มาตรการพักชำระหนี้ (ลูกค้าปัจจุบันของธนาคาร) 
และมาตรการช่วยเหลือลูกค้าที่ประสบภัยชายแดนไทย-กัมพูชา และอุทกภัยภาคเหนือ (สำหรับขอสินเชื่อใหม่) 
สามารถเข้าร่วมโครงการ ได้ตั้งแต่วันที่ 25 กรกฎาคม 2568 – 31 ตุลาคม 2568

มาตรการพักชำระหนี้ (ลูกค้าปัจจุบันของธนาคาร)

กลุ่มลูกค้าบุคคล และลูกค้าสินเชื่อธุรกิจเพื่อผู้ประกอบการ

  1. สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย: ลูกค้าสินเชื่อบ้าน และสินเชื่อบ้านคือเงิน My Home My Cash ธนาคารมอบความช่วยเหลือพักชำระเงินต้นนาน 3 เดือน (พักชำระเงินต้นและจ่ายเฉพาะดอกเบี้ย)
  2. สินเชื่อรถยนต์: ธนาคารมอบความช่วยเหลือ พักชำระหนี้สูงสุด 3 เดือน สำหรับลูกค้าสินเชื่อรถยนต์ และขยายระยะเวลาในการผ่อนชำระสูงสุด 3 เดือน (รวมอายุผู้กู้ไม่เกิน 65 ปี)
  3. สินเชื่อธุรกิจเพื่อผู้ประกอบการ: ธนาคารมอบความช่วยเหลือ พักชำระเงินต้นสูงสุดนาน 3 เดือน และสินเชื่อเพื่อฟื้นฟูกิจการดอกเบี้ยคงที่เริ่มต้น 3.5% ต่อปี นาน 24 เดือน ระยะเวลากู้สูงสุด 10 ปี

ลูกค้าสามารถติดต่อขอเข้าร่วมโครงการได้ที่ธนาคารไทยพาณิชย์ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือ SCB Customer Center โทร 02-777-7777 ได้ตั้งแต่วันที่ 25 กรกฎาคม 2568 – 31 ตุลาคม 2568

กลุ่มลูกค้าธุรกิจเอสเอ็มอี
ธนาคารมอบความช่วยเหลือให้ทั้งผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบทั้งทางตรง และทางอ้อม ผ่าน 3 มาตรการหลัก ได้แก่

  1. พักชำระเงินต้น สูงสุดนาน 6 เดือน
  2. พักชำระทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยไม่เกิน 3 เดือน
  3. เพิ่มวงเงินหมุนเวียนชั่วคราวสูงสุด 20% ของวงเงินหมุนเวียนเดิม และไม่เกิน 10 ล้านบาท

ลูกค้าสามารถติดต่อขอเข้าร่วมโครงการได้ทางเจ้าหน้าที่ธุรกิจสัมพันธ์ที่ดูแลท่าน หรือ SCB Business Call Center โทร 02-722-2222 ได้ตั้งแต่วันที่ 25 กรกฎาคม 2568 – 31 ธันวาคม 2568

มาตรการช่วยเหลือลูกค้าที่ประสบภัยชายแดนไทย-กัมพูชา และอุทกภัยภาคเหนือ (สำหรับขอสินเชื่อใหม่)

  • สินเชื่อบ้านได้เพิ่มเพื่อซ่อมแซมบ้าน (สินเชื่อบ้านได้เพิ่ม สำหรับลูกค้าสินเชื่อบ้าน (Home Loan Top Up) หรือ สินเชื่อบ้านได้เพิ่ม สำหรับลูกค้าสินเชื่อบ้านคือเงิน (My Home My Cash Top Up))
  • ฟรี ค่าประเมินหลักประกัน บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์โฮม คอนโดมิเนียม และ อาคารพาณิชย์ (ลูกค้าต้องทำการประเมินหลักประกัน ภายในวันที่ 31 ตุลาคม 2568 และเบิกใช้วงเงินสินเชื่อที่ได้รับอนุมัติภายใน 10 วันทำการนับจากวันที่ 31 ตุลาคม 2568)

อัตราดอกเบี้ย

ผลิตภัณฑ์สินเชื่อ

สินเชื่อบ้านได้เพิ่มเพื่อซ่อมแซมบ้าน 

สำหรับลูกค้าสินเชื่อบ้าน
 (Home Loan Top Up)

สำหรับลูกค้าสินเชื่อบ้านคือเงิน
 (My Home My Cash Top Up)

ทางเลือก

ทำประกันชีวิตคุ้มครอง
วงเงินสินเชื่อ (Credit Life)*

ไม่ทำประกันชีวิตคุ้มครอง
วงเงินสินเชื่อ (Credit Life)

ทำประกันชีวิตคุ้มครอง
วงเงินสินเชื่อ (Credit Life)*

ไม่ทำประกันชีวิตคุ้มครอง
วงเงินสินเชื่อ (Credit Life)

เดือน 1-3

0%

0%

เดือน 4-12

อัตราดอกเบี้ยช่วงสุดท้าย 
ของสินเชื่อบ้านที่ลูกค้าได้รับ

อัตราดอกเบี้ยช่วงสุดท้าย 
ของสินเชื่อบ้านคือเงิน My Home My Cash ที่ลูกค้าได้รับ

ปีที่ 2 เป็นต้นไป

อัตราดอกเบี้ยช่วงสุดท้าย 
ของสินเชื่อบ้านที่ลูกค้าได้รับ

อัตราดอกเบี้ยช่วงสุดท้าย 
ของสินเชื่อบ้านคือเงิน My Home My Cash ที่ลูกค้าได้รับ

อัตราดอกเบี้ย เฉลี่ย 3 ปี

4.606% - 6.440%

6.440% - 13.085%

อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง (ต่อปี)

4.906% - 6.861%

6.861% - 13.879%

  • ลูกค้าธุรกิจเอสเอ็มอี วงเงินกู้สำหรับปรับปรุง/ซ่อมแซม/หรือซื้อทดแทน ทรัพย์สินที่เสียหายของกิจการ ให้วงเงินสูงสุดไม่เกิน 20% ของวงเงินเดิม และไม่เกิน 10 ล้านบาท ระยะเวลาการผ่อนชำระสูงสุดไม่เกิน 7 ปี อัตราดอกเบี้ย 4.0% เฉพาะ 2 ปีแรก หลังจากนั้นคิดอัตราดอกเบี้ยตามวงเงินเดิม

กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว :

  • สินเชื่อบ้านได้เพิ่ม สำหรับลูกค้าสินเชื่อบ้าน (Home Loan Top Up) อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงอยู่ระหว่าง 4.906% - 6.861% ต่อปี
  • สินเชื่อบ้านได้เพิ่ม สำหรับลูกค้าสินเชื่อบ้านคือเงิน (My Home My Cash Top Up) อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงระหว่าง 6.861% - 13.879% ต่อปี
  • โดยอัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี (Minimum Retail Rate : MRR ) ปัจจุบันเท่ากับ 7.025%ต่อปี มีผลวันที่ 19 พฤษภาคม 2568 ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยลอยตัว สามารถเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้ตามประกาศของธนาคาร รายละเอียดการคำนวณเพิ่มเติมดูได้ที่ เว็บไซต์ www.scb.co.th

หมายเหตุ :

  1. อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง (Effective Interest Rate) คำนวณจากวงเงินกู้ 1 ล้านบาท อายุสัญญา 20 ปี
  2. อัตราดอกเบี้ยดังกล่าวมีผลในระหว่างวันที่ 25 กรกฎาคม 2568 – 31 ตุลาคม 2568
  3. ลูกค้าต้องยื่นเอกสารแสดงความเสียหาย หรือผลกระทบที่ได้รับ ประกอบการพิจารณาสินเชื่อ
  4. *กรณีใช้อัตราดอกเบี้ยแบบทำประกันชีวิตคุ้มครองวงเงินสินเชื่อ (Credit Life) กำหนดให้ทำจำนวนเงินเอาประกันภัยไม่น้อยกว่า 70% ของวงเงินกู้ และระยะเวลาเอาประกันภัย 70% ของระยะเวลากู้ตามสัญญา โดยกำหนดให้ระยะเวลาเอาประกันภัยขั้นต่ำ 10 ปี (กรณีระยะเวลากู้ตามสัญญาต่ำกว่า 10 ปี กำหนดให้ระยะเวลาเอาประกันภัยเท่ากับระยะเวลากู้ตามสัญญา)
  5. การประกันอัคคีภัยคุ้มครองหลักประกันสินเชื่อผ่านธนาคาร ลูกค้าสามารถกู้ค่าเบี้ยประกันอัคคีภัยรวมในวงเงินกู้ได้ (Top up) หากลูกค้ามีความประสงค์
  6. สำหรับประกันชีวิตคุ้มครองวงเงินสินเชื่อขึ้นอยู่กับเงื่อนไขการรับประกันภัยของ บมจ. เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต และ สำหรับประกันอัคคีภัยขึ้นอยู่กับเงื่อนไขการรับประกันภัยของ บมจ. เทเวศประกันภัย
  7. ผู้ซื้อควรทำความเข้าใจในรายละเอียดความคุ้มครองและเงื่อนไขก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง
  8. ธนาคารเป็นเพียงนายหน้าผู้ชี้ช่องหรือจัดการให้บุคคลเข้าทำสัญญาประกันภัยเท่านั้น ทั้งนี้ การพิจารณารับประกันภัย สำหรับประกันชีวิตคุ้มครองวงเงินสินเชื่อขึ้นอยู่กับเงื่อนไขการรับประกันภัยของ บมจ. เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต และ สำหรับประกันอัคคีภัยขึ้นอยู่กับเงื่อนไขการรับประกันภัยของ บมจ. เทเวศประกันภัย
  9. ผลประโยชน์ เงื่อนไข และความคุ้มครอง เป็นไปตามที่กรมธรรม์และบริษัทประกันกำหนด
  10. รับประกันภัยโดย บมจ. เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต สำหรับประกันชีวิตคุ้มครองวงเงินสินเชื่อ กรณีสอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับความคุ้มครองและการเรียกร้องสินไหมทดแทน กรุณาติดต่อศูนย์บริการลูกค้าเอฟดับบลิวดี โทร. 1351 หรือ www.fwd.co.th
  11. รับประกันภัยโดย บมจ. เทเวศประกันภัย สำหรับประกันอัคคีภัย กรณีสอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับความคุ้มครองและการเรียกร้องสินไหมทดแทน กรุณาติดต่อศูนย์บริการลูกค้าเทเวศประกันภัย โทร. 1291 กด 1 หรือ LINE @devesinsurance หรือ www.deves.co.th

สิทธิเรื่องการทำประกันอัคคีภัยและประกันชีวิตคุ้มครองวงเงินสินเชื่อ (Credit Life)

  • ธนาคารไม่ได้บังคับให้ลูกค้าต้องทำประกันชีวิตคุ้มครองวงเงินสินเชื่อ (Credit Life) เป็นสิทธิของลูกค้าที่จะเลือกทำหรือไม่ก็ได้ ไม่มีผลต่อการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อของธนาคาร
  • ลูกค้าต้องทำประกันอัคคีภัยเพื่อคุ้มครองหลักประกัน โดยทุนประกันภัยตามราคาประเมินสิ่งปลูกสร้าง ลูกค้ามีสิทธิ์ที่จะเลือกทำประกันอัคคีภัยกับบริษัทประกันภัยรายใดก็ได้ตามความสมัครใจของลูกค้า สำหรับการทำประกันอัคคีภัยกับ บมจ.เทเวศประกันภัย ไม่มีผลต่อการได้รับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ และไม่มีผลต่อการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อของธนาคาร

มาตรการช่วยเหลือลูกค้าที่ประสบภัยชายแดนไทย-กัมพูชา และอุทกภัยภาคเหนือ (สำหรับขอสินเชื่อใหม่): โครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) GSB Boost Up

สินเชื่อธุรกิจเพื่อผู้ประกอบการเพื่อฟื้นฟูกิจการ (สำหรับขอสินเชื่อใหม่)

  • สำหรับผู้ประกอบการที่มียอดขายน้อยกว่า 75 ล้านบาทต่อปี
  • อัตราดอกเบี้ยคงที่เริ่มต้น 3.5% ต่อปี นาน 24 เดือน

    อัตราดอกเบี้ย

    สินเชื่อธุรกิจเพื่อผู้ประกอบการ

    ทำประกันชีวิตคุ้มครอง
    วงเงินสินเชื่อ (Credit Life)*

    ไม่ทำประกันชีวิต
    คุ้มครองวงเงินสินเชื่อ (Credit Life)

    เดือน 1-24

    3.5%

    เดือนที่ 25 เป็นต้นไป

    MRR + 0.50% ถึง MRR + 2.00%

    MRR + 1.00% ถึง MRR + 2.50%

  • ค่าธรรมเนียมการให้สินเชื่อ (Front-End-Fee) 1%
  • ประเภทวงเงินกู้ (Loan) ที่มีระยะเวลาการผ่อนชำระเป็นงวด เท่านั้น
  • วงเงินสูงสุด 40 ล้านบาทต่อราย (รวมทุกสถาบันการเงิน ภายใต้โครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) GSB Boost Up
  • ใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน ผ่อนนานสูงสุด 10 ปี
  • วงเงินกู้ที่ได้จากโครงการ ลูกค้าต้องนำไปใช้ฟื้นฟูกิจการที่ได้รับผลกระทบจากเหตุประสบภัยชายแดนไทย-กัมพูชา และอุทกภัยภาคเหนือเท่านั้น ห้ามนำเงินไปชำระหนี้เดิม (Refinance) เงินกู้ทุกประเภททุกสถาบันการเงิน
  • ลูกค้าต้องยื่นเอกสารแสดงความเสียหายหรือผลกระทบที่ได้รับเพื่อประกอบการพิจารณาสินเชื่อ
  • สามารถเข้าร่วมโครงการ ได้ตั้งแต่วันที่ 25 กรกฎาคม 2568 – 31 ตุลาคม 2568 (อนุมัติและเบิกจ่ายวงเงินภายใน วันที่ 30 พฤศจิกายน 2568 หรือจนกว่าวงเงินโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ Soft Loan จะสิ้นสุดลง)

รายละเอียดการเรียกร้องสินไหม :

  1. ธนาคารเป็นเพียงนายหน้าผู้ชี้ช่องหรือจัดการให้บุคคลเข้าทำสัญญาประกันภัยเท่านั้น
  2. ผลประโยชน์ เงื่อนไข และความคุ้มครอง เป็นไปตามที่กรมธรรม์และบริษัทประกันกำหนด
  3. รับประกันภัยโดย บมจ. เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต สำหรับประกันชีวิตคุ้มครองวงเงินสินเชื่อ กรณีสอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับความคุ้มครองและการเรียกร้องสินไหมทดแทน กรุณาติดต่อศูนย์บริการลูกค้าเอฟดับบลิวดี โทร. 1351 หรือ www.fwd.co.th
  4. รับประกันภัยโดย บมจ. เทเวศประกันภัย สำหรับประกันอัคคีภัย กรณีสอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับความคุ้มครองและการเรียกร้องสินไหมทดแทน กรุณาติดต่อศูนย์บริการลูกค้าเทเวศประกันภัย โทร. 1291 กด 1 หรือ LINE @devesinsurance หรือ www.deves.co.th
  5. รับประกันภัยโดย บมจ. ชับบ์สามัคคีประกันภัย สำหรับประกันอัคคีภัย กรณีสอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับความคุ้มครองและการเรียกร้องสินไหมทดแทน กรุณาติดต่อศูนย์บริการลูกค้าชับบ์สามัคคีประกันภัย โทร. 02-640-4500 หรือ 02-611-4455 กด 2 อีเมล th.propertyclaims@chubb.com หรือ www.chubb.com/th-th/