ผลการค้นหา "{{keyword}}" ไม่ปรากฎแต่อย่างใด
การใช้และการจัดการคุกกี้
ธนาคารมีการใช้เทคโนโลยี เช่น คุกกี้ (cookies) และเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกันบนเว็บไซต์ของธนาคาร เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น โปรดอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ นโยบายการใช้คุกกี้ของธนาคาร
13-11-2568
ในยุคดิจิทัลที่ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็ว…
เราทำงานแข่งกับเวลา แต่เวลาที่ผ่านไปกลับทำให้ “ค่าเงิน” ของเราลดลงเงียบ ๆ
หลายคนตั้งใจทำงานหนักทุกวัน เพื่อให้มีเงินพอใช้ พอเก็บ แต่เมื่อมองดูบัญชีธนาคารกลับรู้สึกว่า “เงินไม่งอกเงยเลย” ทั้งที่พยายามเต็มที่แล้ว นี่อาจถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนจาก “การทำงานเพื่อหาเงิน” ไปสู่ “การให้เงินช่วยทำงานแทน”
เพราะสุดท้ายแล้ว ความมั่นคงไม่ได้เกิดจากแค่การมีรายได้ประจำ แต่มันเกิดจาก “รายได้ที่เติบโตได้” แม้ในวันที่เราไม่ได้ทำงานก็ตาม
ทำไมต้องให้เงินทำงานแทน ?
เงินที่เก็บไว้เฉย ๆ อาจดูปลอดภัย แต่ในความจริงกลับเสี่ยงกว่าที่เราคิด เพราะทุกปี “เงินเฟ้อ” ค่อย ๆ ลดค่าของเงินในบัญชีไปเรื่อย ๆ ของที่เคยซื้อได้ในราคา 100 บาท วันนี้อาจต้องใช้ 120 บาท ขณะเดียวกัน ดอกเบี้ยเงินฝากทั่วไปยังอยู่ในระดับต่ำ “การเก็บอย่างเดียว” จึงอาจไม่พอสำหรับการรักษามูลค่าเงินในระยะยาว
ในทางกลับกัน หากเราเริ่มให้เงิน “ทำงานแทน” ผ่านการลงทุน เงินก้อนเดิมก็มีโอกาสเติบโตได้ต่อเนื่องตามศักยภาพของสินทรัพย์ที่เลือกลงทุน แม้ในวันที่เราไม่ได้ทำงานแล้ว นี่แหละคือ “พลังของการให้เงินทำงานแทนเรา”
วิธีเริ่มต้นให้เงินทำงาน
การลงทุนในวันนี้ไม่ใช่เรื่องซับซ้อนอีกต่อไป คุณไม่จำเป็นต้องเป็นนักวิเคราะห์ ไม่ต้องมีเวลานั่งดูตลาดหุ้นทุกวัน เพราะมีเครื่องมือมากมายที่ช่วยให้เราเริ่มได้ง่ายขึ้นกว่าที่คิด โดยเฉพาะในช่วงที่หลายคนเพิ่งได้รับ “โบนัส” หรือมีเงินก้อนพิเศษ นี่คือจังหวะดีในการเปลี่ยนเงินที่นอนอยู่เฉย ๆ ให้กลายเป็น “เงินที่มีโอกาสสร้างรายได้กลับมา”
1. เริ่มง่าย ๆ ด้วยกองทุนรวม
กองทุนรวมคือทางเลือกที่เข้าถึงง่ายที่สุดสำหรับมือใหม่ เพราะมีผู้เชี่ยวชาญคอยบริหารจัดการให้ และสามารถเลือกได้ตามเป้าหมายของแต่ละคน ไม่ว่าจะเป็น
การเริ่มต้นด้วยกองทุนรวมจึงเป็นจุดเริ่มที่ดี เพราะเปิดโอกาส “ให้เงินทำงานแทนคุณ” แม้ไม่มีเวลาหรือมีความรู้ด้านการลงทุนที่ไม่ลึกมากนัก
2. ลงทุนประจำทุกเดือน ให้เงินมีโอกาสเติบโตแบบมีวินัย
เคล็ดลับสำคัญของการลงทุนคือ “ความสม่ำเสมอ” ไม่จำเป็นต้องมีเงินก้อนใหญ่ แค่ลงทุนทุกเดือน ก็ช่วยให้คุณสร้างพอร์ตให้มีโอกาสเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยไม่ต้องคอยจับจังหวะตลาด ช่วยลดความเสี่ยง และความผันผวนของการลงทุนได้
เช่น ช่วงโควิด-19 ในปี 2020 ถ้าหากลงทุนแบบครั้งเดียวในช่วงต้นปี ในดัชนี S&P 500 จะมีเดือนที่ขาดทุนสูงสุดถึง -20% และสิ้นปีจะได้ผลตอบแทนอยู่ที่ 16.26% แต่หากลงทุนแบบ DCA จะทำให้เดือนที่ขาดทุนมากที่สุดเหลือเพียง -17.46% และเมื่อดัชนีฟื้นตัวก็ยังได้ผลตอบแทนสิ้นปีอยู่ที่ 19.26%
ดังนั้นการลงทุนแบบ DCA จึงเหมาะสำหรับนักลงทุนที่ไม่ต้องการให้เงินลงทุนผันผวนมาก แต่ต้องการลงทุนระยะยาวเพื่อสร้างโอกาสรับผลตอบแทนต่อเนื่อง และสม่ำเสมอ
3. ลงทุนหลากหลาย ลดความเสี่ยง เพิ่มโอกาสรับผลตอบแทน
อย่าฝากความหวังไว้กับสินทรัพย์เดียว เพราะไม่มีใครรู้แน่ชัดว่าตลาดไหนจะให้ผลตอบแทนดีที่สุดในแต่ละปี การกระจายการลงทุน เช่น
และถ้ายังไม่แน่ใจว่าจะเริ่มจากตรงไหน ในแอป SCB EASY ก็มีฟังก์ชันที่ช่วยให้คุณเลือกกองทุนได้ตามระดับความเสี่ยงที่เหมาะสมกับตัวเอง เริ่มง่าย สะดวก และทำให้การกระจายความเสี่ยงไม่ใช่เรื่องซับซ้อนอีกต่อไป
4. My Money, My Goal! ลงทุนในแบบของคุณ
เพราะเป้าหมายของแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนอยากมีเงินก้อนใน 5 ปีเพื่อซื้อบ้าน บางคนอยากส่งลูกเรียนต่างประเทศ หรือบางคนอยากสร้างกระแสเงินสดระยะยาวไว้ใช้หลังเกษียณ
สิ่งสำคัญคือการ “เข้าใจตัวเองก่อนลงทุน” เพราะเมื่อรู้ว่าลงทุนไปเพื่ออะไร เราจะเลือกเครื่องมือที่เหมาะกับเราได้ชัดเจนขึ้น เช่น
ไม่มีพอร์ตไหนดีที่สุดสำหรับทุกคน มีแต่พอร์ตที่ “เหมาะที่สุดสำหรับคุณ” และการรู้ว่า “ทำไม” ถึงลงทุน คือจุดเริ่มต้นของการให้เงินทำงานแทนอย่างมีความหมาย
เริ่มให้เงินทำงานแทนคุณได้ง่าย ๆ ด้วยแอป SCB EASY
การลงทุนไม่ต้องรอให้พร้อม และไม่จำเป็นต้องเริ่มจากเงินก้อนใหญ่ เริ่มเล็ก ๆ แต่ทำต่อเนื่อง ก็ช่วยให้เห็นผลได้ในระยะยาว เพราะยิ่งเริ่มเร็ว ในระยะยาวเงินก็ยิ่งมีโอกาสเติบโต
วันนี้คุณสามารถให้เงินเริ่มทำงานแทนได้ง่าย ๆ แค่เปิดบัญชีกองทุนรวมผ่าน แอป SCB EASY ลงทุนได้ทุกที่ ครบทุกกองทุนในแอปเดียว
เริ่มจากหลักร้อยก็พอ เพราะสิ่งสำคัญไม่ใช่ “จำนวนเงินที่เริ่ม” แต่คือ “วันที่คุณลงมือ”
จังหวะนี้…เปิดบัญชีกองทุน และลงทุนเลย ที่แอป SCB EASY >> https://info.scb.co.th/scbeasy/easy_app_link.html?URI=scbeasy://mutualfunds/discover
คำเตือน