Overview of Family Business Landscape

ความเป็นครอบครัว เป็นทั้งจุดแข็งและจุดอ่อนสำหรับการทำธุรกิจของครอบครัว เพราะเมื่อธุรกิจกำลังเติบโตก้าวหน้า บ่งบอกถึงความเป็นครอบครัวที่แข็งแกร่งและร่วมมือร่วมใจ ในทางกลับกัน เมื่อธุรกิจเริ่มมีปัญหา ไม่ว่าด้วยช่วงวัย ความคิด หรือการตัดสินใจที่แตกต่าง โอกาสที่ธุรกิจครอบครัวจะไปรอด ก็อาจจบลงตรงที่ รุ่นหนึ่งสร้าง รุ่นที่สองสาน แต่รุ่นที่สามกำลังจะทำลาย

คนรุ่นใหม่ที่ถูกวางตัวให้เป็นทายาทของธุรกิจ อาจมีภาพลักษณ์ที่ดูร่ำรวย แต่ในความเป็นจริงก็ยังเป็นเพียง “ส่วนหนึ่ง” ของธุรกิจ ไม่ได้เป็นเจ้าของธุรกิจเต็มตัว ทุกอย่างยังต้องผ่านการตัดสินใจจากผู้อาวุโสหรือสมาชิกในครอบครัวที่ก่อตั้งธุรกิจขึ้นมา การสร้าง “Trust” หรือ “ความเชื่อใจ” จึงเป็นสิ่งสำคัญที่คนรุ่นใหม่ต้องมีหากคิดรับช่วงต่อธุรกิจในครอบครัว

การเสนอไอเดียที่จะสร้างธุรกิจให้แตกต่าง จะต้องไม่ใช่การทำลายความเชื่อ แบบแผน หรือแนวปฏิบัติเดิมๆ ของครอบครัว แต่ต้องเป็นการนำเอาทักษะที่มี ประสบการณ์ที่ได้เรียนรู้ มาต่อยอดธุรกิจในลู่ทางใหม่ สร้างผลกำไรมหาศาล และยังคงรักษาขนบธรรมเนียมที่สืบต่อกันมาในครอบครัวได้อย่างครบถ้วน ช่วยให้ความสัมพันธ์ของคนในครอบครัวแน่นแฟ้นมากขึ้น

ธุรกิจครอบครัวที่ดี จึงจำเป็นต้องมีการสื่อสารที่ชัดเจน กระจายบทบาทและอำนาจหน้าที่ แบ่งหุ้นในธุรกิจ เงินเดือน เงินปันผล รวมถึงองค์ประกอบอื่นๆ ให้เหมาะสมตามความรับผิดชอบของแต่ละคน และมองหาโอกาสเติบโตใหม่ๆ โดยที่ทุกคนมีความเห็นหรือเข้าใจตรงกัน ลดการสร้าง “ระเบิดเวลา” ที่อาจทำให้ธุรกิจครอบครัวมีปัญหา ด้วยการมองเห็นคุณค่า และยอมรับความแตกต่างของคนในครอบครัว


คุณกวาง เสสินัน นิ่มสุวรรณ์ ผู้ก่อตั้งเพจ “ทำที่บ้าน”




Sustainable Business Models to Sustain Family Business

ธุรกิจครอบครัวจะมีความยั่งยืนได้ ปัจจัยสำคัญต้องเกิดจากการทำธุรกิจให้มีกำไรและธรรมาภิบาลควบคู่กันไป เพราะแนวคิดในการทำธุรกิจมีการเปลี่ยนแปลงอยู่อย่างต่อเนื่อง เจ้าของธุรกิจจึงจำเป็นต้องมองหาแนวทางในการต่อยอดธุรกิจ โดยยึดหลักการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม รวมถึงจัดการและควบคุมความเสี่ยงในธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

โดยเฉพาะการปรับตัวถือเป็นเรื่องจำเป็น เพราะปัจจัยสภาพแวดล้อมทั้งภายในและภายนอกธุรกิจ ย่อมส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจในระยะยาว หากเราไม่มองหาวิธีการในการทำให้ธุรกิจอยู่รอด ก็ยากที่จะทำให้ธุรกิจยั่งยืนและสามารถส่งต่อไปยังทายาทรุ่นถัดไปได้ เทรนด์การทำธุรกิจให้ยั่งยืนที่น่าจับตาคือ การสร้าง ESG เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน

แนวคิด ESG เป็นทางรอดที่สำคัญของการทำธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจครอบครัว เนื่องจากเป็นการคำนึงการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม ด้านสังคม และด้านธรรมาภิบาล ที่ทำให้ธุรกิจครอบครัวสามารถขับเคลื่อนได้อย่างโปร่งใส ปราศจากการทุจริต พร้อมเปิดโอกาสให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้ร่วมกันพัฒนาธุรกิจในทุกมิติอย่างสร้างสรรค์ และดำเนินไปตามกรอบของกฎหมาย

ESG จึงไม่ใช่ What&Why อีกต่อไป แต่คือ How&When ที่ธุรกิจครอบครัวต้องเร่งลงมือทำแข่งกับเวลา เพื่อพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส สู่การเติบโตและทำกำไรในระยะยาว ด้วยการกำหนดแผน รูปแบบการดำเนินธุรกิจที่ชัดเจน และฝังค่านิยม ESG เข้าไปในธุรกิจครอบครัวในทุกมิติ เสริมสร้างการมีส่วนร่วมของคนในครอบครัว เพื่อให้สามารถขับเคลื่อนธุรกิจไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน


คุณเก๋ อัจฉรา ปู่มี Founder & CEO บริษัท แพค คอปอร์เรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด





7 models Family Business ต่อยอดธุรกิจ

1. กงสีโมเดล (Chinese Family Business)

คือ หลักการบริหารธุรกิจครอบครัวอย่างโปร่งใส ยุติธรรม และเคารพความสัมพันธ์ของสมาชิก ซึ่งการทำงานร่วมกับผู้ใหญ่ในครอบครัวต้องใช้ความอดทน ความเข้าใจ และการพิสูจน์ตัวเองผ่านผลงาน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและพัฒนาธุรกิจครอบครัว

2. Family Turned Startup Model

เน้นการใช้ทรัพยากรและความรู้จากครอบครัวเพื่อสร้างธุรกิจที่ตอบโจทย์ตลาดใหม่ โดยมุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหาของอุตสาหกรรมและดึงดูดทีมงานที่มีวิสัยทัศน์เดียวกันเพื่อการเติบโตที่ยั่งยืน

3. ต่อยอดแบบเดิม (Keep Everything the Same)

การสืบทอดธุรกิจครอบครัวต้องรักษาคุณค่าและยังคงเอกลักษณ์เดิม พร้อมปรับตัวให้เข้ากับตลาดใหม่ ต้องพิสูจน์ตัวเองผ่านผลงานและรักษามาตรฐานเดิมให้แข็งแกร่ง

4. Modernized SME Model (Rebranding, Reinvigorating)

การปรับตัวให้ทันสมัยและเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน โดยการรีแบรนด์เพื่อสร้างภาพลักษณ์ใหม่ที่น่าสนใจแก่ลูกค้ารุ่นใหม่ ใช้เทคโนโลยีและการตลาดออนไลน์เพื่อขยายการเข้าถึง 

5. จาก B2B สู่ B2C (Expanding from B2B to B2C)

การขยายธุรกิจจาก B2B สู่ B2C ช่วยเพิ่มโอกาสในการเติบโตและกระจายความเสี่ยง โดยมุ่งเน้นการสร้างแบรนด์และประสบการณ์ที่ดึงดูดลูกค้ารายย่อย

6. เปิดบริษัทใหม่กับคนเดิม

การเปิดบริษัทใหม่กับทีมเดิมช่วยรักษาความรู้และวัฒนธรรมองค์กร พร้อมสร้างโอกาสใหม่ตามการเปลี่ยนแปลงตลาด เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการใช้ชื่อเสียงเดิมเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือในธุรกิจใหม่

7. ส่งต่อ เข้าตลาดหรือ Exit

การเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ช่วยเพิ่มความมั่นคงทางการเงินและโอกาสในการเติบโตระยะยาว แต่ต้องบริหารจัดการทางการเงินอย่างโปร่งใสและมีมาตรฐานสูง 

“ลูกทุกคนอยากได้รับการยอมรับ พ่อแม่ทุกคนอยากได้รับการรับฟัง” คำกล่าวข้างต้นอาจเป็นแค่เรื่องในครอบครัว แต่เมื่อคำนี้ก้าวเข้าสู่วงการธุรกิจครอบครัว ย่อมมีผลกระทบต่อทุกคนในธุรกิจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะการทำธุรกิจครอบครัวมีปัจจัยสำคัญ 3 ส่วนหลัก คือ ครอบครัว ธุรกิจ และความเป็นเจ้าของ ที่เชื่อมโยงกันและไม่สามารถแยกออกจากกันได้

ธุรกิจในครอบครัว ยึดถือ “ความสัมพันธ์” มากกว่า “เหตุผลและตรรกะ” เพราะแต่ละคนมีส่วนในการขับเคลื่อนในธุรกิจที่แตกต่างกัน บางคนอาจเป็นเจ้าของกิจการ บางคนอาจเป็นผู้ถือหุ้น หรือบางคนอาจเป็นเพียงสมาชิกครอบครัวที่ไม่ได้มีบทบาทสำคัญ แต่ในฐานะของคนรุ่นใหม่ จำเป็นต้องยึดถือและให้ความสำคัญต่อคนในครอบครัว เพราะครอบครัวที่มีปัญหาก็อาจนำไปสู่การเกิดปัญหาในธุรกิจได้

การสื่อสารในครอบครัวจึงเป็นเรื่องที่คนรุ่นใหม่ต้องพิจารณาและให้ความรอบคอบเป็นอย่างมาก เพราะในบางครั้งการที่เรามีไอเดียใหม่ หรือโมเดลที่อยากต่อยอดธุรกิจ แต่ถ้าเกิดไม่รู้วิธีเข้าหาผู้ใหญ่ หรือขายงานให้พ่อแม่ฟังไม่ได้หรือไม่เข้าใจอย่างชัดเจน ก็อาจจะไม่ต่างอะไรกับคนที่เอาแต่ใจ แต่มุ่งทำให้ธุรกิจเป็นในแบบที่ตัวเองต้องการ โดยที่ไม่สนใจฟังเสียงทัดทานจากคนในครอบครัว

ดังนั้น คนรุ่นใหม่ควรเปิดใจรับฟังความคิดเห็นของพ่อแม่ หรือผู้ใหญ่ในการทำธุรกิจ เพราะเป็นประสบการณ์ที่ทำให้ธุรกิจอยู่รอดมาจนถึงปัจจุบันได้ หรือถ้าต้องการเสนอไอเดียที่แตกต่างก็ควรยึดหลักเหตุและผล รวมถึงสร้างความเชื่อใจและเชื่อมั่นว่าในการตัดสินใจของเรา เพื่อให้ธุรกิจครอบครัวยังคงสามารถอยู่ได้ แม้จะถูกเปลี่ยนมือมาสู่รุ่นของเราแล้วก็ตาม


และจาก Model การต่อยอดทั้งหมดนี้ สามารถนำไปต่อยอดประสบความสำเร็จได้จริง ฉะนั้นไม่ว่าอย่างไรก็ตามธุรกิจครอบครัวมีทางไปต่อเสมอ


คุณเมฆ นิธิ สัจจทิพวรรณ CEO&Co-Founder MyCloud Fulfillment 




Family Business Framework

ธุรกิจครอบครัว เปรียบเสมือนสองส่วนหลักๆ คือ หลังคาบ้าน (ROOF) ที่เกิดจากการก่อร่างสร้างตัวโดยคนรุ่นที่หนึ่ง สั่งสมและต่อยอดให้แก่คนรุ่นถัดมา โดยที่แต่เดิมอาจเป็นการทำให้ธุรกิจอยู่รอดเท่านั้น แต่เมื่อธุรกิจขยายตัว คนรุ่นต่อมาจึงต้องมองหาการแบ่งหน้าที่และความรับผิดชอบ การทำงานร่วมกันเป็นองค์กร การจัดลำดับความสำคัญของงาน และการดูแลจิตใจของคนในครอบครัว

อีกส่วนสำคัญ เปรียบเสมือนกับการปรับตัว (ADAPT) ที่มองถึงเป้าหมายหรือ Goal ขยายการเติบโต เปิดรับคนเก่งๆ เข้ามาขับเคลื่อนองค์กร มองหานวัตกรรมหรือเทคโนโลยีใหม่ที่ช่วยสร้างกำไรให้ธุรกิจ วางแผนหรือกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจอย่างรอบคอบ สามารถแบกรับความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงมีกระบวนการติดตามการทำธุรกิจอย่างโปร่งใส ยุติธรรม และตรวจสอบได้

การทำธุรกิจครอบครัวให้ประสบความสำเร็จ ต้องมีการกำหนดเป้าหมายในการทำธุรกิจที่ชัดเจน รวมถึงมีวิสัยทัศน์ที่ทำให้คนในครอบครัวมองภาพอนาคตของธุรกิจในทิศทางเดียวกัน ต่อมาคือต้องเข้าใจ Purpose ของธุรกิจ ว่าเรากำลังมองหาอะไรจากการทำธุรกิจของเรา วิเคราะห์จุดเด่นหรือจุดแตกต่างที่ทำให้ธุรกิจของเราแตกต่างจากคู่แข่ง

รวมทั้งต้องบริหารเวลาในการทำงานและใช้ชีวิตร่วมกับครอบครัว โดยเฉพาะการให้ความสำคัญกับสภาพจิตใจ เพราะยิ่งทำงานหนัก มีความเครียดสะสม ก็อาจทำให้เจ็บป่วยและไม่สามารถดำเนินธุรกิจให้ไปข้างหน้าได้ รวมถึงทำให้คนในครอบครัวสูญเสียความเชื่อมั่นและกำลังใจ ดังนั้นธุรกิจครอบครัวที่ดี ย่อมต้องบริหารสภาพจิตใจของสมาชิกครอบครัวให้ดีตามมาด้วยเช่นกัน


การบริหารธุรกิจครอบครัวมีสองกรอบแนวคิดหลัก ที่เป็นองค์ประกอบสำคัญ

Family (ครอบครัว): เปรียบเสมือนบ้านที่ต้องมีหลังคา หรือ ROOF:

1. Roles & Responsibility (บทบาทและหน้าที่): กำหนดชัดเจนว่าใครมีบทบาทและหน้าที่อะไร

2. Organization (การจัดองค์กร): ต้องมีโครงสร้างการบริหารจัดการที่ชัดเจน

3. Order of Priority (ลำดับความสำคัญ): ต้องจัดลำดับความสำคัญของเรื่องต่างๆ ตามความสำคัญและเร่งด่วน

4. Foster Family Unity (เสริมสร้างความสามัคคีในครอบครัว): ดูแลความสัมพันธ์ในครอบครัวและจัดสรรเวลาพบปะกันนอกเวลางาน


Business (ธุรกิจ): การดำเนินธุรกิจต้องมีการปรับตัวอย่างต่อเนื่อง หรือ ADAPT:

1. Align Goals (ปรับเป้าหมายให้สอดคล้อง): ต้องมีเป้าหมายเดียวกันและสอดคล้องกันทั้งองค์กร

2. Delegate Responsibilities (มอบหมายหน้าที่ชัดเจน): การแบ่งงานและมอบหมายหน้าที่ต้องชัดเจน

3. Adjust Process (ปรับปรุงกระบวนการ): ปรับปรุงกระบวนการทำงานอย่างต่อเนื่อง

4. Plan Strategically (วางแผนกลยุทธ์): มีแผนกลยุทธ์ที่ชัดเจน

5. Track Process (ติดตามผลลัพธ์): มีการติดตามและวัดผลลัพธ์ของงานอย่างสม่ำเสมอ

การจัดการธุรกิจครอบครัวที่มีประสิทธิภาพต้องผสมผสานทั้งความเข้าใจในครอบครัวและการปรับตัวทางธุรกิจ เพื่อให้ธุรกิจเดินหน้าอย่างมั่นคงและยั่งยืนในระยะยาว


คุณบี คุณากร ธนสารสมบัติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โรงงานไทยแลนด์นิตติ้ง จำกัด (ตราห่านคู่) 




Family Business Experience

ธุรกิจครอบครัวเป็นการดำเนินธุรกิจที่ต้องมีวิสัยทัศน์ชัดเจน เพราะการขับเคลื่อนธุรกิจให้ไปในทิศทางเดียวกัน จะช่วยให้เข้าใกล้เป้าหมาย ผลกำไร และจุดยืนของธุรกิจที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น แต่การทำธุรกิจที่มีขนาดใหญ่มากขึ้น และจำเป็นต้องขยายธุรกิจเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ หมายถึงการเข้ามาของผู้ถือหุ้น การดำเนินการใดๆ ที่มีผลต่อธุรกิจจำเป็นที่จะต้องรับฟังเสียงผู้ถือหุ้นในธุรกิจของเรา

โดยเฉพาะผู้ถือหุ้นที่เป็นสมาชิกครอบครัว อาจมีแนวคิดหรือวิธีการในการดำเนินธุรกิจที่แตกต่างกัน รวมถึงมีบุคลากรเก่าแก่ที่ทำงานให้กับธุรกิจครอบครัวมายาวนาน การเปลี่ยนความคิดหรือนำเสนอไอเดียเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงอาจเห็นผลได้แค่ในวงจำกัด ในฐานะทายาทธุรกิจครอบครัว จำเป็นต้องพิสูจน์ให้คนรุ่นก่อนเข้าใจ และมองเห็นอนาคตว่า สิ่งที่เรากำลังคิดและกำลังทำดีต่อธุรกิจอย่างไร

การเป็นคนช่างสังเกต และเข้าใจบุคลากรในองค์กรถือเป็นเรื่องสำคัญ เพราะแต่ละงานมีความรับผิดชอบและหน้าที่แตกต่างกัน หากเราเข้าใจบทบาทและหน้าที่ของบุคลากรอย่างลึกซึ้ง ก็จะช่วยเชื่อมโยงความสัมพันธ์และเปิดโอกาสให้คนในทีม มีส่วนร่วมในการเสนอไอเดียเพื่อพัฒนาธุรกิจให้ตอบโจทย์ตลาดมากยิ่งขึ้น เพราะยิ่งตลาดใหญ่ขึ้น การแข่งขันก็สูงขึ้น ธุรกิจก็ต้องปรับตัวมากขึ้น

นอกจากนี้ กลุ่มผู้ถือหุ้นยังถือเป็นกลุ่มคนที่ผู้ดำเนินธุรกิจต้องให้ความสำคัญ เพราะะการลงทุนในธุรกิจอาจมีผลต่ออนาคตและภาพรวมของธุรกิจในระยะยาว แต่ควรมีขอบเขตและอำนาจที่เจ้าของธุรกิจสามารถตัดสินใจเองได้ โดยที่ไม่ต้องรอความเห็นจากการประชุมผู้ถือหุ้น เพราะโอกาสทางธุรกิจมักจะไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆ ถ้าคิดเร็ว ลงมือทำเร็ว ก็มีโอกาสสำเร็จได้รวดเร็วเช่นกัน 


คุณวิคเตอร์ วัชรพล วิมลเฉลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อุตสาหกรรม วิมลเทค จำกัด




ที่มา : หลักสูตร The DOTs Bootcamp 'Futurepreneurs’ ต่อยอดธุรกิจครอบครัว ก้าวข้ามขีดจำกัดอย่างยั่งยืน วันที่ 8 พฤศจิกายน 2567



แนะนำเนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

  • BOOTCAMP เพิ่มกำไร SME อย่างยั่งยืนด้วย Chat GPT & ESG

    ไทยพาณิชย์ปลุกกระแสเอสเอ็มอียั่งยืน แนะผู้ประกอบการคว้าโอกาสโตเพิ่มกำไรด้วย ESG และ ChatGPT

    เพิ่มเติม
  • อยากให้ธุรกิจคุณไปได้ไกลกว่าเดิมไหม

    เราพร้อมนำเสนอโซลูชัน
    ที่เหมาะกับธุรกิจของคุณ