ช้อปเท่าที่ใช้ เลือกจ่ายเท่าที่จำเป็น

การซื้อสิ่งที่จำเป็นจริง ๆ นอกจากจะช่วยลดค่าใช้จ่ายแล้ว ยังช่วยให้เรานำของที่มีอยู่กลับมาใช้ได้อย่างคุ้มค่า และช่วยลดความยุ่งยากในการจัดเก็บสิ่งของพร้อมช่วยลดขยะได้อีกทางหนึ่งด้วย สำหรับวิธีเช็กว่าสิ่งที่เราจะซื้อจำเป็นหรือไม่นั้น ให้เริ่มจากการพิจารณาดูว่าเราไม่มีสิ่งนี้แล้วกระทบต่อการใช้ชีวิตหรือไม่ ลองเช็กว่าเรามีสิ่งของในลักษณะนี้หรือยัง หรือพอมีของชิ้นไหนที่คล้ายคลึงและสามารถใช้ทดแทนกันได้ ขั้นต่อไปลองให้เวลาในการตัดสินใจสักระยะ เพื่อหลีกเลี่ยงการซื้อเพราะการตลาดหรือการซื้อเพราะอารมณ์ชั่ววูบ แต่ให้คำนึงถึงความจำเป็น ความคุ้มค่า และเลือกสินค้าที่มีคุณภาพ แนวคิดนี้จะช่วยลดการซื้อซ้ำและประหยัดในระยะยาว แม้ของคุณภาพดีจะมีราคาสูงกว่าในตอนแรกแต่สามารถใช้ได้นานและไม่ต้องซื้อซ้ำบ่อย ๆ ทำให้เรานำเงินที่จะใช้ในการซื้อสินค้ามาเก็บสะสมเป็นเงินก้อน เพื่อนำไปใช้สำหรับสิ่งจำเป็น หรือเรื่องไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้นในชีวิตได้

How to ทิ้ง ตัดสิ่งที่เพิ่มรายจ่าย 

รายจ่ายบางอย่างไม่ได้สร้างความสุขหรือคุณค่าในระยะยาว การทบทวนรายจ่ายประจำและตัดสิ่งที่ไม่จำเป็นออกจะทำให้เรามีเงินเก็บมากขึ้นทันที  ลองเริ่มต้นที่การเช็กรายการหักชำระรายเดือนผ่านบัตรเครดิต บางครั้งเราอาจลืมไปว่าเคยสมัครสมาชิกรายเดือน/รายปีบางแอปเอาไว้ เมื่อไม่ได้ใช้งานก็อาจลืมยกเลิก เพราะจำนวนเงินที่ถูกหักไม่สูงจนเราลืมสังเกต  เช่น แอปแต่งรูปภาพ แอปเกม แอปสตรีมมิ่ง รวมถึงฟิตเนสที่เราไม่มีเวลาไปใช้บริการ หากเรายกเลิกสมาชิกต่าง ๆ ที่ไม่ได้ใช้อาจช่วยประหยัดได้หลักพันต่อเดือนเลยทีเดียว

ใช้เวลาทำกิจกรรมที่บ้าน สร้างความสุข

ความสุขไม่จำเป็นต้องมาพร้อมค่าใช้จ่ายสูง กิจกรรมง่ายๆ ที่ไม่ต้องเสียเงินก็สามารถเติมเต็มชีวิตได้ ทั้งยังช่วยเพิ่มคุณค่าให้กับตัวเอง เช่น การออกกำลังกาย ช่วยเพิ่มความฟิตแอนด์เฟิร์มให้ร่างกายได้ การอ่านหนังสือ การฟังพอดแคสต์ช่วยอัปเดตความรู้ใหม่ ๆ และช่วยพัฒนาความรู้และสร้างแรงบันดาลใจในการทำงาน การดูแลสุขภาพ หรือการทำธุรกิจได้   การทำอาหาร การปลูกต้นไม้ ช่วยเพิ่มความผูกพันในครอบครัว รวมถึงการใช้เวลากับน้องหมา น้องแมว สัตว์เลี้ยงแสนรักก็ช่วยให้เรามีความสุขฮีลใจจากความเครียดในการทำงานได้เหมือนกัน   

              การใช้ชีวิตตามเทรนด์ No Buy และ Low Buy  นั้นขึ้นอยู่กับเป้าหมายของแต่ละคน เราควรเลือกใช้ให้ตรงกับไลฟ์สไตล์และความต้องการของเราจริง ๆ เพื่อไม่ให้เกิดความตึงเครียดเกินไปในการใช้ชีวิต  สำหรับใครที่ชอบและสนใจแนวคิดนี้  การลองใช้ชีวิตตามเทรนด์ No Buy และ Low Buy  ก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการใส่ใจเรื่องการเงิน และเลือกใช้จ่ายเฉพาะสิ่งที่จำเป็น เน้นความคุ้มค่า และยั่งยืน  ทำให้ในแต่ละเดือนสามารถเพิ่มเงินเก็บในบัญชีให้มากขึ้นได้ โดยเราสามารถนำเงินเหล่านี้มาใช้ในการวางแผนการเงินเพื่ออนาคต และเพิ่มความอุ่นใจให้ชีวิต เช่น การรับความคุ้มครองชีวิต พร้อมเก็บเงินกับประกันทรัพย์พอร์ตทุกวัย* ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ที่มีเงินคืนทุกปี รับเงินคืนสูงสุด 14% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย มีค่ารักษาพยาบาลกรณีอุบัติเหตุระหว่างชำระเบี้ยประกันภัย  เมื่อครบกำหนดสัญญา รับเงินก้อน 900% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย และเพิ่มความคุ้มครองชีวิตกรณีเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ 200% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย และกรณีเสียชีวิตจากอุบัติเหตุสาธารณะ รับเพิ่มเป็น 400% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย โดยชำระเบี้ยฯ 9 ปี มอบความคุ้มครองยาวนาน ถึงอายุ 88 ปี สมัครง่าย ไม่ต้องตรวจสุขภาพ ไม่ต้องตอบคำถามสุขภาพ สนใจศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.scb.co.th/th/personal-banking/insurance/savings-insurance/support-took-wai

*คุ้มครองตั้งแต่อายุ 1 วัน – 88 ปี

หมายเหตุ:

• รับประกันภัยโดย บมจ. เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต 
• ธนาคารเป็นเพียงนายหน้าผู้ชี้ช่องให้ทำประกันภัยเท่านั้น 
• ผู้ซื้อควรทำความเข้าใจในรายละเอียด ความคุ้มครองและเงื่อนไขก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง 
• ผลประโยชน์ ความคุ้มครองและเงื่อนไขเป็นไปตามที่กรมธรรม์ และ บมจ. เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต กำหนด