ทำเล คือ ปัจจัยหนึ่งที่ “กำหนดคุณภาพชีวิต” และ “มูลค่าของบ้านในอนาคต”  โดยเฉพาะบ้านมือสองที่อยู่ในย่านที่พัฒนาแล้ว การเลือกทำเลที่ดีจะช่วยเสริมทั้งความสะดวกในการเดินทาง การใช้ชีวิต และอาจมีโอกาสในการเพิ่มมูลค่าเมื่อถือครองในระยะยาว มาดูกันว่าควรมีวิธีคัดเลือกทำเลบ้านอย่างไรให้เหมาะสมกับตัวเรา  

1. เริ่มจาก “พฤติกรรมการใช้ชีวิต” ของคุณ

การเลือกทำเลควรเริ่มจากคำถามง่าย ๆ เช่น  คุณใช้ชีวิตแบบไหน?

• เน้นการเดินทางสาธารณะ: ใกล้รถไฟฟ้า (BTS, MRT, SRT) ป้ายรถเมล์ และจุดเชื่อมต่อ
• ขับรถเป็นหลัก: ใกล้ทางด่วน ถนนสายหลัก ซอยเชื่อมทะลุ
• ครอบครัวมีเด็ก: ใกล้โรงเรียน สวนสาธารณะ สนามกีฬา
• มีผู้สูงอายุ: ใกล้โรงพยาบาล คลินิก และร้านขายยา

เมื่อรู้ลำดับความสำคัญ การค้นหาทำเลจะมี “ตัวกรอง” ที่ชัดเจนมากขึ้น

2. วิเคราะห์โครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure)

• การคมนาคม: ระยะห่างจริงจากสถานีรถไฟฟ้า จุดขึ้นลงทางด่วน และความหนาแน่นการจราจรช่วงเวลาเร่งด่วน
• สาธารณูปโภค: ระบบไฟ น้ำ ไฟถนน การจัดเก็บขยะ และบริการฉุกเฉินในพื้นที่
• สาธารณูปการ: โรงเรียน โรงพยาบาล ห้างสรรพสินค้า ตลาด สวนสาธารณะ  ไปรษณีย์ และศูนย์ราชการ  

จะเห็นได้ว่าการมีโครงสร้างพื้นฐานที่ครบถ้วน ไม่เพียงเพิ่มความสะดวก แต่ยังส่งเสริมให้ราคาของบ้านมีโอกาสเพิ่มสูงขึ้นได้ในอนาคต

3. ตรวจสอบความเสี่ยงเชิงพื้นที่

• น้ำท่วม/น้ำรอระบาย: ดูบันทึกเหตุการณ์ในอดีต และระดับความสูงของพื้นที่
• เสียง/มลภาวะ: ใกล้โรงงาน สนามบิน ศูนย์ขนส่ง หรือถนนใหญ่ อาจมีเสียงดังและฝุ่น
• ความปลอดภัย: สถิติเหตุอาชญากรรม การรักษาความปลอดภัยของหมู่บ้าน และระบบ CCTV

4. ศักยภาพการเติบโต (Growth Potential)

• มีโครงการ ขยายเส้นทางรถไฟฟ้า หรือทางด่วนในอนาคตหรือไม่
• มี แผนพัฒนาย่าน ที่ดันให้เกิดแหล่งงาน/ไลฟ์สไตล์ใหม่ เช่น Community Mall, Office Hub
• การเปลี่ยนแปลงผังเมืองที่เอื้อให้เกิด การใช้ประโยชน์ที่ดิน เข้มขึ้น  เช่น        การถือครองบ้านในทำเลที่มีการลงทุนจากภาครัฐเริ่มดำเนินการ จะช่วยให้ทำเลนั้นมีโอกาสมีมูลค่าเพิ่มขึ้นได้ในระยะยาว

5. บริบทชุมชนและเพื่อนบ้าน

• วัฒนธรรมการอยู่อาศัย เงียบสงบ vs คึกคัก
• กฎระเบียบชุมชน (ข้อบังคับหมู่บ้าน) และค่าส่วนกลาง
• อัตราการ เปลี่ยนมือ ของบ้านในละแวกนั้น บ่งบอกความน่าอยู่/สภาพคล่อง

6. ลองทดสอบใช้ชีวิตจริง ไม่ใช่แค่บนแผนที่

ลองใช้ชีวิตในพื้นที่จริงก่อนตัดสินใจ  เช่น  ทดสอบเส้นทางไปทำงานในช่วง เช้า-เย็น ลองจับเวลาเดินไปสถานีรถไฟฟ้า เยี่ยมชมร้านค้าสำคัญในวันธรรมดาและวันหยุด เพื่อให้เห็น สภาพการใช้งานจริง โดยไม่หลงเชื่อแค่ระยะทางบนแผนที่

7. ราคาตลาดและความคุ้มค่า

สำรวจราคาขาย/เช่าในพื้นที่รอบข้าง เพื่อประเมิน “ความคุ้มค่า” ของบ้านที่สนใจ เทียบกับสภาพบ้าน อายุวัสดุ หน้ากว้างที่ดิน และระยะห่างจากสิ่งอำนวยความสะดวก ควรมีงบประมาณสำรอง สำหรับรีโนเวทและปรับปรุงหลังซื้อบ้านมือสอง

8. Checklist ทำเลฉบับย่อ

• ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกหลัก (ขนส่ง โรงเรียน โรงพยาบาล ซูเปอร์มาร์เก็ต)
• เส้นทางเข้าออกหลากหลาย ลดความเสี่ยง “ทางเดียว”
• พื้นที่มีแนวโน้มพัฒนา และไม่เสี่ยงมลภาวะสูง
• ชุมชนปลอดภัย มีระบบรักษาความปลอดภัย

เมื่อทำเลผ่านเกณฑ์เหล่านี้ บ้านมือสองจะมี “ความคุ้มค่า” สูงทั้งในเชิงการอยู่อาศัยและการลงทุน  ทั้งนี้   ทำเลที่ดีคือการผสมผสานระหว่าง ความสะดวกวันนี้ และ โอกาสเติบโตในวันหน้า การตัดสินใจด้วยข้อมูลจริง และการทดลองใช้ชีวิตในพื้นที่ จะช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มความมั่นใจให้กับการเลือกซื้อบ้านมือสอง

 สนใจดูทรัพย์บ้านมือ 2 ของ SCB ดูรายละเอียดได้ที่นี่ :  HOME.SCB | ธนาคารไทยพาณิชย์ หน้าหลัก

หรือเข้าแอป SCB EASY เลือก EASY  STORE เลือกบ้านหรือสินทรัพย์ ก็สามารถค้นหาบ้านมือ 2 ได้ทันที