จากการเปลี่ยนแปลงของโลกธุรกิจและชีวิตในแบบเดิมสู่ยุคดิจิทัล ผู้ประกอบการจำเป็นต้องปรับตัว และวางกลยุทธ์การขายใหม่เพื่อให้เราเข้าไปอยู่ในสายตา และอยู่ในใจผู้บริโภคตลอดเวลา ดังนั้นการทำการตลาดดิจิทัล จึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ธุรกิจเดินต่อไปได้อย่างไม่สะดุด

จากงานสัมมนา SCB IEP 16 : Food and Beverage Game Changer (Day 4) ครั้งนี้ ทางหลักสูตรได้เชิญวิทยากรผู้เชี่ยวชาญในเรื่องการทำการตลาดดิจิทัลมาแชร์ประสบการณ์ในการบริหารธุรกิจ พร้อมชี้แนวทางในการวางกลยุทธ์ ที่สามารถนำมาปรับใช้การบริหารกิจการได้ต่อไป

จุดเริ่มต้นของธุรกิจสายสุขภาพ

คุณอาริยะ คำภิโล หรือคุณกล้อง ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Jones Salad ร้านสลัดผักชื่อดังสำหรับสายสุขภาพ เล่าถึงจุดเริ่มต้นของร้าน ที่เริ่มต้นมาจากการตรวจเจอเนื้องอกขนาดใหญ่ที่มีโอกาสพัฒนาเป็นมะเร็ง และคุณหมอแนะนำให้ผ่าตัดออกอย่างรวดเร็ว ซึ่งเมื่อการรักษาผ่านพ้นไปด้วยดี คุณกล้องก็หันกลับมาใส่ใจเรื่องการทานอาหารที่ดีมีประโยชน์ และทานผักให้มากขึ้น เพราะเชื่อว่าอาหารที่ดีจะช่วยลดปัจจัยเสี่ยงในการเติบโตของเนื้องอกได้

ณ ตอนนั้น คุณพลอย (แฟนคุณกล้อง) ​ไปเรียนต่อที่ออสเตรเลีย และไปพักอยู่บ้านญาติ (น้าไก่ และน้าโจนส์) ซึ่งคุณพลอยมักเล่าให้ฟังว่าน้าโจนส์มีสูตรน้ำสลัดที่อร่อยมากอยากให้คุณกล้องมาชิม และเมื่อคุณกล้องบินไปเยี่ยมคุณพลอยจึงมีโอกาสได้ไปชิมน้ำสลัดจากน้าโจนส์ ผลคือชอบมาก จึงขอร้องให้น้าโจนส์สอนทำน้ำสลัดรสชาติต่างๆ จึงกลับมาเปิดร้านอาหารสุขภาพอย่างที่เคยตั้งใจ โดยตั้งชื่อร้านว่า “โจนส์สลัด” ตามชื่อลุงโจนส์เจ้าของสูตรน้ำสลัด และเปิดสาขาแรกที่จามจุรีสแควร์ ซึ่งได้รับผลตอบรับที่ดีเกินคาด

แต่เมื่ออยู่จนครบสัญญาเช่า ก็เริ่มมีปัญหาเรื่องพื้นที่เช่า ทำให้ร้านหยุดไปชั่วคราว และได้ค้นพบว่าสิ่งที่ร้านต้องปรับปรุงคือการสร้างแบรนด์ เพราะเราไม่ได้ขายแค่สินค้า แต่แบรนด์ต้องชัดเจนในสายตาผู้บริโภคด้วย เมื่อได้วางแบรนด์ของร้านใหม่ จึงได้กลับมาเปิดอีกครั้ง ซึ่งได้ผลตอบรับที่ดีกว่าเดิม จึงเริ่มขยายสาขาออกไปเรื่อยๆ

ยิ่งธุรกิจช่วยเหลือสังคมได้มาก ก็ยิ่งยั่งยืนขึ้น

ไอเดียสร้างเพจ Jones Salad มาจากความต้องการในการสร้าง Content ให้ความรู้เรื่องสุขภาพที่ดูง่ายและสนุก โดยนำ Character ของลุงโจนส์มาวาดเป็นการ์ตูน ในแง่ของสาระความรู้ ก็ได้พูดคุยปรึกษาหาข้อมูลจากทั้งคุณหมอ กูรู นักวิชาการ มีการนำ keyword ที่น่าสนใจ ไป search เพื่อค้นหางานวิจัยที่ช่วยยืนยันหรือสนับสนุนความถูกต้องอีกที คุณกล้องลองวาดภาพลุงโจนส์เอง มีการผูกเนื้อเรื่องให้น่าสนใจ โดยครั้งแรกทำเรื่อง กำเนิดพิภพพุงซึ่งเมื่อโพสต์ไป ก็ได้รับกระแสตอบรับที่ดีมาก จึงได้ทำชิ้นอื่นออกมาอีก และพัฒนารูปแบบ Content ไปเรื่อยๆ จากภาพนิ่ง สู่ VDO Motion จนเพจ Jones Salad กลายมาเป็น Community ของคนรักสุขภาพมากมาย และ Content ที่ผลิตออกมาก็ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง

ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มจำเป็นต้องทำ Online Marketing หรือไม่?

การตลาดออนไลน์เป็นเหมือนอาวุธใหม่ในการทำสงครามการตลาด แต่แบรนด์ก็ยังต้องการ Offline Marketing ซึ่งเหมือนกำลังทหารมาเสริมกำลังทัพให้ธุรกิจเดินต่อไปได้ดียิ่งขึ้น โดยต้องรู้จักเล่นกับลูกค้าให้ตรงจุด ในแต่ละช่วงเทศกาล เพื่อกระตุ้นยอดขายและดึงลูกค้าใหม่ๆ เข้ามาอยู่เสมอ

การสร้าง Content เป็นเรื่องสำคัญ โดยแต่ละธุรกิจก็จะมีแง่มุมในการขายที่ต่างกันออกไป โดยเราต้องแยกให้ออกว่าเราสร้างคอนเท้นต์ขึ้นมาเพื่ออะไร ถ้าเป็น Value Content จะไม่ขายของ แต่จะทำให้ภาพแบรนด์ชัดเจนขึ้น ซึ่ง engage ของ Content แบบนี้จะดีกว่า Selling Content ที่ตั้งใจขายของเลย แต่แบรนด์ก็ต้องมี Content ทั้ง 2 ประเภท เพื่อให้แบรนด์เป็นที่รัก และขายสินค้าได้ด้วย

Content ที่ดีจะได้ Engage ดีไปด้วย ซึ่งประกบด้วย 3 องค์ประกอบ คือ

• เนื้อหาที่มีประโยชน์ มีความน่าเชื่อถือ กระชับ ตรงประเด็น มีความชัดเจน
• ดีไซน์สวยงาม ภาพต้องชัดเจน และสื่อถึงเนื้อหา
• ความน่าสนใจ เพราะถ้าประเด็นไม่น่าสนใจ ต่อให้ทำเนื้อหาดีแค่ไหนก็ไม่ใช่อยู่ดี

ดังนั้นในการผลิต Content ต้องเริ่มจากเนื้อหาที่จะนำเสนอ บวกกับการสร้างความน่าสนใจ และใช้ดีไซน์เป็นตัวเชื่อม เพื่อให้งานน่ามอง ผู้บริโภคเข้าใจง่ายขึ้น ที่สำคัญคือต้องทำ content ให้ตรงกลุ่ม target ของเรา

นอกจากนี้ การพาดหัวเรื่องก็สำคัญ เพราะ หัวเรื่องเป็นจุดเริ่มที่จะทำให้คนอ่านหรือไม่อ่านข้อมูลของเรา ซึ่งหัวเรื่องก็ควรสัมพันธ์กับเนื้อเรื่องด้วย ไม่ใช่แค่ตั้งไว้เพื่อหลอกให้คนเข้ามาอ่าน เช่น ในเพจจะทำเรื่อง นอนดึกยังไงให้สุขภาพดี ทำออกมาแล้วโพสต์ดึกๆ ปรากฎว่าได้ engage ดีมาก หรือ ลูบได้คลำได้ แต่อย่าเอาไม้แคะหู เป็นเรื่องเกี่ยวกับการปั่นหู แต่เอาเพลงที่คุ้นเคยกันมาเล่นคำ ทำให้น่าสนใจยิ่งขึ้น

คิดถึงออนไลน์ คิดถึงมือถือ

คุณอุกฤษฎ์ ตั้งสืบสกุล (มิ้นท์) ผู้เชี่ยวชาญด้าน Digital Marketing และ CEO and Founder บจ.มิ้นอิมเมจ กล่าวว่าปัจจุบัน ผู้ประกอบการพยายามเพิ่มช่องทางการขายบนโลกออนไลน์ เพื่อเข้าถึงลูกค้าให้มากขึ้น แต่การทำการตลาดออนไลน์จำเป็นต้องมีกลยุทธ์ ถึงจะมีผลสำเร็จที่ชัดเจน และสร้างกำไรได้ดียิ่งขึ้น

ก่อนจะเข้าใจออนไลน์ต้องเริ่มจากเข้าใจคนก่อน เพราะสิ่งที่เข้ามาหาเราในปัจจุบัน มันไม่ใช่เทคโนโลยี แต่เป็นเพราะพฤติกรรมของเราเปลี่ยนไป ซึ่งการตลาดออนไลน์ในปัจจุบัน 90% อยู่บนมือถือ ดังนั้นในการทำโฆษณาออนไลน์ทุกประเภท ทั้งภาพ วิดีโอ ต้องคำนึงถึงสิ่งที่ลูกค้าจะเห็นบนจอมือถือเป็นหลัก ถ้าดูบนมือถือไม่ได้ หรือดูแล้วอ่านไม่ออก แสดงว่าชิ้นงานนั้นใช้ไม่ได้

การตลาดออนไลน์จะเกิด 2 อย่าง คือ

1. ซื้อขายกับคอม เรียกว่า E-Commerce คือ การซื้อกันแบบไม่เคยเจอหน้า เช่น ซื้อขายผ่านออนไลน์
2. ซื้อขายกับคน เรียกว่า Lead Generation คือ การเอาคนบนโลกออนไลน์เข้ามาที่เว็บไซต์ และนำคนเหล่านั้นเข้ามาซื้อของจริงๆ ที่หน้าร้าน

การทำ Customer Journey จะทำให้เราเข้าใจลูกค้ายิ่งขึ้น โดยดูว่าลูกค้าเป็นใคร ทำอะไร สนใจอะไร มีพฤติกรรมอย่างไร เจออะไรในแต่ละวัน แต่ละช่วงเวลาบ้าง ซึ่งก่อนซื้อลูกค้าจะเริ่มจากชื่นชอบก่อน แล้วจึงจะเชื่อในสิ่งที่แบรนด์บอก จนถึงลองซื้อมาใช้ ถ้าชอบก็จะแชร์ ไม่ชอบก็จะแช่ง สุดท้ายถ้าลูกค้ารัก ก็จะช่วยเชียร์ให้เราด้วย

Content Marketing เป็นเรื่องสำคัญ เราต้องนำเสนอในสิ่งที่คนอยากรู้ อยากดู อยากเห็น โดยต้องคิดเรื่องของเขา และนำเสนอเรื่องของเราในแบบที่เขาเข้าใจง่าย โดยเรามีเวลาแค่ 1.7 วินาที ในการดึงดูดความสนใจคน ดังนั้นต้องสร้างความน่าสนใจ และทำให้ลูกค้าหยุดเพื่อจะดูเรา

เว็บไซต์ คือ สิ่งเดียวบนออนไลน์ที่แบรนด์เป็นเจ้าของเอง

การสร้างเว็บไซต์เป็นสิ่งที่สำคัญ แบรนด์ควรมีเว็บไซต์ที่ลูกค้าสามารถจะเข้ามาเจอได้บน Google โดยทำทั้ง SEO และ SEM เพราะเวลาที่ลูกค้าต้องการ เราต้องอยู่ตรงนั้นเสมอ เพราะถ้าเข้ามาแล้วไม่เจอ คู่แข่งอาจพาลูกค้าไปได้ เว็บไซต์ที่ดีจะเป็นเหมือนพนักงานขายให้เราตลอด 24 ซั่วโมง ดังนั้นการลงทุนทำเว็บเป็นสิ่งจำเป็นที่บริษัทต้องคำนึงถึง

เคล็ดลับในการทำการตลาดออนไลน์ มี 5 ขั้นตอน

1. สร้างตัวตนในโลกออนไลน์ (Build Your Online Identity) ผ่าน Facebook Page , Website สิ่งสำคัญคือต้องใช้ตัวสะกดที่ง่ายต่อการจดจำ และพิมพ์ง่าย
2. ทำให้คนเห็น (Create Awareness) ด้วยเครื่องมือผ่าน Banner/VDO/Facebook Ad โดยสื่อต้องอ่านออกบนมือถือ ตัวใหญ่ชัดเจน
3. ดักคนหา (Search Engine Mandatory) ผ่านการ Google Adword โดยถ้าลูกค้า Search ต้องเจอเราไม่ใช่คู่แข่ง
4. ได้เวลาขาย (Conversion) ต้องวางเป้าหมายให้ชัดเจน ซึ่งจะเป็นตัวกำหนด Strategy และทำแคมเปญออกมาได้
5. สุดท้ายต้องวัดผล (Analyze/Optimize) โดยการวัดผลต้องเป็นตัวเลขและนำมาวิเคราะห์หา insightเพื่อให้รู้จุดอ่อน ที่จะทำให้เกิดการพัฒนาต่อไป

กลยุทธ์ที่ชัดเจนจะนำมาสู่ยอดขายของบริษัท เราต้องวางแผนให้ชัด และตอบให้ได้ว่าทำไมลูกค้าต้องซื้อสินค้ากับเรา ที่สำคัญต้องหา Unique Selling Point ของธุรกิจ เพราะจุดขายที่โดดเด่นจะสามารถนำไปสร้าง Story ให้น่าสนใจยิ่งขึ้น

การเลือกช่องทางอย่างเหมาะสมเป็นสิ่งจำเป็นของธุรกิจยุคนี้

คุณบุรินทร์ เกล็ดมณี ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท เรดดี้แพลนเน็ต จำกัด ผู้ให้บริการระบบเว็บไซต์สำเร็จรูปแห่งแรกในประเทศไทย กล่าวว่าสินค้าที่คนซื้อมีอยู่ 2 ประเภท คือซื้อด้วยอารมณ์ และซื้อด้วยเหตุผล (ความจำเป็น) ที่สำคัญแบรนด์ต้องดูสินค้าของตัวเองว่าลูกค้าจะซื้อเพราะอะไร จากนั้นจึงเลือกช่องทางในการเข้าถึงลูกค้าอย่างเหมาะสม

ทั้งนี้ เว็บไซต์เป็นสิ่งจำเป็นที่แบรนด์ต้องมี โดยถ้าอยากเพิ่มยอดขายจำเป็นต้องเพิ่ม Conversion Rate ซึ่งก็คือการเปลี่ยน Reach บนเว็บมาเป็นผู้ซื้อให้มากขึ้น ซึ่งมีหลายวิธี เช่น เพิ่ม Call, Chat, Social Chat , Call Back, Contact Form นอกจากนี้ Customer Service ต้องมีหัวใจในการให้บริการ ตอบสนองอย่างรวดเร็ว และอาจใช้ Data base ของเรามาทำ CRM เพื่อดึงให้ลูกค้ามาซื้อสินค้ามากขึ้น

การเลือกช่องทางที่เหมาะสม และการทำโฆษณาให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย ก็จะเป็นตัวช่วยที่ทำให้ยอดขายเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่ผู้ประกอบการทุกคนพึงตระหนักถึงความสำคัญ และดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ธุรกิจก้าวทันโลกและก้าวล้ำคู่แข่งในยุคนี้

#IEP16FoodandBeverage #GameChanger #SMEwithPurpose #SCBSME