การใช้และการจัดการคุกกี้
ธนาคารมีการใช้เทคโนโลยี เช่น คุกกี้ (cookies) และเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกันบนเว็บไซต์ของธนาคาร เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น โปรดอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ นโยบายการใช้คุกกี้ของธนาคาร
ระวัง! มิจลอกคราบ กวาดเงินเกลี้ยงบัญชี
ภัยไซเบอร์ไม่ได้มาในรูปแบบเดิม ๆ อีกต่อไป ล่าสุดมิจฉาชีพสวมบทเป็น “เจ้าหน้าที่ธนาคาร” โทรหาลูกค้า พร้อมใช้น้ำเสียงสุภาพและคำพูดที่เป็นทางการ สร้างความน่าเชื่อถือลวงเหยื่อให้ตายใจ โดยแจ้งให้อัปเดตข้อมูลหรือเปลี่ยนภาษาในแอปธนาคารออนไลน์เพื่อความปลอดภัยของบัญชี แต่แท้จริงแล้ว ทุกขั้นตอนคือกลลวงที่หลอกให้เจ้าของบัญชีโอนเงินออกไปให้มิจฉาชีพด้วยตัวเอง
โจรในคราบเจ้าหน้าที่ มิจจี้มามุกใหม่
สำหรับวิธีหลอกลวงของมิจฉาชีพนั้น เริ่มด้วยการสวมบทบาทเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคาร โทรเข้ามาแจ้งเตือนด้วยประโยคที่สร้างความตื่นตระหนก เช่น บัญชีของคุณมีความเสี่ยง! จำเป็นต้องทำตามขั้นตอนทันทีเพื่อความปลอดภัย พร้อมหว่านล้อมโดยการอ้างกฎระเบียบต่าง ๆ อย่างน่าเชื่อถือ เมื่อเหยื่อตกใจเพราะกลัวเงินหายก็มักจะรีบทำตามคำสั่งโดยไม่ทันไตร่ตรอง
กับดักโจรที่ดูเหมือนจริง
หลังจากนั้นโจรจะแนะนำให้เหยื่อเข้าแอปธนาคาร แล้วกดเปลี่ยนภาษาจากภาษาไทยเป็นภาษาอังกฤษ หรือตั้งค่าข้อมูลใหม่เพื่อความปลอดภัย จากกนั้นเร่งให้ทำตามขั้นตอน ทำให้เหยื่อไม่ได้อ่านรายละเอียดอย่างชัดเจน และทำรายการตามคำสั่งไปเรื่อย ๆ โดยเชื่อว่าเป็นการตั้งค่าตามมาตรการความปลอดภัย ซึ่งสิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือ การที่เหยื่อมั่นใจว่ากำลังปกป้องบัญชีของตัวเอง ทั้งที่จริงกำลังเดินเข้าสู่หลุมพรางที่อาจทำให้สูญเสียเงินได้ในพริบตา เหยื่อบางคนรู้ตัวอีกที เงินที่เก็บมาทั้งชีวิตก็หายไปจนเกลี้ยงบัญชี
4 วิธีกันภัยมุกใหม่โจร
1.รู้ทัน ไม่หลงเชื่อกลลวงของมิจฉาชีพ ธนาคารไม่มีนโยบายแจ้งให้ลูกค้าเปลี่ยนภาษาหรืออัปเดตข้อมูลส่วนตัวผ่านทางโทรศัพท์
2.เอ๊ะทันทีที่มีสายเข้าในลักษณะนี้ แม้ปลายสายจะพูดจาสุภาพหรือมีข้อมูลบางอย่างตรงกับความจริง ก็ไม่ควรหลงเชื่อ เพราะมิจฉาชีพมักใช้สิ่งเหล่านี้เป็นเครื่องมือสร้างความน่าเชื่อถือ แต่หากสงสัยว่าบัญชีมีปัญหาจริงหรือไม่ ควรตรวจสอบข้อมูลโดยตรงผ่าน Call Center ของธนาคาร
3.ไม่รีบ กลโกงต่าง ๆ มักใช้ “ความเร่งรีบ” เป็นอาวุธสำคัญ และใช้วิธีบอกเหยื่อให้ทำทันที ไม่งั้นบัญชีจะถูกระงับ หรือเงินจะหาย หากเราไม่รีบทำตาม แต่หยุดตั้งสติ จะลดโอกาสตกหลุมพรางได้มาก
4.ไม่โอน หยุดทุกครั้งที่ได้รับสายให้ทำธุรกรรมตามคำสั่ง ไม่โอนเงิน ไม่สแกน QR Code และไม่ทำรายารใด ๆ ตามที่ปลายสายบอก เพราะทุกขั้นตอนอาจเป็นการโอนเงินออกจากบัญชีของเราเอง
กลโกงมิจฉาชีพในคราบเจ้าหน้าที่ธนาคาร ไม่ได้อาศัยเทคนิคซับซ้อน แต่อาศัย จิตวิทยา ความกลัว และความเร่งรีบ โดยมิจฉาชีพที่สวมบทเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารมักจะใช้คำว่า “เพื่อความปลอดภัย” หลอกให้เหยื่อคล้อยตามได้ง่ายขึ้น ดังนั้น การป้องกันที่ดีที่สุดหลังจากได้รับสายประเภทนี้คือ การตั้งสติ เอ๊ะและตรวจสอบทุกครั้ง เพราะเพียงการกดตามคำสั่งโดยไม่ทันระวัง อาจทำให้เราต้องสูญเสียเงินได้ภายในไม่กี่นาที
ข้อมูลอ้างอิง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ