รวมทั้งต้องบริหารเวลาในการทำงานและใช้ชีวิตร่วมกับครอบครัว โดยเฉพาะการให้ความสำคัญกับสภาพจิตใจ เพราะยิ่งทำงานหนัก มีความเครียดสะสม ก็อาจทำให้เจ็บป่วยและไม่สามารถดำเนินธุรกิจให้ไปข้างหน้าได้ รวมถึงทำให้คนในครอบครัวสูญเสียความเชื่อมั่นและกำลังใจ ดังนั้นธุรกิจครอบครัวที่ดี ย่อมต้องบริหารสภาพจิตใจของสมาชิกครอบครัวให้ดีตามมาด้วยเช่นกัน
การบริหารธุรกิจครอบครัวมีสองกรอบแนวคิดหลัก ที่เป็นองค์ประกอบสำคัญ
Family (ครอบครัว): เปรียบเสมือนบ้านที่ต้องมีหลังคา หรือ ROOF:
1. Roles & Responsibility (บทบาทและหน้าที่): กำหนดชัดเจนว่าใครมีบทบาทและหน้าที่อะไร
2. Organization (การจัดองค์กร): ต้องมีโครงสร้างการบริหารจัดการที่ชัดเจน
3. Order of Priority (ลำดับความสำคัญ): ต้องจัดลำดับความสำคัญของเรื่องต่างๆ ตามความสำคัญและเร่งด่วน
4. Foster Family Unity (เสริมสร้างความสามัคคีในครอบครัว): ดูแลความสัมพันธ์ในครอบครัวและจัดสรรเวลาพบปะกันนอกเวลางาน
Business (ธุรกิจ): การดำเนินธุรกิจต้องมีการปรับตัวอย่างต่อเนื่อง หรือ ADAPT:
1. Align Goals (ปรับเป้าหมายให้สอดคล้อง): ต้องมีเป้าหมายเดียวกันและสอดคล้องกันทั้งองค์กร
2. Delegate Responsibilities (มอบหมายหน้าที่ชัดเจน): การแบ่งงานและมอบหมายหน้าที่ต้องชัดเจน
3. Adjust Process (ปรับปรุงกระบวนการ): ปรับปรุงกระบวนการทำงานอย่างต่อเนื่อง
4. Plan Strategically (วางแผนกลยุทธ์): มีแผนกลยุทธ์ที่ชัดเจน
5. Track Process (ติดตามผลลัพธ์): มีการติดตามและวัดผลลัพธ์ของงานอย่างสม่ำเสมอ
การจัดการธุรกิจครอบครัวที่มีประสิทธิภาพต้องผสมผสานทั้งความเข้าใจในครอบครัวและการปรับตัวทางธุรกิจ เพื่อให้ธุรกิจเดินหน้าอย่างมั่นคงและยั่งยืนในระยะยาว
คุณบี คุณากร ธนสารสมบัติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โรงงานไทยแลนด์นิตติ้ง จำกัด (ตราห่านคู่)