ในขณะที่เศรษฐกิจโลกเผชิญความไม่แน่นอน สิงคโปร์กลับเดินหน้าพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอย่างมั่นคง หนึ่งในโครงการที่ได้รับความสนใจไปทั่วภูมิภาค คือ Tuas Mega Port ท่าเรืออัจฉริยะใหญ่ที่สุดในสิงคโปร์ ซึ่งไม่เพียงเสริมความแข็งแกร่งด้านโลจิสติกส์ แต่ยังสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจมหาศาลให้กับพันธมิตรและนักลงทุน โครงการ Tuas Mega Port เริ่มต้นขึ้นเมื่อปี 2558 โดยอยู่ภายใต้การบริหารของ PSA International และได้รับการสนับสนุนจากกองทุนระดับชาติ Temasek Holdings โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อรวมท่าเรือหลักทั้งหมดของสิงคโปร์เข้าสู่ศูนย์กลางการขนส่งเพียงแห่งเดียวบนพื้นที่ที่ถูกถมทะเลฝั่งตะวันตกของประเทศ การพัฒนาโครงการแบ่งออกเป็น 4 เฟส โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ภายในปี 2583

นับตั้งแต่ Tuas Mega Port เริ่มดำเนินการเฟสแรกเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2565 โครงการนี้ได้แสดงศักยภาพอย่างชัดเจน โดยสามารถจัดการตู้คอนเทนเนอร์ได้มากกว่า 10 ล้าน TEU ภายในเวลาไม่ถึงสองปี และเมื่อแล้วเสร็จในทุกเฟส คาดว่าจะรองรับได้สูงสุดถึง 65 ล้าน TEU ต่อปี ซึ่งจะทำให้ Tuas Mega Port กลายเป็นท่าเรือคอนเทนเนอร์อัตโนมัติที่ใหญ่ที่สุดในโลก ทั้งในแง่ปริมาณการจัดการสินค้าและความทันสมัยของโครงสร้างพื้นฐาน

ปัจจุบัน สิงคโปร์มีขนาดเศรษฐกิจ (GDP) อยู่ที่ประมาณ 470.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และในปี 2567 เศรษฐกิจของประเทศขยายตัวถึง 4.4% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นการเติบโตที่สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของโครงสร้างพื้นฐานที่มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะบทบาทของ Tuas Mega Port ที่ถือเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตของภาคโลจิสติกส์

ในปี 2567 เพียงปีเดียว ท่าเรือ Tuas Mega Port สามารถจัดการตู้คอนเทนเนอร์ได้มากถึง 41.12 ล้าน TEU เพิ่มขึ้นจาก 39.01 ล้าน TEU ในปี 2566 อย่างมีนัยสำคัญ ตัวเลขเหล่านี้ไม่เพียงสะท้อนขีดความสามารถในการดำเนินงานของท่าเรือเท่านั้น แต่ยังตอกย้ำสถานะของสิงคโปร์ในฐานะศูนย์กลางโลจิสติกส์และการค้าระหว่างประเทศของเอเชีย ที่พร้อมเชื่อมโยงกับห่วงโซ่อุปทานโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน

สิ่งที่ทำให้ Tuas Mega Port โดดเด่น ทันสมัย และถือเป็นจุดโดดเด่นคือ การนำเทคโนโลยีที่น่าสนใจมาประยุกต์ใช้ในการดำเนินงานท่าเรือรวมทั้งการนำแนวคิด Intelligent Logistics Ecosystem หรือระบบโลจิสติกส์อัจฉริยะที่บูรณาการเทคโนโลยีขั้นสูงเข้ากับทุกกระบวนการสำหรับการขนย้ายตู้คอนเทนเนอร์บริเวณท่าเรือ

1. Automated Guided Vehicles (AGVs) หุ่นยนต์ลำเลียงขนย้ายตู้คอนเทนเนอร์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ ซึ่งนอกจากจะช่วยลดการใช้แรงงานคน ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขนย้าย
2. AI & Big Data ใช้ในการวิเคราะห์การจัดวางและเคลื่อนย้ายตู้สินค้าแบบเรียลไทม์ เพื่อลดระยะเวลารอและเพิ่มประสิทธิภาพท่าเรือ
3. Digital Integration & Just-in-Time Logistics เพื่อให้ระบบซัพพลายเชนลื่นไหล เชื่อมต่อระหว่างประเทศได้รวดเร็ว ลดระยะเวลาและต้นทุนในการขนส่ง Just-in-Time Arrival System เป็นระบบที่จะใช้ในอนาคตเมื่อเรือเข้าสู่น่านน้ำสิงคโปร์และนำเรือเข้าเทียบท่า เพื่อลดเวลาและบุคลากร กัปตันเรือไม่จำเป็นต้องติดต่อผ่านระบบวิทยุและรอให้ Marine Pilot มานำเรือเข้าเทียบท่า 
4. Green Technology การนำพลังงานสะอาดมาใช้ และลดคาร์บอนฟุตพริ้นต์ในขั้นนตอนการขนย้ายตู้คอนเทนเนอร์ พร้อมทั้งยังมีระบบจัดการของเสียที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
5. มีการนำระบบคัดกรองสินค้าเคลื่อนที่ (Mobile Cargo Screening System : Mobile CASS) เพื่ออำนวยความสะดวกให้เจ้าหน้าที่ตรวจปล่อยสินค้าได้ โดยคนขับไม่ต้องรอบริเวณพื้นที่เก็บสินค้า (Holding Area) เพื่อรอรับผลสแกนภาพ สินค้า เทคโนโลยี ส่งผลให้คนขับลดเวลารอจาก 14-20 นาที เหลือเพียง 3-5 นาที นับเป็นการเตรียมความพร้อมให้กับท่าเรือ Tuas เพื่อรองรับปริมาณตู้สินค้าที่มากขึ้นในอนาคต และจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้สิงคโปร์ในฐานะศูนย์กลางการค้าระดับโลกโดย ICA ได้ริเริ่มโครงการ On-the-Fly Clearance มาทดลองใช้ตั้งแต่ปี 2564
6. Drones ซึ่งใช้ในการส่งมอบเรือเข้าเทียบท่า รวมทั้งยังสามารถส่งไปตรวจสอบความเสียหายของเรือได้อีกด้วย
7. Tracking Arriving Vessels ระบบการ จัดการท่าเรือจะใช้ Cloud computing, data analytics, smart algorithms, sensors และ ระบบการสื่อสารชั้นนำในการจัดการและจัดเรือเข้าเทียบท่า
8. Single sharing Portal ผ่านระบบ Single Government Portal โดยจากระบบเดิมที่จะต้องยื่นเอกสารผ่านหน่วยงานหลายแห่ง

Tuas Mega Port จึงไม่ใช่เพียงโครงการพัฒนาท่าเรือ แต่เป็นการวางรากฐานเศรษฐกิจแห่งอนาคตของสิงคโปร์และภูมิภาคอาเซียน ด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะและแนวคิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน Tuas Mega Port จึงกลายเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของสิงคโปร์ในระดับมหภาค และเป็นจุดเปลี่ยนของห่วงโซ่อุปทานโลกที่กำลังเกิดขึ้นจริงในปัจจุบัน

ลูกค้าที่สนใจประกอบธุรกิจใน CLMV หรือประเทศเขตอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (Great Mekong Subregion: GMS) ได้แก่ กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม ธนาคารไทยพาณิชย์มีสาขาต่างประเทศที่พร้อมจะดูแลและให้บริการ สนใจติดต่อ https://www.scb.co.th/en/corporate-banking/international-network.html

ขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก: ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาสิงคโปร์ https://www.scb.co.th/en/corporate-banking/international-network/singapore

ข้อมูลอ้างอิง

1. MPASingapore. Port of the Future | Maritime & Port Authority of Singapore (MPA). (mpa.gov.sg) (ค้นหาข้อมูลเมื่อ 09/06/2568)
2. CarriageGlobalLogistics. Tuas Mega Port: Transforming Singapore’s Maritime Landscape – CGL.COM.SG. (cgl.com.sg) (ค้นหาข้อมูลเมื่อ 09/06/2568)
3. DIPT. สิงคโปร์เปิดท่าเรือ Tuas ก่อนกำหนด เพื่อบรรเทาวิกฤติห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก. (dipt.go.th) (ค้นหาข้อมูลเมื่อ 09/06/2568)
4. DIPT. การสร้างท่าเรือ Tuas ขนาดยักษ์ของสิงคโปร์. (dipt.go.th) (ค้นหาข้อมูลเมื่อ 09/06/2568)
5. DollarsAndSenseBusiness. Guide To Tuas Mega Port – World’s Largest Fully Automated Port In Our Backyard | DollarsAndSense Business (ค้นหาข้อมูลเมื่อ 09/06/2568)
6. Logisticsmanager. PIL ร่วมเฉลิมฉลองพิธีเปิดตัวท่าเรือ Tuas ของ PSA อย่างเป็นทางการ - Logistics Manager (ค้นหาข้อมูลเมื่อ 09/06/2568)
7. Thaibizsingapore. คืบหน้าของ Tuas Mega Port โครงการท่าเรืออัตโนมัติที่ใหญ่ที่สุดในโลกของสิงคโปร์. (thaibizsingapore.com) (ค้นหาข้อมูลเมื่อ 12/06/2568)
8. Sustainability-times. “65 million containers per year”: this massive automated port will transform global shipping forever.  (sustainability-times.com) (ค้นหาข้อมูลเมื่อ 12/06/2568)
9. MTI. ECONOMIC SURVEY OF SINGAPORE 2024. (mti.gov.sg) (ค้นหาข้อมูลเมื่อ 12/06/2568)
10. Transtime Commercial Vehicle Community สิงคโปร์พัฒนาเมกะโปรเจกต์ ‘ท่าเรือ Tuas’ สู่ศูนย์กลางการขนส่งทางเรือที่ทันสมัยและใหญ่ที่สุดในโลก – Trans Time News (ค้นหาข้อมูลเมื่อ 12/06/2568) 
11. SCGJWD Logistics [SCGJWD Logistics] มาทำความรู้จักกับ “Tuas Mega Port” ท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดในโลกกัน สิงคโปร์ได้เริ่มโครงการพัฒนาท่าเรือ Tuas ที่กำลังจะกลายเป็นท่าเรือขนาดใหญ่และทันสมัยที่สุดในโลก ซึ่งเริ่มตั้งแต่ปี 2558 และคาดว (ค้นหาข้อมูลเมื่อ 12/06/2568)