Mandarava Resort & Spa  โรงแรมที่ก่อตั้งขึ้นจากธุรกิจครอบครัวเมื่อกว่า 13 ปีก่อน ด้วยความเชื่อว่าการพักผ่อนที่แท้จริง คือ การได้อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ และการท่องเที่ยวจะมีความหมาย ก็ต่อเมื่อมันไม่ได้ทำลายสิ่งที่เป็นรากเหง้าของท้องถิ่น

“เราตั้งใจให้แขกเข้ามาแล้วรู้สึกว่าเหมือนได้กลับไปอยู่กับธรรมชาติจริง ๆ” คุณเต็ม คุณชนินันท์ กุลวานิช   กรรมการ บริษัท กะรนโนเวลที่ จำกัด  ผู้บริหารโรงแรม เล่าด้วยน้ำเสียงเรียบง่าย แต่ซ่อนพลังของความมุ่งมั่นไว้อย่างชัดเจน

เมื่อความยั่งยืนไม่ใช่แค่เทรนด์

คำว่า “Sustainability” หรือ “ความยั่งยืน” ถูกพูดถึงอยู่ทั่วโลก แต่สำหรับ Mandarava ไม่ใช่แค่คำสวยหรูที่ใช้ในสื่อโฆษณา หากแต่เป็นหลักปฏิบัติที่แทรกซึมอยู่ในทุกโมเมนต์ของโรงแรม ตั้งแต่การเลือกวัสดุที่ใช้ในห้องพักแขก ไปจนถึงวิธีการจัดการน้ำเสีย

“ที่นี่เลิกใช้หลอดพลาสติก ให้ซัพพลายเออร์ส่งของโดยเปลี่ยนจากถุงพลาสติกไปเป็นคอนเทนเนอร์  ลดการใช้บรรจุภัณฑ์แบบครั้งเดียวทิ้ง และหันมาสนับสนุนสินค้าท้องถิ่นอย่างชา กาแฟ ไปจนถึงกระเป๋าจักสานจากผักตบชวาของชาวบ้านพัทลุง   อย่างเศษอาหารจากบุฟเฟต์จะถูกนำมาหมักเป็นปุ๋ยให้กับต้นไม้นับร้อยต้นในรีสอร์ท แทนที่จะกลายเป็นขยะที่ถูกทิ้งโดยไร้ค่า” คุณเต็มกล่าว

นอกจากนี้  Mandarava Resort & Spa มุ่งมั่นดำเนินงานเรื่องความยั่งยืนมาอย่างยาวนาน ผ่านการบริหารจัดการที่คำนึงถึงโลกใบนี้ในทุกมิติ  ได้แก่

• การอนุรักษ์พลังงาน – ใช้หลอดไฟ LED เครื่องใช้ไฟฟ้าประหยัดพลังงาน พร้อมเชิญชวนแขกร่วมโครงการประหยัดพลังงานอย่างการใช้ผ้าเช็ดตัวซ้ำ
• การจัดการน้ำ – ติดตั้งอุปกรณ์ประหยัดน้ำ ใช้พืชพื้นเมืองที่ทนแล้ง และมีการตรวจสอบการรั่วไหลอย่างสม่ำเสมอ
• การลดขยะและรีไซเคิล – จัดโครงการรีไซเคิล ลดการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว และทำปุ๋ยหมักจากเศษอาหาร
• การจัดซื้ออย่างยั่งยืน – เน้นการเลือกวัตถุดิบจากท้องถิ่น คัดเลือกซัพพลายเออร์ที่มีมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม และใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ปลอดภัยต่อโลก
• การมีส่วนร่วมกับชุมชน – ทำงานร่วมกับองค์กรอนุรักษ์ท้องถิ่น และจัดเวิร์คช็อปเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจเรื่องสิ่งแวดล้อมให้กับแขกและพนักงาน
• การปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพ – รักษาพื้นที่สีเขียว ใช้พืชพื้นเมือง ลดผลกระทบต่อสัตว์ป่าในพื้นที่
• การพัฒนาอย่างต่อเนื่อง – ทบทวนและตั้งเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมอยู่เสมอ พร้อมเปิดรับฟังข้อเสนอแนะจากลูกค้า
• แนวทางก่อสร้างสีเขียว – ใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ออกแบบให้ใช้แสงธรรมชาติและการระบายอากาศเพื่อลดพลังงาน
• การเดินทางอย่างยั่งยืน – ส่งเสริมการใช้เส้นทางเดินเท้า และรถกอล์ฟรับส่งไฟฟ้าเพื่อลดการปล่อยคาร์บอน

และโรงแรมยังริเริ่มเรื่องห้องพักรักษ์โลกที่ประหยัดพลังงานและใช้เฟอร์นิเจอร์ยั่งยืน สปาสีเขียวที่เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกจากธรรมชาติ และแนวคิดอาหารยั่งยืน ด้วยการนำ Farm-to-Table จากวัตถุดิบท้องถิ่นมาให้บริการกับลูกค้าที่โรงแรม

ได้เวลาคืนบางสิ่งให้กับโลก

ในวันที่คำว่า “Green Hotel Plus” กลายเป็นมาตรฐานใหม่ของธุรกิจการท่องเที่ยว  ซึ่งโครงการ Green Hotel Plus เป็นการยกระดับมาตรฐาน “โรงแรมสีเขียว” ของไทยให้ก้าวสู่ระดับสากล พัฒนาโดย กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม โดยอ้างอิงเกณฑ์ Global Sustainable Tourism Criteria (GSTC) ร่วมกับเกณฑ์ Green Hotel ของไทย

เป้าหมายไม่ใช่แค่โรงแรมที่ประหยัดพลังงานหรือลดพลาสติก แต่คือการสร้างระบบบริหารจัดการที่ครอบคลุมทั้ง สิ่งแวดล้อม สังคม และเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน เพื่อให้ธุรกิจโรงแรมไทยแข่งขันได้ในเวทีโลก และตอบโจทย์การท่องเที่ยวที่ให้คุณค่า “ความยั่งยืน” พอ ๆ กับ “ความสะดวกสบาย”

และ  Mandarava  ก็คือ 1 ใน 3 โรงแรมเพียงไม่กี่แห่งในจังหวัดภูเก็ต ที่สามารถผ่านการรับรองนี้ได้สำเร็จ ความหมายของมันไม่ใช่แค่โลโก้เล็ก ๆ ที่ติดบนเว็บไซต์ แต่คือ การยืนยันว่า โรงแรมของคนท้องถิ่นแห่งนี้ มุ่งมั่นอย่างจริงจังในการลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ ประหยัดพลังงาน และได้สร้างประโยชน์คืนให้กับชุมชน สังคมรอบข้างมาอย่างยาวนาน “เราอยากให้แขกมาเที่ยว แล้วได้รู้สึกว่าพวกเขาก็มีส่วนช่วยโลกด้วย” คุณเต็มกล่าว

วิสัยทัศน์ที่มองไกล  มากกว่ากำไร คือ การสร้างความยั่งยืน  คืนสู่ชุมชน

อนาคตของ Mandarava ไม่ได้หยุดอยู่ที่การเลิกใช้พลาสติก หรือการจัดกิจกรรมเก็บขยะชายหาด แต่  Mandarava กำลังวางแผนติดตั้งโซลาร์รูฟเพื่อลดการใช้พลังงานไฟฟ้า และเปลี่ยนจากน้ำดื่มบรรจุขวดพลาสติกมาเป็นขวดแก้วรีฟิลที่แขกสามารถเติมได้เองตามจุดต่าง ๆ

นอกเหนือจากสิ่งแวดล้อม Mandarava ยังให้ความสำคัญกับการสนับสนุนงานฝีมือท้องถิ่น ตั้งแต่จานเซรามิกจากภาคเหนือไป จนถึงกระเป๋าถือไปชายหาดที่ถักด้วยมือ เพื่อสะท้อนให้เห็นว่าวัฒนธรรมและชุมชน คือ หัวใจสำคัญของการท่องเที่ยวที่แท้จริง

SCB พันธมิตรที่พร้อมเคียงข้าง

ในด้านความร่วมมือ  Mandarava  มีพันธมิตรที่แข็งแกร่งที่พร้อมให้การสนับสนุนนั่นคือ  SCB ซึ่งมีผลิตภัณฑ์สินเชื่อเพื่อความยั่งยืน รวมถึงการจัดสัมมนาให้ความรู้ด้านความยั่งยืนแก่ผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมอย่างต่อเนื่อง  ทำให้ Mandarava มองเห็นทางเลือกใหม่ ในการพัฒนาโรงแรมของตนเองในอนาคต

“อยากให้มองว่าการทำธุรกิจอย่างยั่งยืน เป็นการลงทุนในระยะยาวมากกว่าระยะสั้น  แม้ในตอนแรกเราอาจจะต้องใส่เงินทุนสักหน่อย แต่ในระยะยาว เราจะเห็นผลที่น่าภาคภูมิใจ ที่สร้างกำไรทั้งต่อธุรกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อมด้วยค่ะ”     คุณเต็ม กล่าวจบพร้อมรอยยิ้ม 

เรื่องราวของ  Mandarava Resort & Spa  แสดงให้เห็นว่า “ความยั่งยืน”  ไม่ใช่เพียงกลยุทธ์ทางการตลาด แต่คือ รากฐานที่ทำให้ธุรกิจเดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคง

รีสอร์ทแห่งนี้อาจเป็นเพียงโรงแรมท่ามกลางธรรมชาติของภูเก็ต แต่สิ่งที่พวกเขาทำกำลังสะท้อนเสียงไปไกลกว่านั้น ว่าการท่องเที่ยวกับการดูแลโลก สามารถอยู่ร่วมกันได้จริง และนี่อาจเป็นบทพิสูจน์สำคัญว่าความฝันเล็ก ๆ ของธุรกิจครอบครัว สามารถกลายเป็นแรงบันดาลใจที่ยิ่งใหญ่ให้กับทั้งอุตสาหกรรมโรงแรมได้อย่างยั่งยืนอีกด้วย  

ชวนมาพักผ่อน สัมผัสบรรยากาศธรรมชาติ พร้อมดื่มด่ำกับประสบการณ์อันหรูหรา ควบคู่ไปกับการรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ที่ Mandarava Resort & Spa ภูเก็ต ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่  https://www.mandaravaresort.com/  หรือ  https://www.facebook.com/mandaravaresort/