คลิกเดียวชีวิตเปลี่ยน! วิธีรับมือ “ลิงก์แปลกปลอม” และ “ข้อความหลอกลวง”

ในโลกยุคดิจิทัล ภัยที่อันตรายที่สุดมักซ่อนอยู่ในสิ่งที่ดูเรียบง่ายที่สุด นั่นคือ "ลิงก์" หรือ "ข้อความ" ที่ถูกส่งมาทางโทรศัพท์หรือช่องทางออนไลน์ หากคลิกผิดแม้แต่ครั้งเดียว อาจทำให้เงินเก็บในบัญชีหายไปทั้งหมด หรือข้อมูลส่วนตัวรั่วไหลได้ทันที 

นี่คือ คู่มือที่ง่ายที่สุด สำหรับผู้ที่ไม่ถนัดเทคโนโลยี เพื่อให้รู้ทันมิจฉาชีพที่ใช้กลโกงเหล่านี้ และปกป้องตัวเองจากการสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ

3 ช่องทางหลักที่มิจฉาชีพใช้ส่ง "ลิงก์อันตราย"

มิจฉาชีพไม่จำเป็นต้องโทรศัพท์มาหลอกอีกต่อไป พวกเขาเพียงแค่ส่งข้อความไปหาเหยื่อพร้อมลิงก์ที่ออกแบบมาให้ดูน่าเชื่อถือ ช่องทางที่พบได้บ่อยที่สุดคือ:

  1. ข้อความ SMS (เบอร์โทรศัพท์มือถือ): มักจะส่งมาจากเบอร์แปลก หรือบางครั้งปลอมเป็นชื่อหน่วยงานที่ท่านคุ้นเคย เช่น ธนาคาร, บริษัทขนส่ง, หรือแม้แต่การไฟฟ้า/ประปา
  2. แอปพลิเคชัน LINE/Facebook Messenger: ส่งมาในรูปแบบข้อความจากเพื่อนที่โดนแฮ็กบัญชีไปแล้ว หรือบัญชีปลอมที่อ้างเป็นบริษัท
  3. อีเมล (E-mail): ข้อความที่ดูเป็นทางการ อ้างว่าท่านต้อง "อัปเดตข้อมูล" หรือ "ตรวจสอบยอดค้างชำระ" โดยให้คลิกลิงก์

4 กลโกงยอดฮิตที่ใช้ "ลิงก์และข้อความ" ล่อเหยื่อ

มิจฉาชีพจะใช้คำพูดที่สร้างความรู้สึกเร่งด่วนหรือทำให้เกิดความโลภ เพื่อให้ท่านรีบกดลิงก์โดยไม่ทันคิด

1. หลอกให้รีบทำธุรกรรมการเงิน

  • ข้อความล่อลวง: "ยอดเงินในบัญชีของคุณถูกระงับ กรุณาคลิกเพื่อยืนยันตัวตนด่วน" หรือ "ค้างชำระค่าไฟ/ค่าน้ำ โปรดคลิกเพื่อชำระเงินก่อนถูกตัด"
  • เป้าหมาย: เมื่อคลิกเข้าไปแล้ว ลิงก์จะนำท่านไปสู่ เว็บไซต์ปลอม ที่มีหน้าตาเหมือนธนาคารจริง หากท่านกรอกชื่อผู้ใช้และรหัสผ่าน มิจฉาชีพจะขโมยข้อมูลนี้ไปทันที

2. หลอกให้รับรางวัล/รับสวัสดิการ

  • ข้อความล่อลวง: "คุณได้รับเงินสวัสดิการผู้สูงอายุ 5,000 บาท คลิกเพื่อลงทะเบียนรับสิทธิ์" หรือ "คุณได้รับรางวัลโทรศัพท์มือถือ คลิกที่นี่เพื่อยืนยันการรับของรางวัล"
  • เป้าหมาย: เพื่อให้ท่านเกิดความโลภและกดลิงก์ เมื่อคลิกแล้วจะถูกหลอกให้กรอกข้อมูลส่วนตัว หรือถูกนำไปสู่แอปพลิเคชันอันตราย

3. หลอกให้ติดตั้งแอปพลิเคชันควบคุมเครื่อง (Remote Access Scam)

  • ข้อความล่อลวง: มักจะมาควบคู่กับกลโกงแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยหลอกว่าท่านต้องติดตั้งแอปฯ เพื่อ "ตรวจสอบคดี" หรือ "ป้องกันภัย"
  • เป้าหมาย: แอปฯ เหล่านั้นไม่ใช่แอปฯ ของทางการจริง แต่เป็น โปรแกรมควบคุมระยะไกล เมื่อติดตั้ง มิจฉาชีพจะสามารถมองเห็นทุกสิ่งที่ท่านทำบนหน้าจอโทรศัพท์ รวมถึงรหัสผ่านและรหัส OTP ที่ถูกส่งมา ทำให้พวกเขาสามารถโอนเงินออกจากบัญชีของท่านได้ทันที

4. หลอกให้กดดูภาพ/วิดีโอ ที่น่าสนใจ

  • ข้อความล่อลวง: "ภาพของคุณหลุด! คลิกเพื่อดูด่วน" หรือ "วิดีโอที่น่าสนใจมาก คลิกที่นี่เลย"
  • เป้าหมาย: เพื่อให้ท่านเกิดความสงสัยและคลิกดู เมื่อคลิกแล้วอาจถูกขโมยข้อมูลบัญชี หรือติดโปรแกรมมัลแวร์ที่ทำให้โทรศัพท์ถูกควบคุม

ข้อควรจำในการรับมือ "ลิงก์และข้อความ" (แบบทำตามได้ทันที)

เพื่อให้ท่านปลอดภัยจากการถูกหลอกด้วยการคลิก ขอให้ยึดหลักการตรวจสอบ 5 ข้อนี้เป็นประจำ:



ลำดับ
หลักการคำอธิบายที่เข้าใจง่าย
1อย่าคลิกทันทีไม่ว่าข้อความจะเร่งรัดเพียงใด ให้หยุดนิ่งและตั้งคำถามก่อนเสมอ
2เช็กที่อยู่ผู้ส่งถ้าเป็น SMS จากธนาคารจริง ชื่อผู้ส่งควรเป็นชื่อธนาคาร (ชื่อภาษาอังกฤษ) ไม่ใช่เบอร์โทรศัพท์มือถือ หากเป็นเบอร์มือถือ ให้สงสัยไว้ก่อนว่าคือมิจฉาชีพ
3ดูคำผิดข้อความของมิจฉาชีพมักจะมีคำสะกดผิด หรือการใช้ภาษาที่แปลก ๆ ไม่เหมือนภาษาไทยที่หน่วยงานราชการใช้
4ห้ามกรอกข้อมูลหากมีการคลิกเข้าไปแล้ว หน้าเว็บไซต์นั้นห้ามให้ท่านกรอกข้อมูลส่วนตัว เช่น เลขบัตรประชาชน, รหัสผ่านธนาคาร (Username, Password), หรือรหัส OTP เด็ดขาด
5ติดต่อด้วยตัวเองหากไม่แน่ใจ ให้วางโทรศัพท์มือถือลง แล้วโทรศัพท์กลับไปหาหน่วยงานนั้น ๆ ด้วยเบอร์ที่ท่านหาเอง จากสมุดโทรศัพท์ หรือเว็บไซต์ทางการ (เช่น หากกังวลเรื่องค่าน้ำ ให้โทรไปเบอร์การประปาที่ท่านเคยใช้ ไม่ใช่เบอร์หรือลิงก์ในข้อความ)

บทสรุป

การป้องกันภัยออนไลน์ที่สำคัญที่สุดคือ การชะลอความเร็ว และ การตั้งคำถาม มิจฉาชีพสร้างสถานการณ์ให้ท่านรู้สึกกลัวหรือโลภ เพื่อให้ท่านรีบดำเนินการอย่างขาดสติ โปรดจำไว้ว่า การคลิกที่ลิงก์จะไม่ทำให้ท่านปลอดภัย แต่การตรวจสอบและปรึกษาหารือจะช่วยรักษาเงินของท่านไว้ได้

หากท่านตกเป็นเหยื่อแล้ว หรือมีข้อสงสัยใด ๆ สามารถโทรปรึกษา ศูนย์ AOC 1441 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ที่มาของข้อมูล: บทความนี้รวบรวมข้อมูลและรูปแบบการหลอกลวงจากรายงานของศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ (AOC 1441), สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, และกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.)