ผลการค้นหา "{{keyword}}" ไม่ปรากฎแต่อย่างใด
การใช้และการจัดการคุกกี้
ธนาคารมีการใช้เทคโนโลยี เช่น คุกกี้ (cookies) และเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกันบนเว็บไซต์ของธนาคาร เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น โปรดอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ นโยบายการใช้คุกกี้ของธนาคาร
16-09-2568
เมียนมาถือเป็นประเทศที่มีบทบาทสำคัญด้านการเกษตรมายาวนาน โดยเฉพาะในฐานะผู้ผลิตและส่งออกพืชตระกูลถั่วรายใหญ่ของโลก ความสำคัญของภาคการเกษตรไม่เพียงสะท้อนผ่านการจ้างงาน หรือปริมาณผลผลิต แต่ยังมีบทบาทเชิงโครงสร้างในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศอย่างมีนัยสำคัญ
ตามข้อมูลสถิติจากกระทรวงพานิชย์เมียนมา ปัจจุบันภาคเกษตรกรรมของเมียนมามีสัดส่วนมากกว่า 30% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) โดยพืชตระกูลถั่วนับเป็นกลุ่มสินค้าหลักรองจากข้าว ด้วยพื้นที่เพาะปลูกกว่า 10 ล้านเอเคอร์ หรือคิดเป็นมากกว่า 20% ของพื้นที่เกษตรกรรมทั้งหมดทั่วประเทศ โดยแหล่งเพาะปลูกสำคัญส่วนใหญ่ตั้งอยู่บริเวณแม่น้ำเอยาวดีและพื้นที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำ ซึ่งเป็นเขตที่มีความอุดมสมบูรณ์สูง สะท้อนให้เห็นว่าพืชตระกูลถั่วนั้นมีศักยภาพในการส่งออกที่สามารถต่อยอดสู่การพัฒนาเศรษฐกิจและการลงทุนของประเทศได้ในระยะยาว
โดยชนิดถั่วหลักที่ได้รับการเพาะปลูกและส่งออกในปริมาณสูง ได้แก่ ถั่วดำ ถั่วมะแฮะ และถั่วเขียว ครอบคลุมพื้นที่เพาะปลูกรวมกันกว่า 72% ของพื้นที่ปลูกถั่วทั้งหมด
ข้อมูล ณ เดือนกรกฎาคม ปีงบประมาณ 2567–2568 ระบุว่า เมียนมามีการส่งออกพืชตระกูลถั่วรวมมากกว่า 775,290 ตัน คิดเป็นมูลค่าประมาณ 669.89 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สะท้อนให้เห็นถึงน้ำหนักทางเศรษฐกิจของสินค้าเกษตรกลุ่มนี้ ทั้งในเชิงรายได้และการค้าระหว่างประเทศ
ตลาดส่งออกหลักของเมียนมาได้แก่ อินเดีย จีน รวมถึงยุโรปที่มีความต้องการถั่วเขียวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง สร้างรายได้จากการส่งออกในช่วง 1–1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี หรือคิดเป็นประมาณ 38% ของมูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรทั้งหมดของประเทศ
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2564 เมียนมาและอินเดียได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจแบบรัฐต่อรัฐ (G-to-G Agreement) ซึ่งระบุให้อินเดียนำเข้าถั่วดำจำนวน 250,000 ตัน และถั่วแระ 100,000 ตัน ต่อปี เป็นระยะเวลา 5 ปี ต่อเนื่องจนถึงปีงบประมาณ 2569
นอกจากนี้ สมาคมผู้ค้าเมล็ดพืช ถั่ว ข้าวโพด และงาแห่งเมียนมา (Myanmar Pulses, Beans, Maize and Sesame Seeds Merchants Association: MPBMA) ได้ตั้งเป้าการส่งออกถั่วให้ได้มากถึง 2 ล้านตัน ภายในปี 2569
การเปิดกว้างสู่การลงทุนสำหรับนักลงทุนต่างชาติ
เพื่อส่งเสริมการผลิตและการส่งออกระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์เมียนมาได้อนุญาตให้บริษัทต่างชาติสามารถส่งออก 8 กลุ่มสินค้าท้องถิ่น โดยเฉพาะ “สินค้าเกษตรแปรรูป” ซึ่งรวมถึงสินค้าอย่าง ข้าว ถั่ว ข้าวโพด งา ฯลฯ โดยผู้ประกอบการต่างชาติต้องแสดงเอกสารประกอบการขอใบอนุญาตส่งออก อาทิ
การที่เมียนมาเปิดเสรีให้บริษัทต่างชาติสามารถเข้ามามีบทบาทในห่วงโซ่การผลิตและส่งออกสินค้าเกษตรแปรรูป เป็นโอกาสครั้งสำคัญของภาคธุรกิจโดยเฉพาะไทยและประเทศเพื่อนบ้านที่มีความใกล้ชิดทางภูมิศาสตร์และวัฒนธรรมการค้าร่วมกัน นี่จึงเป็นช่วงเวลาแห่งโอกาสที่นักลงทุนในอุตสาหกรรมการเกษตรไม่ควรมองข้าม
ลูกค้าที่สนใจประกอบธุรกิจใน CLMV หรือประเทศเขตอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (Great Mekong Subregion: GMS) ได้แก่ กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม ธนาคารไทยพาณิชย์มีสาขาต่างประเทศที่พร้อมจะดูแลและให้บริการ สนใจติดต่อ https://www.scb.co.th/en/corporate-banking/international-network.html
ขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก: ธนาคารไทยพาณิชย์เมียนมา www.scbmm.com
ข้อมูลอ้างอิง