เมื่อชาวมิลเลนเนียลแต่งบ้าน ให้เป็นนิทรรศการในฝัน!

ไม่เกินเลยนักหากจะนิยามว่า “บ้านคือนิทรรศการบอกเล่าเรื่องราวและความเป็นตัวเอง”


เพราะเจ้าของบ้านแต่ละคนย่อมมีเรื่องราว ความหลัง ตัวตน และความสนใจแตกต่างกันไป โดยเฉพาะคนยุค “มิลเลนเนียล”  (Millennial) ที่รู้เห็นการเปลี่ยนแปลงของสังคมมามากมาย ให้คุณค่ากับประสบการณ์มากเป็นอันดับหนึ่ง และกำลังมุ่งมั่นเดินทางสู่ปลายทางอันน่าทึ่ง ด้วยการมีบ้านเป็นของตัวเองสักหลัง นิทรรศการในฝันของคนวัยนี้จะถูกต่อเติมและตกแต่งได้น่าชมเพียงใด มาส่องดูสไตล์สะท้อนเรื่องเล่าของคนยุคนี้กัน

เก่าพบใหม่ ณ บ้านในฝัน

สไตล์บ้านแบบโมเดิร์น (Modern) ยังคงติดอันดับในใจของคนยุคมิลเลนเนียล เพราะการออกแบบและตกแต่งด้วยวัสดุขับความดิบเท่แต่ดูดีมีราคาอย่างพวกโลหะต่างๆ เช่น เหล็ก ทองแดง และอะลูมิเนียม บรรจงสร้างเส้นสายผสานกับแสงเงาของกระจก สร้างการสะท้อนและทำให้บ้านมีมิติมากขึ้น ไม่ดูทึบหรืออึดอัดจนเกินไป จะเป็นกระจกสีดำ สีชา หรือสีขุ่นก็ได้ทั้งนั้น ตามใจคุณ


แต่ในเมื่อคำว่า บ้าน ที่แปลว่า Home แฝงนัยยะแห่งความอบอุ่น แนะนำให้คุณเพิ่มสไตล์การตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์แบบ Rustic ให้ความรู้สึกย้อนยุค อบอุ่น ชวนละมุน เพราะเน้นการใช้งานวัสดุและของตกแต่งบ้านที่เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา เผยเนื้อแท้ความงดงามของธรรมชาติที่เต็มไปด้วยร่องรอย ไม่ต้องสมบูรณ์เต็มร้อยแต่อย่างใด อย่างพวกเฟอร์นิเจอร์โต๊ะเก้าอี้เผยลายไม้เก่าๆ โต๊ะกาแฟแบบปูทับด้วยหิน หรือพื้นปูนและแผ่นหินที่ใช้ชีวิตมาอย่างโชกโชนนี่แหละใช่เลย


ที่สำคัญ...ไม่ได้จำกัดแค่วัสดุหรือของตกแต่งขนาดใหญ่เท่านั้น แต่ยังเหมารวมถึงชิ้นส่วน ภาชนะ หรือของตกแต่งเล็กๆ ที่คุณสามารถเลือกมาจัดวางให้เข้ากับ Rustic Modern Style ได้อีกด้วย

โหยหาศิลปะและธรรมชาติ


นอกเหนือจากการผสมผสานความเก่าและใหม่ด้วย Rustic Modern Style แล้ว ชาวมิลเลนเนียลยังโหยหา “ศิลปะ” เพราะช่วยบำบัดและเยียวยาจิตใจได้เป็นอย่างดี จึงเริ่มเห็นหลายๆ คนสนใจซื้องานศิลปะมาประดับบ้านเพื่อบอกเล่าตัวตน ว่านี่แหละคือลายเส้นและสีสันที่ฉันชอบ หรือแม้แต่นำชิ้นงานเฟอร์นิเจอร์ ประดิษฐ์โดยช่างมากฝีมือมาจัดวางให้เป็นองค์ประกอบโดดเด่นที่สุดภายในบ้าน


และการอยู่ในเมืองก็ทำให้คนวัยนี้โหยหา “ธรรมชาติ” เช่นกัน การจัดสรรพื้นที่บางส่วนของบ้านให้เป็นพื้นที่ของต้นไม้และสวน นอกจากจะเพิ่มสีเขียวสบายตาให้แก่คนในบ้านแล้ว ยังช่วยหล่อเลี้ยงจิตใจให้หายจากความเครียดได้ดียิ่ง เป็นความสัมพันธ์ต่างตอบแทนระหว่างคนกับต้นไม้...คนปลูกต้นไม้ ต้นไม้ก็ปลูกความสดใสในใจคนเช่นกัน


โลกอีกใบของคนหมกมุ่น

เชื่อว่าชาวมิลเลนเนียลหลายคนน่าจะเคยถามตัวเองว่า “ชอบตัวเองมากที่สุดเวลาไหน” แน่นอนว่าคำตอบแตกต่างกันไป แต่หนึ่งในนั้นน่าจะมีคำตอบทำนองว่า “ชอบตัวเองเวลาหมกมุ่นกับอะไรบางอย่างนานๆ”


บ้านของชาวมิลเลนเนียลจึงสะท้อนตัวตนและความสนใจ หันมาต่อเติมพื้นที่หรือดัดแปลงมุมใดมุมหนึ่งของบ้านให้เป็น “สตูดิโอ” สร้างสรรค์ผลงาน ทั้งงานศิลปะ งานคราฟต์ งานช่าง รวมถึงงานครัวอย่างการทำอาหารและขนม จะทำไว้กินไว้ใช้เองหรือต่อยอดเป็นอาชีพสร้างรายได้เสริมก็ดีเลิศทั้งนั้น เพราะการได้จดจ่อและอยู่กับตัวเองใน “สเปซส่วนตัว” เหมือนหลุดไปอยู่โลกอีกใบ ช่างดีต่อใจมากจริงๆ บางทีก็อยากสงวนพื้นที่นั้นไว้ชื่นชมเพียงคนเดียว บ้างก็พร้อมแบ่งปันให้คนใกล้ชิดได้มีโอกาสสัมผัสเรื่องเล่าและประสบการณ์ผ่านข้าวของต่างๆ

เก็บรายละเอียดของชีวิตในทุกซอกมุม


นอกเหนือจากความสุนทรีย์หล่อหลอมจิตใจแล้ว ทดสอบ การสร้างความยั่งยืน (Sustainability) และประสิทธิภาพ (Efficiency) ในทุกองค์ประกอบ ถือเป็นสิ่งที่ชาวมิลเลนเนียลให้ความสำคัญ บ้านในฝันจึงต้องได้รับการจัดสรรพื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพราะหลายคนน่าจะอยู่ในสภาพ “คนมีของ (เยอะ)” จึงต้องมีที่เก็บของให้มากที่สุด เสริมการจัดเลย์เอาต์ของบ้านไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ให้เหมาะสม เพื่อให้บ้านดูเป็นระเบียบ เรียบร้อย ฟังก์ชันที่ตอบโจทย์ชีวิตจริงของการอยู่บ้านจึงถูกออกแบบผ่านเฟอร์นิเจอร์มากมาย ทั้งโต๊ะและตู้แบบ Multi-function เก้าอี้แบบลอยที่ใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย รวมถึงเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ ที่ได้รับการดัดแปลงความสามารถให้เก็บของกระจุกกระจิกได้ ไม่ต้องทิ้งสิ่งของซึ่งล้วนสะท้อนรายละเอียดและเรื่องราวของชีวิตได้ดีไม่แพ้คำบอกเล่า

เทคโนโลยีประหยัดพลังงาน สร้างความง่ายแก่การอยู่อาศัย


เมื่อเทรนด์รักษ์โลกเด่นชัด ยิ่งทำให้คนยุคมิลเลนเนียลสนใจแนวคิด “การประหยัดพลังงาน” (Energy Efficient) มากขึ้น ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อบ้านและคอนโดมิเนียมในเมือง รวมถึงการเลือกเฟอร์นิเจอร์จากวัสดุธรรมชาติอย่างไม้ หิน และโลหะเป็นหลัก ลดการสร้างขยะให้แก่โลกน้อยที่สุด พร้อมเปิดรับ “เทคโนโลยี” ที่นอกจากจะเป็นมิตรกับธรรมชาติแล้ว ยังต้องฉลาด ตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่ดี สะดวกสบาย และง่ายขึ้นด้วย ไม่ว่าจะเป็นระบบการล็อกบ้านที่แม้แต่คนขี้ลืมยังวางใจ การสั่งงานด้วยเสียงต่างๆ และการตั้งเวลาการทำงานของเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านได้แบบอัตโนมัติ


จะเห็นได้ว่าเมื่อเทคโนโลยี การออกแบบฟังก์ชันการใช้งานภายในบ้านที่มอบความสะดวกสบาย ผนึกกับไลฟ์สไตล์และตัวตนของผู้อยู่อาศัย ทำให้บ้านของชาวมิลเลนเนียลไม่ใช่แค่ที่อยู่อาศัย แต่เป็นนิทรรศการบอกเล่าเรื่องราวในชีวิตมากมาย พร้อมให้ได้ออกแบบกันตามต้องการ!
กำลังมองหาบ้านยุคใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีใส่ใจกับสิ่งแวดล้อม

ขอบคุณข้อมูล

แสนสิริ Blog