The Great Reset: การปรับตัวครั้งใหญ่ของภาคธุรกิจเพื่อเป็นผู้อยู่รอดอย่างถาวร

เทคโนโลยีในโลกปัจจุบันมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะตั้งแต่ที่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งส่งผลให้เกิดรูปแบบการใช้ชีวิตประจำวันเป็นรูปแบบใหม่อย่างที่ไม่เคยเจอมาก่อน จึงส่งผลให้เทคโนโลยีต่างๆ มีบทบาทและจำเป็นต่อการดำรงชีวิตในปัจจุบันเป็นอย่างมาก โดยหลายๆ องค์กรได้มุ่งเน้นนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีเข้ามาเป็นกำลังเสริมในการทำงานมากขึ้น เช่น ด้านการแพทย์ที่ได้นำเทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาช่วยให้การรักษาโรคมีประสิทธิภาพมากขึ้น หรือการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง อย่างการทำงานจากที่บ้าน การเรียนออนไลน์และการช้อปปิ้ง เป็นต้น


เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงและรวดเร็ว หลายธุรกิจจึงมีความจำเป็นที่ต้องเตรียมพร้อมรับมือและปรับตัวให้เข้ากับทิศทางความต้องการของผู้บริโภค โดยการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์เพื่อตอบโจทย์การใช้งานและข้อจำกัดในยุคปัจจุบัน ซึ่งนับว่าเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงนวัตกรรมไปยังอุตสาหกรรมอื่นๆ เช่น การดูแลรักษาสุขภาพ การขนส่ง และการเงิน เป็นต้น


นอกจากนี้อีกเทรนด์หนึ่งที่มีการขยายตัวอย่างเห็นได้ชัดก็คือ อีคอมเมิร์ซ (พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์) เพราะหากยังทำธุรกิจแบบเดิมๆ มีช่องทางการจำหน่ายแค่เพียงหน้าร้านช่องทางเดียว ธุรกิจนั้นก็มีความเสี่ยงที่จะเติบโตได้ช้าลง หรือต้องปิดตัวลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้


สำหรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซในประเทศไทยเติบโตอย่างรวดเร็ว จาก 4 ประการด้วยกัน ได้แก่


1. อัตราการเข้าถึงระบบอินเทอร์เน็ตที่สูงถึง 79% (อ้างอิง: Statista)

2. สัดส่วนประชากรที่ใช้โซเชียลมีเดียที่สูงถึง 78% (อ้างอิง: Statista)

3. ระบบการชำระเงินออนไลน์ที่มีประสิทธิภาพทั้งยังมีค่าธรรมเนียมต่ำ

4. ระบบขนส่งที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง


นอกจากผู้บริโภคจะได้รับความสะดวกสบายบนโลกตลาดออนไลน์แล้ว ผู้ประกอบธุรกิจที่มีความพร้อมก็จะสร้างความได้เปรียบด้วยเช่นเดียวกัน เนื่องจากระบบนี้จะช่วยให้ผู้ประกอบธุรกิจสามารถเข้าถึงลูกค้าได้ง่ายขึ้น เร็วขึ้นในทุกที่ทุกเวลา ไม่ว่าผู้บริโภคจะอยู่ส่วนไหนของโลก ทั้งยังประหยัดต้นทุนในส่วนที่เป็นค่าเช่า ค่าตกแต่ง และค่าสาธารณูปโภคต่างๆ อีกด้วย


โดยธุรกิจที่อาจได้รับผลกระทบค่อนข้างมากจากธุรกิจอีคอมเมิร์ซ เช่น ธุรกิจร้านอาหารที่ต้องเผชิญกับความท้าทายครั้งใหม่ ต้องปรับตัวเพื่อสนองตอบความต้องการของลูกค้าด้วยการให้บริการส่งถึงบ้านผ่านแอปพลิเคชันผู้ให้บริการ ซึ่งถือว่าเป็นแนวทางที่เกือบทุกร้านเลือกใช้เพราะเป็นวิธีที่ตอบโจทย์พฤติกรรมการใช้ชีวิตของคนในยุคโควิด-19 ได้ตรงจุดที่สุด หรือธุรกิจเสื้อผ้าที่มีการแข่งขันเพิ่มสูงขึ้นมาก โดยผู้ประกอบการรายเล็กที่ผลิตสินค้าคุณภาพใกล้เคียงสามารถแข่งขันกับรายใหญ่ได้ง่ายมากขึ้นเนื่องจากภาระต้นทุนที่ต่ำกว่า รวมถึงธุรกิจสื่อและสิ่งพิมพ์ที่ต้องปรับตัวอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นหนังสือพิมพ์หรือนิตยสารที่มีรายได้ลดลงอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสังคมโซเชียลมีเดียได้เข้ามาทำหน้าที่แทน หากไม่สามารถปรับตัวได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพเพียงพอ ก็จะต้องเผชิญกับความเสี่ยงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

the-great reset-01

อย่างไรก็ตาม การใช้ช่องทางแบบอีคอมเมิร์ซอาจจะไม่ใช่คำตอบของทุกธุรกิจเสมอไป บางธุรกิจก็ยังจำเป็นที่จะต้องมีหน้าร้านเพื่อให้ได้เห็น ได้สัมผัส และทดลองใช้สินค้าจริงอยู่ เช่น ธุรกิจเครื่องประดับหรือธุรกิจสินค้าที่มีราคาสูง ซึ่งต้องอาศัยความน่าเชื่อถือจากการมีหน้าร้านชัดเจน พร้อมทั้งมีความคล่องตัวในการได้รับสินค้าทันที


แต่ไม่ว่าจะช่องทางใดก็ตาม การโฆษณาผ่านช่องทางสื่อสังคมโซเชียลก็ถือว่ามีความจำเป็นอยู่มากในยุคปัจจุบัน ดังนั้นหากย้อนกลับมามองการเปลี่ยนโลกการทำธุรกิจที่อยู่ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีต่างๆ อย่างรวดเร็ว จะเห็นได้ว่าผู้ประกอบการและองค์กรที่พร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็วเท่านั้นจะสามารถอยู่รอดและเพิ่มการเติบโตของธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง


สำหรับนักลงทุนที่สนใจลงทุนในกองทุนที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี บลจ.ไทยพาณิชย์ ขอนำเสนอก องทุน ARK Series ซึ่งมีให้เลือกลงทุนหลากหลายหลายกลุ่มเทคโนโลยี ได้แก่


1. กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ Innovation (SCBINNO) ลงทุนในกองทุนรวมต่างประเทศเพียงกองทุนเดียว คือ ARK Innovation ETF (ARKK) (กองทุนหลัก) เน้นลงทุนในธุรกิจที่ได้ประโยชน์จากความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีใหม่ๆ ในหลากหลายอุตสาหกรรม


2. กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ Autonomous Technology & Robotics (SCBAUTO) ลงทุนในกองทุนรวมต่างประเทศเพียงกองทุนเดียว คือ ARK Autonomous Technology & Robotics ETF (ARKQ) (กองทุนหลัก) มุ่งเน้นลงทุนในธุรกิจด้านเทคโนโลยีการขนส่ง หุ่นยนต์ และระบบอัตโนมัติ


3. กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ Next Generation Internet (SCBNEXT) ลงทุนในกองทุนรวมต่างประเทศเพียงกองทุนเดียว คือ ARK Next Generation Internet ETF (ARKW) (กองทุนหลัก) เน้นลงทุนในธุรกิจด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยี


4. กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ Genomic Revolution (SCBGENOME) ลงทุนในกองทุนรวมต่างประเทศเพียงกองทุนเดียว คือ ARK Genomic Revolution ETF (ARKG) (กองทุนหลัก) เน้นลงทุนในธุรกิจนวัตกรรมสุขภาพและพันธุกรรมเพื่อโอกาสในการรักษาโรค  และ


5. กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ Fintech Innovation (SCBFINTECH) ลงทุนในกองทุนรวมต่างประเทศเพียงกองทุนเดียว คือ  ARK Fintech Innovation ETF (ARKF) (กองทุนหลัก) มุ่งเน้นลงทุนในธุรกิจด้านนวัตกรรมการเงิน


นอกจากนี้ยังเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้แก่ผู้ลงทุนโดยเปิดให้ได้เลือกลงทุนถึง 3 รูปแบบ ได้แก่ 1. ชนิดสะสมมูลค่า ที่เปิดให้เปิดให้ซื้อได้ในทุกช่องทาง 2. ชนิดช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ ในรูปแบบ E-Class ซึ่งฟรีค่าธรรมเนียมการซื้อและการจัดการ โดยต้องลงทุนผ่าน SCBAM Fund Click เท่านั้น และ 3. ชนิดกองทุนรวมเพื่อส่งเสริมการออมระยะยาว (SSF)


ข้อมูล ณ วันที่ 5 ตุลาคม 2564


บทความโดย คุณณรงค์ศักดิ์ ปลอดมีชัย  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด


ที่มา : The Standard Wealth