อย่าหลงเชื่อเสียงปลายสาย! สุดท้ายอาจเป็นมิจฉาชีพ

ทุกวันนี้ “สายเรียกเข้าปริศนา” กลายเป็นกับดักที่ผู้สูงอายุหลายคนเจอแทบทุกวัน เสียงปลายสายพูดจานุ่มนวล บางครั้งแอบอ้างว่าเป็น “เจ้าหน้าที่ธนาคาร” “ตำรวจ” หรือ “กรมสรรพากร” พูดเร็ว พูดเยอะ และใช้คำที่ทำให้คนฟังตกใจ เช่น “บัญชีของคุณกำลังถูกใช้ทำผิดกฎหมาย” หรือ “จะถูกอายัดเงินภายใน 10 นาที” พอได้ยินแบบนั้น ใคร ๆ ก็ตกใจและเผลอทำตามคำสั่งของมิจฉาชีพได้ง่าย ๆ

กลโกงยอดฮิตที่มักใช้หลอกผู้สูงอายุ

  1. โทรแอบอ้างเป็นหน่วยงานรัฐหรือธนาคาร
    มิจฉาชีพจะใช้เสียงจริงจังเหมือนเจ้าหน้าที่ โดยอ้างอิงข้อมูลส่วนตัวของเราอย่างถูกต้อง และสร้างเรื่องหลอกลวงให้เหยื่อหลงเชื่อ โดยเป้าหมายคือนำเงินเหยื่อออกจากบัญชีด้วยวิธีการใดวิธีการหนึ่ง
  2. อ้างว่าลูกหลานเกิดอุบัติเหตุ ต้องใช้เงินด่วน
    เป็นกลโกงที่เล่นกับความรักของผู้สูงอายุ เสียงปลายสายอาจทำเสียงร้องไห้หรือพูดลนลานว่า “คุณแม่ช่วยโอนเงินให้หน่อย” ถ้าไม่ตั้งสติ ก็อาจรีบโอนไปทันทีโดยไม่ทันตรวจสอบ
  3. โทรหลอกให้โหลดแอปหรือกดลิงก์
    บางรายจะอ้างว่าเป็นพนักงานขนส่งหรือบริษัทมือถือ ขอให้ “โหลดแอปเพื่อตรวจสอบสถานะพัสดุ” แต่จริง ๆ แล้วเป็นแอปดักข้อมูล ที่สามารถดูรหัสธนาคารหรือควบคุมเครื่องได้เลย

วิธีสังเกตว่า “เสียงปลายสาย” อาจไม่ใช่ของจริง

  • ใช้คำพูดเร่งรีบ เช่น “ต้องรีบโอนภายใน 10 นาที”
  • พูดให้ตกใจหรือกลัว เช่น “จะถูกอายัดบัญชี”
  • ขอข้อมูลส่วนตัว เช่น เลขบัตรประชาชนหรือรหัส OTP
  • พูดเหมือนอัดเสียงหรืออ่านจากสคริปต์ ไม่มีอารมณ์ธรรมชาติ

หากเจอแบบนี้ อย่าเพิ่งตอบตกลงหรือให้ข้อมูลใด ๆ ให้วางสายทันที แล้วโทรกลับไปยังหน่วยงานจริงด้วยตัวเอง เช่น เบอร์ Call Center จากธนาคารต่าง ๆ หรือเบอร์สายด่วนของสำนักงานนั้น ๆ

วิธีป้องกันตัวง่าย ๆ สำหรับผู้สูงอายุ

  1. ตั้งสติทุกครั้งที่มีสายโทรมาเรื่องเงิน
    ถ้ามีใครบอกให้โอนเงิน อย่าเพิ่งทำตาม ให้โทรถามลูกหลานหรือคนไว้ใจได้ก่อนเสมอ
  2. ไม่กดลิงก์ ไม่โหลดแอปจากคนแปลกหน้า
    โดยเฉพาะลิงก์ใน SMS หรือข้อความไลน์จากคนที่ไม่รู้จัก
  3. บันทึกเบอร์สำคัญไว้ในเครื่อง
    เช่น เบอร์ธนาคาร เบอร์เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ เวลาโดนโทรมาจะได้เทียบว่าเป็นเบอร์จริงหรือไม่
  4. เล่าให้คนรอบตัวฟัง
    การแชร์เรื่องที่เจอจะช่วยเตือนคนอื่นไม่ให้ตกเป็นเหยื่อเช่นกัน

ถ้าเผลอโอนไปแล้ว ทำอย่างไรดี ?

อย่าตกใจ! รีบทำตามขั้นตอนนี้ทันที:

  1. โทรแจ้งธนาคารเพื่อ “อายัดบัญชี”
  2. เก็บหลักฐาน เช่น หมายเลขบัญชีปลายทาง สลิปโอนเงิน และข้อความสนทนา
  3. แจ้งสายด่วน ตำรวจไซเบอร์ 1441 หรือเว็บไซต์ www.thaipoliceonline.com

ยิ่งแจ้งเร็ว โอกาสได้เงินคืนก็ยิ่งมาก

มิจฉาชีพยุคนี้ไม่ได้ใส่หน้ากาก แต่มาในรูปเสียงปลายสายที่ดูน่าเชื่อถือ “ไม่ว่าใครจะพูดอย่างไร ถ้าเกี่ยวกับเงิน ต้องหยุดคิดก่อนโอน” การตั้งสติและตรวจสอบให้แน่ใจคือเกราะป้องกันที่ดีที่สุดสำหรับผู้สูงอายุทุกคน