“มิจ” ในคราบ “มิตร” : กลโกงหลอกขายบัตรคอนเสิร์ต

ในยุคที่ทุกอย่างเชื่อมต่อกันด้วยเทคโนโลยี ความสัมพันธ์ระหว่างกันก็เกิดขึ้นง่ายดายบนโลกออนไลน์ รวมถึงภัยคุกคามทางไซเบอร์ในรูปแบบใหม่ ๆ ด้วย และหนึ่งในนั้นก็คือ "การหลอกขายบัตรคอนเสิร์ต" 

เมื่อกดซื้อบัตรไม่ได้ ในฐานะติ่งหรือแฟนคลับตัวยง ก็ต้องพยายามหาบัตรจากคนที่มีและต้องการขายต่อให้ได้เร็วที่สุด ไม่ว่าจะโพสต์ขอซื้อบัตร หรือค้นหาคนที่กดบัตรได้แล้วต้องการขายต่อด้วยเหตุผลต่าง ๆ แต่จะเชื่อใจได้อย่างไรว่าคนที่คุณติดต่อด้วยนั้น มีบัตรคอนเสิร์ตที่คุณต้องการอยู่จริง พวกเขาอาจมาในคราบของเพื่อนทางออนไลน์ที่มีความชอบในศิลปินคนเดียวกัน แต่เบื้องหลังมีแผนการที่วางไว้อย่างแยบยลเพื่อหลอกเงินคุณก็เป็นได้

จาก "เพื่อนร่วมอุดมการณ์" สู่ "มิจฉาชีพในคราบมิตร"

กลโกงเหล่านี้ไม่ได้ใช้เทคนิคที่ซับซ้อน แต่ใช้ความต้องการของคุณเป็นเครื่องมือหลัก พวกนักต้มตุ๋นอาจจะเข้ามาทักคุณในฐานะคนที่มีบัตร และอยากแบ่งปันให้กับคนที่มีความคลั่งไคล้ในศิลปินคนเดียวกัน หรืออาจมาด้วยมุกต่าง ๆ เช่น กดบัตรให้เพื่อน แต่เพื่อนไปด้วยไม่ได้แล้ว โดยใช้เทคนิคคือ

  • สวมรอย: มิจฉาชีพจะอ้างเป็นเจ้าของบัตรที่แท้จริง แต่ความจริงแล้วพวกเขาแค่หลอกซื้อบัตรจากคนอื่นไว้ก่อน แล้วนำข้อมูลของคนขายตัวจริงไปใช้หลอกคุณ เมื่อหลอกขายบัตรสำเร็จ ก็จะยกเลิกการซื้อบัตร เพื่อจะได้ไม่ต้องจ่ายเงินให้ใคร แถมยังได้เงินจากคนที่หลงเชื่อและโอนเงินค่าบัตรมาให้อีกต่างหาก
  • สร้างความน่าเชื่อถือ: พวกเขาจะส่งหลักฐานที่ได้จากเจ้าของบัตรตัวจริงให้คุณ ไม่ว่าจะเป็นรูปบัตรประชาชนหรือรูปบัตรคอนเสิร์ตที่คุณต้องการ เพื่อให้คุณตายใจว่า กำลังคุยกับคนที่เป็นเจ้าของบัตรจริง ๆ
  • ใช้ความอยากเป็นเครื่องมือ: พวกเขาจะเสนอราคาที่สูงกว่าปกติ และบอกว่ามีหลายคนสนใจ เพื่อให้คุณรู้สึกว่านี่คือโอกาสสุดท้ายในการได้บัตรไปดูคอนเสิร์ตศิลปินในดวงใจ และกระตุ้นให้ตัดสินใจโอนเงินทันที

เมื่อคุณโอนเงินไปแล้ว พวกเขายังคงไม่หนีไปไหน แต่กลับชวนคุยเรื่องศิลปินที่คุณชื่นชอบเหมือนว่าเป็นติ่งคอเดียวกัน และสร้างความสนิทสนมในฐานะเพื่อนทางออนไลน์ไปเรื่อย ๆ และมักจะนัดรับบัตรในวันงาน เพื่อให้คุณไหวตัวได้ช้าที่สุด และใช้โอกาสนี้หลอกเหยื่อรายอื่น ๆ ด้วยวิธีเดียวกัน

สร้างภูมิคุ้มกัน: 3 ขั้นตอนสำคัญเพื่อไม่ตกเป็นเหยื่อ

เราไม่สามารถหยุดยั้งอาชญากรรมในโลกดิจิทัลได้ แต่สามารถสร้างเกราะป้องกันตัวเองได้

  1. ตรวจสอบให้รอบด้าน: อย่าเชื่อแค่รูปภาพที่ได้รับจากอีกฝ่าย ควรขอข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อยืนยันตัวตน เช่น การถ่ายรูปคู่กับบัตรประชาชนในท่าทางที่คุณกำหนดเอง, นำชื่อ-นามสกุล และเลขที่บัญชีไปตรวจสอบประวัติในเว็บไซต์ blacklistseller.com ก่อนโอนเงิน รวมถึงเช็กบัญชีโซเชียลมีเดียของคนที่ขายบัตรให้คุณจากหลาย ๆ ช่องทางว่ามีประวัติการโกงหรือถูกร้องเรียนหรือไม่
  2. รู้เท่าทันบัตรจริง-บัตรปลอม: ศึกษาลักษณะของบัตรคอนเสิร์ตที่คุณจะซื้อ ดูว่าบัตรจริงมีจุดสังเกตอะไรบ้าง มีเลขที่นั่งซ้ำกับคนอื่นบนโลกออนไลน์หรือไม่ (กรณีมีคนโพสต์ขายบัตรพร้อมเลขที่นั่ง) เพื่อป้องกันบัตรปลอม หรือการนำภาพบัตรคนอื่นมาแอบอ้าง
  3. นัดเจอและจ่ายเงินเมื่อได้รับบัตร: นี่คือวิธีที่ปลอดภัยที่สุด แม้จะดูเป็นเรื่องยุ่งยาก แต่ก็คุ้มค่าในการทำ เพราะถ้าบริสุทธิ์ใจ และคุณก็ยอมจ่ายในราคาที่สูง ก็ถือว่าเป็นการแลกเปลี่ยนที่ต่างฝ่ายต่างได้ประโยชน์และความสบายใจ

บนโลกออนไลน์ที่เราไม่รู้ว่าใครเป็นใคร ความรอบคอบ คือสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้รอดพ้นจากการตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ เพราะในท้ายที่สุดแล้ว ความสุขที่แท้จริงไม่ใช่แค่การได้ดูคอนเสิร์ต แต่คือการที่คุณไม่ได้เสียทั้งเงินและความรู้สึกที่ดีไปอย่างเปล่าประโยชน์