงิน ที่จะช่วยให้พวกเขาสามารถสร้างอนาคตที่มั่นคงและประสบความสำเร็จได้ด้วยตัวเอง

การสอนให้ลูกรู้จักบริหารเงินเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งต่ออนาคตของพวกเขา เพราะเป็นการปลูกฝังวินัยทางการเงินที่ดีตั้งแต่เด็ก นอกจากการสอนด้วยวิธีการง่ายๆ ในชีวิตประจำวันแล้ว การให้ลูกเริ่มต้นเก็บเงินในรูปแบบที่มั่นคงก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ เช่น ประกันสะสมทรัพย์ ซึ่งมีความคุ้มครองและจะช่วยให้ลูกมีเงินก้อนใหญ่ในระยะยาว

หากท่านสนใจรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกันสะสมทรัพย์ สามารถสอบถามได้ที่ SCB ทุกสาขา 

หมายเหตุ

• ธนาคารเป็นเพียงนายหน้าผู้ชี้ช่องให้ทำประกันภัยเท่านั้น
• รับประกันภัยโดย บมจ. เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต 
• ผู้ซื้อควรทำความเข้าใจในรายละเอียด ความคุ้มครองและเงื่อนไขก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง