การใช้และการจัดการคุกกี้
ธนาคารมีการใช้เทคโนโลยี เช่น คุกกี้ (cookies) และเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกันบนเว็บไซต์ของธนาคาร เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น โปรดอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ นโยบายการใช้คุกกี้ของธนาคาร
สูตรไม่ลับ ป้องกันโกง
ในยุคที่ข้อมูลคือทองคำ… ใครที่ไม่ระวัง ก็อาจถูกขุดได้ง่ายกว่าที่คิด
ในอดีต คนโกงต้องลงทุนลงแรง ต้องเสี่ยง แต่วันนี้มันอยู่ในมือถือ อยู่ในโฆษณาที่เรากด อยู่ในคอมเมนต์ที่เราอ่าน และบางทีก็อยู่ในข้อความที่ดูเหมือนมาจากคนที่เราไว้ใจ การรู้เท่าทันกลโกงจึงเป็นเกราะชั้นดี ช่วยให้ไม่ตกหลุมพรางของใครง่าย ๆ
1. ลิงก์เดียว อาจเปลี่ยนชีวิตได้
ทุกวันนี้ เราเจอลิงก์มากมายในแต่ละวัน ทั้งที่ส่งมาจากธนาคาร หน่วยงานรัฐ หรือโฆษณา และทุกอย่าง มิจฉาชีพสามารถปลอมได้หมด ตั้งแต่ชื่อเพจ โลโก้ ไปจนถึงหน้าเว็บ บางเว็บเหมือนจริงจนแยกไม่ออก หากหลงเชื่อ กดลิงก์เข้าไปกรอกข้อมูลหรือรหัสผ่าน ก็เหมือนการยื่นกุญแจบ้านให้โจร แย่ไปกว่านั้นอาจโดนมัลแวร์แอบขโมยข้อมูลการเงิน กว่าจะรู้ตัวก็อาจสายไปแล้ว
วิธีป้องกัน : ก่อนจะกดลิงก์อะไรก็ตาม ถ้าไม่แน่ใจ โทรเช็กกับเบอร์กลางของหน่วยงานนั้นโดยตรง เพราะไม่กี่วินาทีของการโทร อาจช่วยป้องกันความเสียหายที่ต้องใช้เวลาหลายเดือนกว่าจะตามกลับมาได้
2. QR Code ก็เหมือนลิงก์ อย่าคิดว่าปลอดภัยกว่า
หลายคนไม่รู้ว่า “QR Code ปลอม” สามารถพาไปยังเว็บอันตรายได้เหมือนลิงก์ บางเว็บหลอกให้ติดตั้งแอป บางเว็บขอข้อมูลส่วนตัว หรือบางครั้งแค่สแกน ก็เปิดช่องให้แฮ็กเกอร์เข้ามาควบคุมเครื่องเราได้
วิธีป้องกัน : เลือกสแกนเฉพาะที่มาจากแหล่งที่ไว้ใจได้ ถ้าเจอ QR Code ในที่สาธารณะที่ดูน่าสนใจเกินจริง เช่น แจกของฟรี ลุ้นรางวัลใหญ่ หรือเชิญชวนร่วมกิจกรรม อย่าเสี่ยงสแกนเพราะ “ของฟรี” อาจทำให้ต้องเสียเงินจริง
3. เบอร์ไม่คุ้น ต้องระวัง โทรมาหาเราทำไม?
เสียงปลายสายที่เรียกชื่อเราชัดเป๊ะ มีข้อมูลส่วนตัวครบ แถมยังบอกว่าเราทำผิดกฎหมาย หรือเสียงอ่อนหวานที่แจ้งว่ามีรางวัลให้รับ สุดท้ายจบที่ “ต้องโอนเงิน” หรือ “ต้องโหลดแอป” ทั้งหมดคือ “สูตรสำเร็จ” ของการหลอกลวง
วิธีป้องกัน : เช็กก่อนเสีย ดีกว่าเชื่อก่อนพัง หน่วยงานรัฐหรือธนาคาร จะไม่โทรมาขอให้โอนเงิน หรือดาวน์โหลดแอปเพิ่ม ถ้าเจอแบบนี้ ให้วางสาย แล้วโทรกลับไปเช็กกับเบอร์กลางของหน่วยงาน หรือองค์กรนั้น ๆ โดยตรง
4. โฆษณาในโลกออนไลน์ ไม่ได้แปลว่า “ของจริง”
ปัจจุบันใครก็ซื้อโฆษณาออนไลน์ได้ แถมมิจฉาชีพยังลงทุนจ้างหน้าม้ามาคอมเมนต์ หรือรีวิวให้ดูน่าเชื่อถือด้วย จุดสังเกตง่าย ๆ ถ้าเพจชวนให้ “ทัก inbox” ไม่ตอบในคอมเมนต์ หรือปิดไม่ให้แสดงความคิดเห็น นั่นคือสิ่งที่ต้องระวัง เพราะธุรกิจที่โปร่งใส ไม่กลัวคำถาม แต่ของปลอม จะกลัวคนจับไต๋ได้ ว่ามันไม่จริง
วิธีป้องกัน : ซื้อขายกับแพลตฟอร์มที่น่าเชื่อถือ มีระบบคืนเงินหากได้สินค้าไม่ตรงปกจะดีที่สุด เพราะอะไรที่ตรวจสอบหรือพิสูจน์ไม่ได้ว่าจริงหรือไม่ แท้หรือปลอม ไม่คุ้มที่จะเสี่ยง
5. กลโกงแนวใหม่: ชวนทำงานออนไลน์ / ลงทุนผลตอบแทนสูง
ช่วงหลัง มิจฉาชีพปรับกลยุทธ์ใหม่ แทนที่จะขู่หรือหลอกให้กลัว มาเป็น “ให้โอกาส”
“งานง่าย รายได้ดี”
“ลงทุนครั้งเดียว กำไรทุกวัน”
“มีคนจริงมารีวิว ว่าถอนได้จริง”
ทั้งหมดนี้คือ “สคริปต์” ที่ถูกใช้ซ้ำแล้วซ้ำอีก เป้าหมายไม่ใช่ให้คุณรวย แต่ให้คุณมาติดกับดัก ยิ่งถ้าถูกชวนเข้ากลุ่มแชต หรือให้โหลดแอปเพิ่ม นั่นคือสัญญาณชัดเจนว่าไม่ปลอดภัย
วิธีป้องกัน : จำไว้เสมอ อะไรที่ทำให้คนรวยได้ง่าย ๆ ไม่มีอยู่จริง ที่สำคัญอย่าให้ข้อมูลส่วนตัว อย่าส่งเอกสารสำคัญ เพราะมันอาจถูกใช้ทำเรื่องที่เราไม่รู้ ไม่เกี่ยว และไม่อยากให้เกิดขึ้น
6. คอมเมนต์ปลอม คือหน้าม้าที่มาเสริมทัพ
ทุกวันนี้ “หน้าม้าออนไลน์” มีอยู่ทุกที่ แถมเก่งพอ ๆ กับนักแสดงมืออาชีพ บางคอมเมนต์ปลอมตัวเป็นคนเคยโดนหลอก แล้วมาเตือนให้คนอื่นหลีกเลี่ยง แต่กลับพาไปเจอมิจฉาชีพอีกราย บางคอมเมนต์อ้างว่าช่วยตามเงินคืนได้ หรืออ้างว่าเป็นแอดมินโดยใช้ชื่อ และรูปโปรไฟล์เลียนแบบก็มี และแน่นอน...จะมีค่าธรรมเนียมที่คุณต้องจ่าย หรือไม่ก็หลอกถามข้อมูลส่วนตัวของคุณ เพื่อนำไปใช้ทำสิ่งผิดกฎหมาย
วิธีป้องกัน : อย่าเชื่อคำอ้างที่เข้ามาช่วยเหลือใด ๆ ในทันที ทุกอย่างมีขั้นตอน และไม่มีทางลัด ใครเรียกเก็บเงิน ถามข้อมูลส่วนตัวมากเกินจำเป็น หรืออ้างว่าแนะนำคนช่วยเหลือให้ได้ นั่นคือคนที่คุณต้องระวังที่สุด
7. แอปดีต้องมีที่มา
แอปที่ส่งลิงก์มาให้ดาวน์โหลด อาจไม่ใช่แอปจริง บางแอปหน้าตาเหมือนของจริงที่เราดูคุ้นเคย แต่ข้างในคือ “ช่องทางดูดข้อมูล”
วิธีป้องกัน : ดาวน์โหลดแอปจาก Official Store จะปลอดภัยกว่า เช่น App Store, Google Play แต่ทางที่ดี แม้จะมาจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ เพื่อความไม่ประมาท ควรเช็กข้อมูลของผู้พัฒนาแอปก่อนดาวน์โหลดด้วยว่าตรงกับองค์กรที่ถูกอ้างถึงหรือไม่
มิจฉาชีพไม่ได้เก่งกว่าเรา แต่แค่รู้ว่าคนส่วนใหญ่กลัวอะไร อยากได้อะไร ถ้าเราช้าลงนิด ตั้งสติให้ทัน ไม่กด ไม่เชื่อ ไม่โอนเร็ว เราก็จะจับไพ่ทันในเกมที่พวกเขาคิดว่าควบคุมอยู่ เพราะในยุคดิจิทัล คนที่รอด ไม่ใช่คนที่รู้มากที่สุด แต่คือคนที่ไม่ประมาทในการใช้ชีวิต